เทียบสเปก BYD Dolphin กับ ORA Good Cat สองรถยนต์ไฟฟ้าตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดเล็ก สไตล์น่ารักกับงบประมาณราว 8 แสนบาท เลือกคันไหนดี ?
BYD Dolphin 2023 (บีวายดี ดอลฟิน 2023) หรือ ORA Good Cat 2023 (โอร่า กู๊ด แคท 2023) เลือกคันไหนดี ? ระหว่างสองรถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ในงบประมาณ 8 แสนบาท ขาดเกินเล็กน้อย ซึ่งทั้งคู่ใช้สไตล์ตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดเล็ก สีสันและดีไซน์น่ารัก อีกทั้งยังมีชื่อเรียกเป็นตระกูลสัตว์คล้ายกัน
โดยทางฝั่ง BYD Dolphin 2023 จะมีรุ่น Standard Range ราคาคาดการณ์ (รออนุมัติจากภาครัฐ) ใกล้เคียงกับ ORA Good Cat 2023 รุ่น 400 Pro จึงอาจต้องกางสเปกเปรียบเทียบว่าในจำนวนเงินพอ ๆ กันนี้มีความคุ้มค่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ไว้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจนอกเหนือจากความชอบส่วนตัวว่าคันไหนเหมาะสมเป็นรถคู่ใจมากที่สุด
BYD Dolphin 2023 รุ่น Standard Range
BYD Dolphin มีสัดส่วนเกือบจะเป็น Monospace คล้ายรถ MPV จากการขยับห้องโดยสารไปด้านหน้าให้ได้มากที่สุดจนต้องเพิ่มกระจกบานหน้าต่างด้านข้าง 1 คู่ ภายใต้ดีไซน์ที่เรียบร้อย ไม่ซับซ้อนแปลกตามากนัก นอกจากการใส่ลวดลาย Pinstripe ลงไปบนแผงกระจังหน้าสีดำแบบปิดทึบ กับบริเวณเสา C รวมถึงเดินเส้นด้านข้างตัวถังลดความเรียบโล่ง และดูมีพลวัตรทางสายตา ไฟหน้า-ไฟวิ่งกลางวัน-ไฟหลังเป็น LED กระจกมองข้างปรับ-พับเก็บไฟฟ้ามีระบบทำความร้อน ส่วนล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เกือบจะปิดทึบเพื่อให้ต้านลมน้อยที่สุด
ORA Good Cat 2023 รุ่น 400 Pro
สำหรับ ORA Good Cat มีสัดส่วนแบบรถทรงสองกล่อง แยกส่วนฝากระโปรงหน้ากับห้องโดยสารชัดเจนกว่า และงานออกแบบไปทาง Retro Futuristic น่ารักอ่อนโยน จากการใช้พื้นผิวเรียบมน โค้งเว้า ลดรายละเอียด ไฟหน้า LED ทรงกลมเรียบง่ายแต่มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์ และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ กับไฟท้าย Blackout ซึ่งหลอด LED จะสว่างขึ้นเฉพาะเมื่อเหยียบเบรกหรือเปิดไฟ โดยไฟเลี้ยวอยู่ในชุดไฟมุมกันชน นอกจากนี้ ORA Good Cat รุ่น 400 Pro ที่เป็นรุ่นพื้นฐาน จะมีหลังคากระจก Panoramic เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า รวมถึงระบบปัดน้ำฝน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
มิติตัวถัง | BYD Dolphin 2023 (Standard Range) |
ORA Good Cat 2023 (400 Pro) |
ยาว (มม.) | 4,125 | 4,235 |
กว้าง (มม.) | 1,770 | 1,825 |
สูง (มม.) | 1,570 | 1,596 |
ความยาวฐานล้อ (มม.) | 2,700 | 2,650 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 130 | 145 |
ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร
BYD Dolphin 2023 รุ่น Standard Range
ภายในห้องโดยสารของ BYD Dolphin รุ่น Standard Range ให้บรรยากาศแบบ Futuristic และตกแต่งด้วยโทนสีดำ-เบจ เบาะปรับด้วยมือหุ้มวัสดุสังเคราะห์ เบาะหลังแยกพับ 60:40 ติดตั้งหน้าจอดิจิทัลแยกเป็น 2 จุด คือ มาตรวัดขนาดเล็ก 5 นิ้ว แสดงข้อมูลที่จำเป็น กับจอมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว หมุนได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย พร้อมลำโพง 6 ตัว คอนโซลกลางเป็นแบบลอยตัว มีปุ่มเกียร์และเบรกมือไฟฟ้า รวมถึงช่องเก็บของ ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ มีระบบกรองอากาศ PM2.5 รวมถึงกุญแจ Keyless เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ORA Good Cat 2023 รุ่น 400 Pro
ขณะที่ห้องโดยสารฝั่ง ORA Good Cat ค่อนข้างเรียบง่ายสบายตา ด้วยสไตล์มินิมอล เพียงแต่รุ่น 400 Pro จะใช้โทนสีดำทั้งหมด ทำให้บรรยากาศดูจริงจังขึ้น ติดตั้งจอดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว และจอมัลติฟังก์ชันขนาด 10.25 นิ้ว วางเป็นแนวยาวอยู่ภายใต้กรอบเดียวกัน รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้
