เครื่องวัดลมยางดิจิทัล ยี่ห้อไหนดี 2022 ใช้ง่าย-บอกแรงดันลมเป๊ะ

เครื่องวัดลมยางดิจิทัล ยี่ห้อไหนดี 2022 ที่จะช่วยตรวจวัดแรงดันลมและอุณหภูมิของยางรถ แบบดูง่าย ใช้งานคล่อง ไปดูกัน !

ลมยาง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ยางล้อรถอยู่ทรงในระหว่างขับขี่ และยังช่วยเพิ่มความอุ่นใจ ความปลอดภัย ความสบายใจ และประหยัดน้ำมัน ซึ่งในระหว่างการเดินทางจะมีการสูญเสียแรงดันลมยางไปทีละน้อยโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว ดังนั้นจะดีกว่าไหมหากสามารถตรวจสอบแรงดันลมยางได้ด้วยตัวเองทุกเวลา โดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงวันเช็กระยะ หรือนำรถเข้าตรวจเช็กลมยางที่ปั๊ม อู่ หรือศูนย์บริการ

แรกเริ่มเดิมทีนั้นอุปกรณ์วัดแรงดันลมยาง หรือเรียกว่า เกจวัดแรงดันลมยาง จะใช้สำหรับการตรวจสอบแรงดันลมยางที่เหลือ และตรวจวัดปริมาณหลังเติมแรงดันลมยาง ซึ่งจะต้องต่อกับจุ๊บยางเพื่อวัดค่าแรงดันลมยาง โดยมีหน่วยเป็นปอนด์/ตารางนิ้ว (PSI) แต่จะมีข้อจำกัดการใช้งานในช่วงที่รถต้องจอดสนิทและยางอยู่ในสภาพเย็นเท่านั้น และการวัดแรงดันลมยางแต่ละครั้งจะต้องเสียลมยางไปส่วนหนึ่ง จึงไม่แนะนำให้วัดกันบ่อย ๆ เว้นเสียว่าเวลาขับรถแล้วรู้สึกกระด้างหรือยวบยาบเกินไป 

สำหรับอุปกรณ์วัดแรงดันลมยางแบบพกพา จะมีตั้งแต่แบบปากกาวัดแรงดัน, มาตรวัดแบบเข็ม และแบบดิจิทัล ที่เมื่อเสียบตัววัดแรงดันลมเข้าไปจะขึ้นเป็นตัวเลขออกมา หรือจะเป็นแบบไร้สาย โดยจะติดตัวส่งสัญญาณไว้ที่จุ๊บเติมลมแต่ละล้อ และข้อมูลจะถูกส่งไปยังเครื่องรับที่อยู่ภายในห้องโดยสาร ส่วนราคาจะมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท ซึ่งข้อดีของเครื่องวัดแรงดันลมยางแบบดิจิทัลคือ สามารถวัดแรงดันลมยางได้ในระหว่างการขับขี่ และวัดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องจอดรถวัดบ่อย ๆ ให้เสียลมยาง

ปัจจุบันเครื่องวัดแรงดันลมยางดิจิทัลจะมีให้เลือกอยู่หลายแบรนด์ สิ่งที่ควรรู้ลำดับแรก ๆ คือ ต้องรู้จักหน่วยวัด ซึ่งจะมีหน่วยเป็นปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) และกิโลปาสคาล (kPa) เพื่อให้สอดคล้องกับสติ๊กเกอร์กำหนดปริมาณลมยางที่ขอบวงกบประตู ต่อมาคือเลือกแหล่งพลังงานสำหรับป้อน-รับข้อมูล บางชนิดอาจจะต้องใช้แบตเตอรี่เฉพาะมาตรวัด หรือบางชนิดต้องใส่ในเซ็นเซอร์ร่วมด้วย ซึ่งหากถ่านอ่อนก็อาจจะทำให้การแสดงผลผิดเพี้ยนได้ จึงต้องพิจารณาถึงการเปลี่ยนถ่านควบคู่ด้วย ตัวเซ็นเซอร์ที่อยู่นอกรถ ไม่ว่าจะเป็นหัวจุ๊บยาง หรือแบบฝังไว้หลังล้อแม็ก มีความเสี่ยงที่จะไวต่อความเสียหายได้ทั้งการใช้งานจริง หรือการติดตั้ง-ถอดออก และหากเซ็นเซอร์เสียหายตัวใดตัวหนึ่งต้องเปลี่ยนกันยกชุดเลย

