x close

Ford Everest 2023 รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นใหม่ ลุ้นเปิดตัวในไทยปลายปีนี้

เผยโฉม Ford Everest รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด กับรูปลักษณ์หน้าตาใหม่หมดจด มีขุมพลังให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 และ 2.0 ลิตร ลุ้นเปิดตัวในไทยปลายปีนี้

Ford Everest

ภาพจาก : ford.co.th

หลังจากเปิดตัว Ford Ranger 2022 ไปเมื่อช่วงปลายปี 2021 และตามออกมาด้วย Ford Ranger Raptor เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด Ford Motor Company ได้เผยโฉม All-new Ford Everest 2023 เจเนอเรชั่นใหม่ รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง อย่างเป็นทางการ โดยมากับรูปโฉมภายนอกใหม่ที่ดูแข็งแกร่งดุดัน พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกทั้งดีเซล 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบ รวมถึงจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร ตามมาให้เลือกในช่วงปี 2566 โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย 

Ford Everest 2023 ดีไซน์ภายนอก

Ford Everest 2023 เป็นรถประเภท PPV ถูกพัฒนาขึ้นจาก Ford Ranger พร้อมกับขยายในช่วงระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น 50 มม. กว่ารุ่นที่ผ่านมา รวมถึงเพิ่มระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่มากขึ้น เพื่อให้ดูล้ำสมัยและบึกบึน ในด้านรูปลักษณ์ ก็ถูกยกมาจาก Ford Ranger ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าใหม่ที่เป็นแบบแนวนอนขนาดใหญ่สีดำ ชุดไฟหน้าแบบเมทริกซ์ LED รูปตัว C พร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่ในเวลากลางวัน เส้นด้านข้างตัวถังทอดยาวจากด้านหน้าจรดท้ายรถ มีฐานล้อที่กว้างทำให้ซุ้มล้อดูใหญ่

Ford Everest

ภาพจาก : ford.co.th

ในส่วนราวหลังคานอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถยังสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 350 กก. ขณะรถจอดอยู่กับที่ และรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กก. ขณะรถเคลื่อนที่ มาพร้อมจุดยึดที่รองรับการใช้งานหลากหลาย

Ford Everest

ภาพจาก : ford.co.th

Ford Everest 2023 ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบให้ดูกว้างขวาง แผงหน้าปัดด้านหน้าวางเต็มความกว้างของพื้นที่ คอนโซลกลางมาพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง สามารถปรับอุณภูมิและระบายอากาศได้ เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับการจดจำการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และเบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับอุณภูมิได้

Ford Everest

ภาพจาก : ford.co.th

เบาะนั่งแถวที่ 3 เข้า-ออกได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 ขยับมาด้านหน้ามากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งที่ชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครบทั้ง 3 แถว เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนได้ และพับได้แบบแบ่ง 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับแบบ 50:50 และสามารถพับได้แบบไฟฟ้า ทั้งนี้เบาะแถวที่ 2 และ 3 ยังพับได้แบบแบนราบเพื่อการบรรทุกสัมภาระยาว ๆ ได้

Ford Everest

ภาพจาก : ford.co.th

Ford Everest 2023 เครื่องยนต์และสมรรถนะ

ขุมพลังของ Ford Everest 2023 จะมีทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร EcoBoost มาเป็นอีกตัวเลือกในอนาคต ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบซีเล็กชิฟท์ 10 สปีด 

Ford Everest

ภาพจาก : ford.co.th

Next Gen Everest 2.0L Bi Turbo

Ford Everest

ภาพจาก : ford.co.th

Next Gen Everest V6 Diesel

ระบบการขับขี่ 4 ล้อ จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ประกอบด้วย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์ ที่มาพร้อมกับเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ พร้อมการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ขณะรถเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า (Electronic Shift-On-The-Fly) และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบฟูลไทม์ ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case - EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้งานให้เหมาะกับสภาพถนนได้ นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential ตะขอคู่หน้า และช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch

อีกทั้งยังได้ติดตั้งหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด ที่แสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถและสภาพเส้นทางด้านหน้าจากกล้องหน้า พร้อมกับแนวเส้นกะระยะ เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ และยังลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม. มีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กก. 

Ford Everest 2023 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย

ด้านเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 9 ตำแหน่ง มาพร้อมระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ix, ระบบปรับระดับแสงไฟตามความเร็วอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่าง, ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ) ประกอบด้วย

  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive Cruise Control with Stop and Go)

  •  ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Adaptive Cruise Control with Stop and Go and Lane Centering) 

  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent adaptive Cruise Control) 

นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ผสานระบบตรวจจับขอบถนน, ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง, ระบบตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง, ระบบป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก และกล้องมองรอบคัน 360 องศา เป็นต้น

เปรียบเทียบ Ford Everest 2023 กับรถรุ่นอื่น ๆ

สำหรับ Ford Everest 2023 จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นสปอร์ต รุ่นไทเทเนียมพลัส และรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดคือรุ่นแพลทินัม ซึ่งทาง Ford จะวางจำหน่ายรุ่นย่อยต่าง ๆ แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ สำหรับในประเทศไทยคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3 หรือประมาณปลายปี 2565 ส่วนรถที่มีพิกัดและเซกเมนต์เดียวกับ Ford Everest ก็จะเป็นรถในประเภท PPV แบบครอบครัว ทั้ง Isuzu MU-X ที่มากับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร รวมถึง Toyota Fortuner GR Sport  รถรุ่นท็อปสุดในไลน์อัพของ Fortuner ที่มาพร้อมชุดแต่ง Gazoo Racing รอบคัน ผสานด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Ford Everest เจเนอเรชั่นใหม่นี้ จะมาเขย่าตลาดรถอเนกประสงค์ในเมืองไทยได้มากน้อยได้เพียงใด ก็ต้องดูว่าเปิดราคาออกมาได้ว๊าว ! ขนาดไหน 

ขอบคุณภาพจาก : ford.co.th
ขอบคุณข้อมูลจาก: ford.co.th, carscoops.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Ford Everest 2023 รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นใหม่ ลุ้นเปิดตัวในไทยปลายปีนี้ อัปเดตล่าสุด 16 มีนาคม 2565 เวลา 09:36:40 24,063 อ่าน
TOP