ส่วนคอนโซลกลางเล่นระดับ ด้านล่างสุดเป็นช่องวางของและแก้วน้ำแบบเปิดโล่ง อีกชั้นเป็นตำแหน่งวางปุ่มเกียร์ รวมถึงปุ่มเบรกมือไฟฟ้า ช่องชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย ตลอดจนที่เท้าแขน แต่เบาะคนขับของ ORA Good Cat รุ่น 400 Pro ให้มาแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง วัสดุหุ้มเบาะเป็นแบบสังเคราะห์ผิวสัมผัสนุ่ม เบาะหลังแยกพับได้ 60:40 ระบบแอร์เป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
BYD Dolphin 2023 รุ่น Standard Range
ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าบนเพลาหน้า จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ (Blade Battery) ขนาดความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 410 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
ORA Good Cat 2023 รุ่น 400 Pro
ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าบนเพลาหน้า จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาดความจุ 47.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
ระบบเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
BYD Dolphin 2023 รุ่น Standard Range
ใน BYD Dolphin 2023 ได้รับการติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX, ระบบควบคุมการทรงตัว, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, ระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการชนด้านหลัง, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยควบคุมเมื่อรถออกจากเลน, ระบบช่วยควบคุมรถกรณีฉุกเฉิน, ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ORA Good Cat 2023 รุ่น 400 Pro
ส่วน ORA Good Cat 2023 ก็ติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบเตือนป้ายจราจร และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX รวมถึงระบบช่วยขับขี่อย่างระบบควบคุมความเร็วแปรผันและช่วยขับเข้าโค้งตามเส้นจราจร, ระบบควบคุมความเร็วที่ความเร็วต่ำ, กล้องมองภาพ 360 องศา, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เป็นต้น
BYD Dolphin 2023 รุ่น Standard Range
มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่
-
สีม่วง Flora Purple
-
สีครีม Coastal Cream
-
สีเทา Alaskan Grey
-
สีชมพู Coral Pink
ORA Good Cat 2023 รุ่น 400 Pro
มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 2 สี 3 แบบ แบ่งเป็นทูโทนและโมโนโทน ได้แก่
-
สีขาว Hamilton White / หลังคาดำ
-
สีขาว Hamilton White
-
สีฟ้า Coral Blue
- BYD Dolphin 2023 รุ่น Standard Range ราคา 799,000 บาท (ราคาคาดการณ์โดยผู้ผลิต หลังหักส่วนลดจากภาครัฐ)
- ORA Good Cat 2023 รุ่น 400 Pro ราคา 828,500 บาท (หลังหักส่วนลดจากภาครัฐ)
แม้ทั้งคู่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดเล็กและมีความน่ารักสดใสเหมือนกัน แต่สไตล์นั้นแตกต่างค่อนข้างชัดเจน โดยดีไซน์ของ BYD Dolphin 2023 จะมีความโมเดิร์น สุภาพและเรียบร้อย ขณะที่ ORA Good Cat 2023 ที่มาในสไตล์เรโทร ให้ความรู้สึก Friendly และมีหลังคากระจกเลื่อนเปิด-ปิดได้มาให้
ส่วนอุปกรณ์ภายใน ORA Good Cat 2023 ได้เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ขณะที่ BYD Dolphin 2023 เป็นแบบปรับมือ แต่ส่วนอื่น ๆ ให้มาในระดับใกล้เคียงกัน เช่น จอแบบดิจิทัล แอร์อัตโนมัติ ระบบรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน รวมถึงฟังก์ชันการพับเบาะหลังแบบ 60:40
เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัย โดยรวมแล้วรถทั้ง 2 รุ่นให้มาใกล้เคียงกัน แต่ฟังก์ชันของระบบช่วยขับขี่ของ ORA Good Cat 2023 มีเยอะกว่าเล็กน้อย รวมถึงสมรรถนะที่ BYD Dolphin 2023 ดูจะเป็นรองอยู่บ้าง ยกเว้นระยะทางวิ่งหากวัดกันเฉพาะตัวเลข ซึ่งส่วนนี้ควรต้องดูการใช้งานจริงร่วมด้วยก่อนตัดสินใจ ที่เหลือคงเป็นเรื่องความสะดวกของศูนย์บริการหลังการขาย รวมถึงความชอบส่วนตัว เพราะความต้องการของผู้ใช้แต่ละรายย่อมแตกต่างกันไป ดังนั้นควรเลือกรถที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : gwm.co.th และ reverautomotive.com