ขับรถทางไกลเปิดฝากระโปรงขณะจอดพักรถ หรือหลังดับเครื่องยนต์เมื่อถึงที่หมาย เพราะอะไร และการเปิดฝากระโปรงรถทิ้งไว้หลังจอดมีความจำเป็นจริงหรือไม่
ใครที่เดินทางออกต่างจังหวัดและสังเกตเห็นว่ามีรถยนต์บางส่วนเปิดฝากระโปรงรถทิ้งไว้ขณะจอดพัก หรือเมื่อถึงจุดหมายหลังดับเครื่องยนต์ทั้งที่รถไม่ได้มีปัญหา และเกิดความสงสัยว่าทำไมบางส่วนต้องเปิดฝากระโปรงเพื่ออะไร มีข้อดียังไง แล้วที่ถูกต้องควรจะปิดหรือเปิดกันแน่ ใครที่ยังไม่รู้เรามีคำตอบมาฝาก
ขับรถทางไกลเปิดฝากระโปรงหลังจอดทำไม
คนขับบางส่วนที่เปิดฝากระโปรงรถเมื่อจอดรถพักที่จุดพักรถ แวะปั๊ม แวะพัก หรือเมื่อแวะซื้อของ เหตุผลหลักคือ ต้องการระบายความร้อนภายในห้องเครื่องหลังจากวิ่งมาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากเมื่อดับเครื่อง ระบบระบายความร้อนไม่ทำงาน ไม่มีลมปะทะ เครื่องยนต์จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น จึงต้องเปิดฝากระโปรงเพื่อช่วยระบายความร้อน นอกจากนี้อาจได้ตรวจสอบด้วยสายตาคร่าว ๆ ด้วยว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์หรือไม่
ขับรถทางไกลเปิดฝากระโปรงจำเป็นไหม
ถึงแม้ว่าการเปิดฝากระโปรงจะช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ได้ แต่ไม่มีความจำเป็นหากรถอยู่ในสภาพปกติ และเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานในอุณหภูมิที่สูง โดยมีระบบระบายความร้อนเป็นตัวช่วยควบคุมให้อยู่ในระดับเหมาะสมขณะขับอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น การขับรถทางไกลและเปิดฝากระโปรงขณะจอดพัก หรือถึงจุดหมาย ไม่ได้ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ให้ทนทานขึ้นแต่อย่างใด แต่อาจช่วยให้ชิ้นส่วนโดยรอบในห้องเครื่องยนต์ เช่น พลาสติก ยาง เสื่อมสภาพช้าลงได้บ้าง แต่แทบไม่เห็นความแตกต่างชัดเจนนัก
นั่นหมายความว่า เมื่อขับรถทางไกล เมื่อจอดพักรถ หรือหลังดับเครื่อง ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดฝากระโปรงเพื่อระบายความร้อนแต่อย่างใด แต่ถ้าหากใครอยากจะเปิดก็สามารถทำได้ และไม่ว่าจะเปิดหรือไม่ก็ตาม เมื่อสตาร์ตรถเพื่อเดินทางต่อ อุณหภูมิเครื่องยนต์ก็จะกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการทำงานของรถแต่ละรุ่นอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรระวังสำหรับการเปิดฝากระโปรงรถทิ้งไว้ขณะดับเครื่องแล้วไปทำธุระโดยที่ไม่มีใครเฝ้ารถอยู่ใกล้ ๆ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง เพราะเป็นการเปิดทางให้มิจฉาชีพหรือบุคคลอื่นเข้ามาทำอะไรกับเครื่องยนต์ได้ เช่น ทำให้สตาร์ตไม่ติด มีปัญหา เพื่อจุดประสงค์ที่ไม่ดีได้ง่ายมาก
บทความที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่รถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : topgear.com.ph