เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2022 ชาร์จเร็ว กระแสไฟแรง

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2022 ที่ชาร์จเร็ว ให้กระแสไฟแรง วันนี้เรามีมาแนะนำแบบจัดเต็ม พร้อมวิธีเลือกซื้อที่ผู้ขับขี่ควรรู้ 

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยเรียกว่ามาแรงมาก และมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ที่สำคัญคือราคาจับต้องได้ง่ายขึ้น โดยจุดเด่นของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จะอยู่ที่ไม่มีมลพิษ ดูแลรักษาง่ายไม่วุ่นวาย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมันที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงแม้จะมีข้อดีในหลายประการ ก็ดูจะมีปัญหาอยู่บ้าง คือตัวรถจะต้องชาร์จไฟอยู่เสมอ เพื่อสำหรับใช้ในการเดินทาง เมื่อพลังงานหมดหรือเรียกง่าย ๆ ว่าแบตฯ หมด จำเป็นต้องหาที่ชาร์จประจุไฟ ซึ่งในเมืองไทยยังไม่มีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าแพร่หลายเหมือนกับปั้มน้ำมันทั่วไป

ทั้งนี้ เมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคุณจะได้รับเครื่องชาร์จไฟจากค่ายรถ พร้อมมีช่างผู้เชี่ยวชาญมาติดตั้งให้ภายในบ้าน แต่ถ้าหากต้องการซื้อเพิ่มอีกสักเครื่องเพื่อมาติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นบ้านญาติ หรือแม้แต่บ้านส่วนตัวอีกหลังจะต้องเลือกอย่างไร หรือพิจารณาอะไรบ้างนั้น วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน พร้อมแนะนำให้รู้จักกับ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ยอดนิยมที่มีขายในเมืองไทย ปี 2022

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มีกี่แบบ

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะมีด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ กระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จเข้าสู่ตัวรถได้อย่างรวดเร็ว แต่ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ จึงไม่เหมาะสำหรับติดตั้งในบ้าน สามารถพบได้ในตามสถานีชาร์จ 

ส่วนที่ใช้ภายในบ้านจะเป็นเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสสลับ (AC) ที่มีขนาดเพียง 220 โวลต์ ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จที่นานกว่าการชาร์จจากไฟฟ้ากระแสตรง โดยอาจจะใช้เวลามากกว่า 8 - 12 ชั่วโมง ตามความจุแบตเตอรี่รถยนต์ ดังนั้น การที่มีอุปกรณ์เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาช่วยเสริม เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้มากกว่า 250 - 480 โวลต์ ก็จะช่วยลดเวลาในการชาร์จได้เร็วขึ้น อาจจะเหลือสัก 4 - 7 ชั่วโมง ในการชาร์จให้เต็ม 100% เปรียบเสมือนหม้อแปลงพ่วงเพื่อจ่ายไฟฟ้าได้มากขึ้น และมีขนาดที่เล็กพอติดตั้งภายในบ้านได้ ซึ่งจะเรียกว่า Wall Box หรือ EV Charger

ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ต้องดูอะไรบ้าง

แม้คุณจะได้เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะติดตั้งได้ด้วยตัวเอง เพราะสิ่งที่เจ้าของรถต้องรู้ก่อนคือ ระบบไฟภายในบ้านรองรับสำหรับการใช้เครื่องชาร์จไฟไหม ? โดยต้องติดต่อหน่วยงานการไฟฟ้าเพื่อให้เข้ามาประเมินและปรับปรุงระบบไฟก่อนนั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า ที่ต้องมีไม่น้อยกว่า 30A เนื่องจากจะใช้กระแสไฟฟ้าขณะชาร์จ 8A ถึง 16A ต่อเนื่องจนกว่าแบตเตอรี่จะเต็ม พร้อมตรวจสอบสายไฟฟ้า (สายเมน) และ Main Circuit Breaker (MCB) ในตู้ควบคุมไฟฟ้าให้สอดคล้องกัน เพื่อรองรับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้เพิ่มขึ้น อีกทั้งต้องตรวจสอบตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) เพราะต้องมีช่องว่างเหลือสำหรับติดตั้ง Main Circuit Breaker ที่ใช้ควบคุมวงจรชาร์จรถไฟฟ้าอีก 1 ช่อง ถ้ามีไม่พอต้องเพิ่มตู้ย่อย และที่สำคัญ ต้องเปลี่ยนเต้ารับไฟในบ้านแบบใหม่ เป็นเต้ารับเฉพาะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถใช้เต้ารับแบบธรรมดาได้ เพื่อลดเสี่ยงต่อการแย่งไฟฟ้าภายในบ้าน และความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงจุดติดตั้งเครื่อง EV Charger ควรอยู่ในรัศมี 5 - 7 เมตร จากจุดจอดรถ ใกล้กับตู้เมนไฟฟ้าในบ้าน และมีหลังคาบังแดดและฝน

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะเลือกแบบไหนดี ?

