แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า สำหรับค้นหาจุดชาร์จไฟรถยนต์ EV ที่ควรมีติดเครื่องไว้ ไฟหมดกลางทางก็แวะชาร์จได้สะดวก
ปัจจุบันกระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ EV ในประเทศไทยเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยค่ายรถหลายแบรนด์ต่างก็ทยอยส่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องบอกว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในยุคน้ำมันแพงได้ไม่น้อยเลย แต่บางคนก็อาจยังกังวลในเรื่องของการชาร์จไฟ ว่าจะชาร์จไฟได้ที่ไหนบ้าง ถ้าไฟใกล้หมดกลางทางจะแวะชาร์จทันไหม ซึ่งในตอนนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายและครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากขึ้นแล้ว แถมยังมีแอปฯ ช่วยค้นหาสถานีชาร์จได้สะดวกบนมือถืออีกด้วย
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีข้อดีอย่างไร
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นรถพลังงานทางเลือกใหม่ โดยแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮบริด, รถยนต์พลังงานไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด, รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง หรือรถ Fuel Cell และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือที่เรียกกันว่า รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนั้นจะมีความแตกต่างกันในระบบพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ?
สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียว ๆ 100% จะเป็นรถที่ไม่มีการปลดปล่อยมลพิษ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ไม่มีเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยได้พลังงานมาจากแบตเตอรี่ที่อัดประจุไฟฟ้าจากภายนอก นอกจากนั้นยังประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมบำรุง รวมถึงค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ต้องจ่าย อีกทั้งยังเป็นรถที่มีอัตราเร่งที่สั่งได้ดั่งใจเพราะไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์
AC Charge กับ DC Charge ต่างกันอย่างไร
AC Charge หรือการชาร์จแบบธรรมดา เป็นการชาร์จไฟด้วยการจ่ายไฟแบบกระแสสลับ จะมีการปล่อยกระแสไฟฟ้าที่ต่ำ ทำให้ใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างนาน หากชาร์จไฟจนเต็มอาจใช้เวลา 7-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่และอัตราการจ่ายกระแสไฟของเครื่องนั้น ๆ
DC Charge หรือ Quick Charge เป็นการชาร์จไฟแบบเร็วด้วยการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง จะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-80% ในเวลาไม่เกิน 60 นาที ปริมาณและเวลาอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ภายในรถ
แอปฯ หาสถานีชาร์จรถไฟฟ้า
1. EVolt
แอปฯ ที่ให้คุณสามารถค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้สะดวกและง่ายดายผ่านมือถือ โดยสามารถดูข้อมูลได้ว่าแต่ละสถานีว่างหรือไม่ มีคิวเยอะหรือเต็มไหม เพื่อที่จะได้วางแผนเลือกว่าจะขับเข้าไปเติมสถานีไหนดี แถมยังสามารถสั่งเริ่มและหยุดการชาร์จได้ผ่านแอปฯ อีกด้วย
2. EA Anywhere
แอปฯ จากผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดและรถไฟฟ้าแบตเตอรี่ โดยสถานี EA Anywhere จะตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครเป็นหลัก สามารถค้นหาสถานีได้สะดวกผ่านแอปฯ บนมือถือ พร้อมทั้งช่วยนำทางไปยังสถานีชาร์จที่ผู้ใช้ต้องการใช้บริการ
3. PlugShare
แอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ EV และ Tesla ซึ่งสามารถค้นหาสถานีบนแผนที่ได้ โดยมีตัวกรองการค้นหาตามรูปแบบรถแต่ละประเภท พร้อมทั้งสามารถอ่านและดูรีวิวการใช้งานสถานีต่าง ๆ รวมทั้งเชื่อมต่อกับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคนอื่น ๆ ได้
4. MEA EV
แอปฯ สำหรับค้นหา จอง และชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิดในประเทศไทย โดยการไฟฟ้านครหลวง สามารถใช้ค้นหาสถานีชาร์จได้ทุกค่ายทั่วประเทศ พร้อมระบบวางแผนและคำนวณเส้นทาง มีบอกจุดแวะพักระหว่างทาง แถมยังสามารถจองตู้ชาร์จของสถานีในเครือการไฟฟ้านครหลวงได้อีกด้วย ควบคุมการชาร์จผ่านแอปฯ ได้ รองรับทั้งระบบชาร์จ AC และ DC
5. EV Station PluZ
แอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าโดยเครือ ปตท. ครอบคลุมการใช้งานสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยสามารถเช็กความพร้อมในการให้บริการของแต่ละสถานี และเช็กสถานะขณะชาร์จได้แบบเรียลไทม์
6. PEA VOLTA
แอปฯ สำหรับค้นหาสถานีรถไฟฟ้า ภายในเครือข่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมทั้งแสดงตำแหน่งสถานีที่อยู่ใกล้เคียง แสดงผลการค้นหาในรูปแบบแผนที่และนำทางด้วย GPS สามารถเลือกดูข้อมูลหัวชาร์จที่พร้อมใช้งาน และเลือกจองคิวการชาร์จล่วงหน้าได้
7. GO TO-U
แอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่รวมสถานีกว่า 3 แสนแห่งทั่วโลก สามารถเลือกสถานีชาร์จที่ต้องการใช้บริการแล้ววางแผนการเดินทางได้สะดวก พร้อมระบบจองการชาร์จล่วงหน้า โดยรองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง
และที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือแอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จไฟฟ้าที่คนใช้รถยนต์ EV ควรมีติดเครื่องไว้ เพียงเท่านี้ก็หมดห่วงแล้ว เพราะไม่ว่าไฟจะหมดตอนไหนก็สามารถค้นหาสถานีชาร์จใกล้ ๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดาย นอกจากนี้ถ้าหากอยากรู้ว่าในประเทศไทยมีสถานีชาร์จที่ไหนบ้างก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ : สถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทย มีที่ไหนบ้าง ?
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Google Play, App Store