MG VS HEV 2023 (เอ็มจี วีเอส เอชอีวี 2023) รถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV ขนาดซับคอมแพกต์ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ MG ZS 2022 แต่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด ช่วยให้มีกำลังสูงขึ้น ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยลดลง และมีฟีเจอร์ i-SMART รองรับการสั่งงานด้วยเสียง เช็กสถานะตัวรถผ่านสมาร์ตโฟน ในการค้นหาสถานที่ ข้อมูล ข่าวสาร หรือการจราจร โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ D และ X ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 6 สี
MG VS HEV 2023 ดีไซน์ภายนอก
MG VS HEV 2023 เป็นการนำ MG ZS 2022 มาเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าใหม่ ซึ่งยกมาจาก Roewe Lememo รถในเครือ SAIC ที่จำหน่ายในจีน ตั้งแต่ชุดไฟหน้าใหม่ทรงเหลี่ยมแบบ LED Projector พร้อม Daytime Running Lights มีระบบควบคุมการ เปิด–ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น X) แคบคาดด้วยแถบเส้นสีฟ้า ชุดกันชนที่รวมกับกระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design ส่วนหลังคามูนรูฟให้มาเฉพาะรุ่น X และเปลี่ยนล้ออัลลอยเป็นแบบ Aero Wheel Cover ที่ช่วยลดการต้านลมขณะขับขี่ ขนาด 17 นิ้ว นอกนั้นก็ยังคงเหมือน MG ZS 2022 รวมถึงมิติตัวถัง ยาว 4,370 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,653 มม. และฐานล้อยาว 2,585 มม. ที่ไม่ได้ต่างกันนัก
MG VS HEV 2023 ดีไซน์ภายใน
อย่างไรก็ตาม ภายในห้องโดยสารของ MG VS HEV 2023 จะให้ความรู้สึกทันสมัยกว่าด้วยการติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบ Dual Widescreen Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว 2 จอ โดยแบ่งเป็นส่วนของมาตรวัดกับจออินโฟเทนเมนต์ รวมไว้ในกรอบเดียวกัน มีระบบเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพง 6 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และช่องเชื่อมต่อ USB
ส่วนการตกแต่ง MG VS HEV 2023 ในรุ่น D จะเป็นโทนสีดำ ส่วนในรุ่น X ที่เป็นรุ่นท็อป ใช้สีแบบทูโทน เบาะที่นั่งทำจากวัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งภายในด้วยวัสดุ Soft Touch รองรับผู้โดยสารสูงสุด 5 ที่นั่ง เบาะที่นั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง ปรับด้วยไฟฟ้าเฉพาะรุ่น X เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงปรับพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่ใช้สอยสำหรับเก็บหรือวางสัมภาระ
นอกจากนี้ ยังคงฟีเจอร์ i-SMART ที่ประกอบไปด้วยลูกเล่นต่าง ๆ เช่น ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์, ระบบสั่งการและค้นหาตำแหน่งรถ, ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์, ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ แจ้งเตือนนัดหมาย-บันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ, ระบบสั่งงานด้วยภาษาไทย, ระบบสั่งงานเปิด-ปิดแอร์ระยะไกลผ่านทางสมาร์ตโฟน, ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan, ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre, ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency call
รวมถึงระบบเชื่อมต่อ SMART CONNECT ผ่านอินเตอร์เน็ต เล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง, ระบบนำทางที่รายงานการจราจรแบบ Real Time หรือค้นหาร้านอาหาร ที่พัก เรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน ข้อมูลพยากรณ์อากาศได้ เป็นต้น
MG VS HEV 2023 เครื่องยนต์และสมรรถนะ
MG VS HEV 2023 ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันทั้งระบบสูงสุด 177 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด คือ Eco, Comfort และ Sport พร้อมกับโหมด (KERS) ที่เปลี่ยนพลังงานจลน์ขณะชะลอรถให้กลายเป็นไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 24.4 กิโลเมตร/ลิตร
MG VS HEV 2023 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
MG VS HEV 2023 ทั้งสองรุ่นย่อยจะติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า, เบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัวทางตรงและขณะเข้าโค้ง, ระบบป้องกันล้อฟรี, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบจำกัดความเร็ว, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนถุงลมนิรภัย 6 จุด, กล้องมองภาพรอบทิศทางจะมีในรุ่น X ขณะที่รุ่น D จะให้ถุงลมนิรถัย 4 จุด และกล้องมองหลัง
MG VS HEV 2023 มีกี่สี
สีเขียว หลังคาดำ Mineral Green / Black Top
(เฉพาะรุ่น X เท่านั้น)
สีเทา หลังคาดำ Metal Ash Grey / Black Top
(เฉพาะรุ่น X เท่านั้น)
สีขาว หลังคาดำ Arctic White / Black Top
(เฉพาะรุ่น X เท่านั้น)
สีขาว Arctic White
สีแดง Scarlet Red
สีดำ Black Knight
MG VS HEV 2023 ราคาจำหน่าย
MG VS HEV 2023 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ
-
MG VS HEV 2023 รุ่น D ราคา 739,000 บาท
-
MG VS HEV 2023 รุ่น X ราคา 819,000 บาท
MG VS HEV 2023 ราคา ตารางผ่อน-ดาวน์
เปรียบเทียบ MG VS HEV 2023 กับรถรุ่นอื่น ๆ
สำหรับรถ SUV รุ่นอื่นที่มีขนาดและราคาใกล้เคียงกับ MG VS HEV 2023 ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดเหมือนกัน คือ Toyota Yaris Cross โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดรวมกันทั้งระบบ 111 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 26.3 กิโลเมตร/ลิตร มี 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท รวมถึง Haval Jolion จากค่าย GWM ของจีน ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่กำลังสูงสุดมากถึง 190 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ราคาเริ่มต้น 879,000 บาท
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : mgcars.com