ก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า อย่างแรกคือต้องรู้ก่อนว่ารถของเรานั้นมีหัวชาร์จ ประเภทไหน โดยหัวชาร์จที่นิยมใช้ทั่วไปจะมีอยู่ 2 แบบ คือ

  • Type 1 หัวชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) แบบ 5 Pin ใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบ 1 เฟส (Phase) 32 แอมป์ 250 โวลต์ ส่วนมากจะอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าที่มาจากประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เช่น Nissan Leaf และ Tesla 

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

  • Type 2 เป็นหัวชาร์จไฟกระแสสลับ (AC) แบบ 7 Pin ใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบ 1 เฟส (Phase) 70 แอมป์ 250 โวลต์  และแบบ 3 เฟส (Phase) 63 แอมป์ 480 โวลต์ รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถจากประเทศจีนทั้ง GWM และของทาง MG รวมถึงรถจากเกาหลีใต้อย่างทาง Hyundai และรถที่มาจากทางยุโรป เช่น Mercedes-Benz, BMW, MINI, Volvo และ Porsche เป็นต้น

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนั้นต้องตรวจสอบขนาด On Board Charger หรือขนาดกำลังของอุปกรณ์ชาร์จไฟที่ติดตั้งอยู่ภายในรถ ของคุณให้ตรงกันกับ EV Charger ซึ่งจะมีผลต่อระยะเวลาในการชาร์จ โดยทั่วไปมีตั้งแต่ 3.6 - 22 kW โดยจะต้องเลือกซื้อให้ตรงกับขนาด On Board Charger ของรถ เพราะถ้าซื้อเครื่องที่มีขนาดกำลังชาร์จไฟที่ใหญ่กว่าเพื่อต้องการให้ใช้เวลาชาร์จเร็วขึ้นนั้น ถือว่าผิดเพราะจะไม่เกิดผลอะไร เวลาที่ชาร์จไฟก็จะไม่เร็วขึ้น รวมถึงประจุไฟก็ยังเท่าเดิม แถมจะเสียเงินมากขึ้นเพราะเครื่องที่มีขนาดใหญ่จะมีราคาที่แพงตามขนาดของกำลังชาร์จ และที่สำคัญควรเลือกเครื่องชาร์จที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม 

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 2022 ยี่ห้อไหนดี 

เมื่อได้รู้จักเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากันแล้วว่าควรเลือกแบบไหน และก่อนติดตั้งจะต้องศึกษาและดูอะไรบ้าง ทีนี้มาดูกันว่า "เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า" มีรุ่นไหนที่น่าสนใจ ถ้าต้องการซื้อไปติดเพิ่มเติมกับบ้านหลังที่ 2 - 3 เพื่อให้ครอบคลุมกับการเดินทาง

1. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Schneider รุ่น EVlink Wallbox

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Schneider รุ่น EVlink Wallbox เป็นเครื่องชาร์จจากประเทศฝรั่งเศส  แบบติดกับผนัง มีระบบล็อกด้วยกุญแจ ป้องกันการขโมยสายชาร์จ มีระบบจัดการพลังงาน โดยการเลือกเวลาชาร์จหรือจำกัดกระแสไฟฟ้า เป็นหัวชาร์จไฟกระแสสลับแบบ Type 2 สำหรับติดตั้งเพื่อใช้งานระบบชาร์จไฟฟ้าภายในบ้าน ตัวเครื่องมาพร้อมการชาร์จด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุดถึง 7.4 kW 32A ขนาดตัวเครื่องยาว 480 มม. กว้าง 331.5 มม. มีความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 170 มม. และมีน้ำหนัก 5.6 กก.

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 60,000 -  65,000 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : se.com

2. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Viridian Ecolite Home UK Charger

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Viridian Ecolite Home UK Charger เครื่องชาร์จไฟจากประเทศอังกฤษ มีกำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุด 7.4 kW หรือ 32A หัวชาร์จมีให้เลือกทั้ง Type 1 และ Type 2 จึงทำให้สามารถใช้งานได้กับรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อ มีกุญแจล็อกป้องกันการขโมยสายชาร์จ พร้อมระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้า ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม หรือมีเหตุขัดข้อง สายชาร์จยาว 5 เมตร ตัวครื่อง ป้องกันฝน แดด และฝุ่นละออง โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 49,000 - 50,000 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : ctms.co.th

3. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Circontrol eHome

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Circontrol eHome ดีไซน์สวยขนาดเล็ก มีน้ำหนักเพียง 4 กก. ตัวเครื่องด้านนอกทำจากพลาสติก ABS ที่มีความทนทาน และทนต่อแสง UV มีกำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุด 7.4 kW หรือ 32A สามารถรองรับหัวชาร์จได้ทั้งแบบ Type 1 และ Type 2 เหมาะกับรถรถยนต์ไฟฟ้าทุกแบรนด์ ตัวเครื่องติดตั้ง จอ LED สีน้ำเงินที่ด้านหน้าแสดงสถานะของเครื่องชาร์จ มีที่เก็บสายชาร์จพร้อมกุญแจล็อก อีกทั้งยังมากับระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้า และตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จไฟเต็ม

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 36,000 - 40,000  บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : circontrol.com

4. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox รุ่น Pulsar Plus

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox รุ่น Pulsar Plus ตัวเครื่องดีไซน์ทันสมัยทรงสี่เหลี่ยม ขนาดกะทัดรัด โดยมีความกว้างอยู่ที่ 166 มม. ยาว 163 มม. มีความหนาของตัวเครื่องเพียง 82 มม. น้ำหนักเบา 1.9 กก.  มีความสามารถที่จะป้องกันฝุ่นระดับ IP54 ให้กำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุด 7.4 kW หรือ 32A หัวชาร์จเป็นแบบ Type 2 มาพร้อมฟังก์ชันควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ตโฟน

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 53,000 - 59,000 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : wallbox.in.th

5. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Delta AC Mini Plus

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Delta AC Mini Plus ดีไซน์กะทัดรัด เป็นแบบแขวนติดกับฝาผนัง ตัวเครื่องมีขนาดความกว้าง 318 มม. ยาว 363 มม. และมีความหนาของตัวเครื่องที่ 130 มม. ให้กำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุด 7.4 kW หรือ 32A รองรับหัวชาร์จมาตรฐานทั้ง Type-1 และ Type-2 มีระบบกันไฟรั่ว และป้องกันฝุ่นระดับ IP55 ติดตั้งได้ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน 

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 58,000 - 60,000 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : deltathailand.com

6. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Besen EV Charger

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Besen EV Charger แบบติดผนังดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบยาวในแนวตั้ง โดยเด่นด้วยไฟ LED ที่บอกระดับการชาร์จไฟ พร้อมตัวเลขแบบดิจิทัล กำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุด 7.4 - 22 kW หัวชาร์จเป็นแบบ Type 2 มีขนาดตัวเครื่องความยาว 295 มม. กว้าง 195 มม. และมีความหนาของตัวเครื่องที่ 70 มม. น้ำหนัก 7 กก. พร้อมระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้า ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม มีป้องกันฝุ่นระดับ IP66 

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 25,900 - 39,000 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : besen-group.com

7. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Circontrol eNext

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Circontrol eNext ออกแบบมาเพื่อติดตั้งได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านส่วนตัว ที่ทำงาน และที่จอดรถ มีขนาดยาว 335 มม. กว้าง 315 มม. และมีความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 200 มม. น้ำหนัก 4 กก. มีกำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุดถึง 22kW รองรับหัวชาร์จมาตรฐานทั้ง Type 1 และ Type 2 ใช้ได้กับรถทุกแบรนด์ที่มีขนาด On Board Charger ที่ 22kW มาพร้อมระบบระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้า ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 55,500 - 56,000 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : circontrol.com

8. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Rolec WallPod

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Rolec WallPod ดีไซน์ล้ำยุคแบบเรียวยาว ใช้ได้ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าแบบ PHEV และ BEV มีกำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุดถึง 7.2 kW หัวชาร์จแบบ Type 2 มาพร้อมสายเคเบื้ลที่ยาว 10 เมตร พร้อมที่คล้องสายและที่เก็บหัวชาร์จ ป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP65 ทนต่อการกัดกร่อน และทนต่อแสง UV ออกแบบให้ใช้งานได้ทั้งในร่มและกล่างแจ้ง ตัวเครื่องมีไฟแสดงสถานะการทำงาน Built-in LED อีกทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้า ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 35,000 - 49,500 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : rolecserv.com

9. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Keba Kecontact P30 GREEN EDITION

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Keba Kecontact P30 GREEN EDITION รองรับการใช้งานรถทุกประเภท ทั้งไฮบริด PHEV และ BEV กำลังการชาร์จไฟฟ้าสูงสุดถึง 11kW หัวชาร์จแบบ Type 2 มาพร้อมสายชาร์จยาว 6 เมตร  มาพร้อมระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้า ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม ดีไซน์เป็นรูปทรงเหลี่ยมแบบยาวสวยงาม ตัวเครื่องใช้เส้นสายสีเขียวที่บ่งบอกว่าเป็นพลังงานรักษ์ธรรมชาติ มีขนาดตัวกว้าง 240 มม. ยาว 643 มม. และมีความหนา 140 มม. 

  • ราคาจำหน่ายประมาณ 32,000 - 35,00 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ภาพจาก : keba.com

และนี่ก็เป็น 9 เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เรานำมาแนะนำ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีกำลังการชาร์จไฟฟ้าที่แตกต่างกัน รวมถึงหัวชาร์จที่รองรับไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อควรดูให้ดี เพราะราคาเครื่องนั้นถือว่าอยู่ในเรตที่สูงเลยทีเดียว และที่สำคัญควรที่จะต้องปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อให้รองรับการเครื่องชาร์จเสียก่อน เพื่อจะได้มีรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา หายห่วงเรื่องพลังงานหมด ขับไม่ได้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2022 ชาร์จเร็ว กระแสไฟแรง อัปเดตล่าสุด 9 มกราคม 2566 เวลา 14:50:15 54,457 อ่าน
TOP
x close