ดังนั้นการเลือกวัสดุที่มีความทนทาน การศึกษาข้อมูลการใช้งานทุกครั้ง รวมถึงการแจ้งข้อมูลแก่ช่างซ่อมบำรุงว่ามีการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือการตรวจสอบคุณภาพและความแม่นยำของเซ็นเซอร์ ซึ่งนอกจากการดูผลิตภัณฑ์และแบรนด์ว่าน่าเชื่อถือแค่ไหนแล้ว ยังต้องทดสอบใช้งานจริงเพื่อให้แสดงค่าได้อย่างแม่นยำที่สุด เพราะหากผิดเพี้ยนย่อมหมายถึงราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม ทั้งการซื้ออุปกรณ์ใหม่ หรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน

นอกจากนี้หากอุปกรณ์ดังกล่าวมีการรับประกันก็จะช่วยสร้างความสบายใจได้ยิ่งขึ้น และถึงแม้ว่าจะใช้อุปกรณ์เกจวัดแรงดันลมยางธรรมดาที่มีราคาไม่แพง ปัจจัยทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ขนาดอุปกรณ์ วัสดุ การใช้งาน แหล่งพลังงาน หน่วยที่แม่นยำ การรับประกัน รถยนต์ที่ใช้ และความถนัดในการใช้งาน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้รถควรพิจารณาแต่เนิ่น ๆ ก่อนซื้อมาใช้

เครื่องวัดลมยางดิจิทัล Xiaomi 70mai Tire Pressure Monitor เป็นเครื่องวัดแบบจุกลม ติดตั้งเซ็นเซอร์ภายนอก โดยจะหมุนเข้าไปกับจุ๊บลมของตัวล้อยาง ทำหน้าที่ตรวจสอบความดันลมยาง อุณหภูมิของยาง ยางรั่ว และลมยางเยอะเกินไป แบบเรียลไทม์ ส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับหรือจอมอนิเตอร์แบบไร้สาย ผ่านคลื่นความถี่วิทยุ แล้วแสดงข้อมูลต่าง ๆ บนหน้าจอ ตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 500mAh ที่ชาร์จได้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และชาร์จผ่านสาย Micro USB ทำงานอัตโนมัติเมื่อสตาร์ตรถและหยุดเมื่อรถดับ รองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันและ Bluetooth 4.2 อีกทั้งยังรองรับแรงดันลมยางได้สูงสุดถึง 100 ปอนด์/ตารางนิ้ว (PSI)

• ราคาจำหน่ายประมาณ 1,500-1,700 บาท

เครื่องวัดลมยางดิจิทัล Yoelbaer Solar Car TPMS Sensor เป็นเครื่องวัดแบบติดตั้งเซ็นเซอร์ภายนอกตัวรถ มาพร้อมระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง อุณหภูมิของยาง แบบเรียลไทม์ และส่งข้อมูลไปยังจอแสดงผล LCD สามารถตั้งค่าความดันลมยาง และค่ามาตรฐานการเตือนอุณหภูมิได้ รองรับการชาร์จไฟผ่านสาย USB และการชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด จัดวางได้สะดวก 

• ราคาจำหน่ายประมาณ 1,200-1,300 บาท

เครื่องวัดลมยางดิจิทัล Jansite Intelligent Solar TPMS เป็นเครื่องวัดที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ภายนอกที่จุ๊บลม ใช้งานได้กับรถยนต์นั่งทุกประเภท ตัวเครื่องชาร์จไฟด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ต้องเสียบชาร์จกับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ หน้าจอเป็นจอ LCD Digital สีสันสดใส แสดงข้อมูลอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบแรงดันและอุณหภูมิยางได้พร้อมกันทั้ง 4 ล้อแบบเรียลไทม์ ติดตั้งง่ายทั้งแบบยึดติดกับกระจกหน้า หรือจะวางไว้ที่คอนโซลหน้า รองรับการตรวจสอบแรงดันลมยางได้สูงสุด 58 ปอนด์/ตารางนิ้ว (PSI) 

• ราคาจำหน่ายประมาณ 900-1,000 บาท 

เครื่องวัดลมยางดิจิทัล Steelmate MT12+ TPMS เครื่องตรวจวัดแรงดันลมยางด้วยจุ๊บเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ภายในล้อ มาพร้อมดีไซน์รูปลักษณ์จอมอนิเตอร์ที่ทันสมัย เป็นแบบไร้สาย ชาร์จไฟเก็บโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพียงจัดวางไว้บนคอนโซลรถ แบตเตอรี่เก็บไฟได้นานถึง 27 วัน ตัวเครื่องจะมาพร้อมระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยางและอุณหภูมิภายในล้อแบบเรียลไทม์ ใช้ได้กับยานพาหนะทุกชนิด รองรับแรงดันลมยางสูงสุด 86 ปอนด์/ตารางนิ้ว (PSI)

• ราคาจำหน่ายประมาณ 2,500-3,000 บาท

เครื่องวัดลมยางดิจิทัล TYREDOG TD1800 TPMS เป็นเครื่องวัดแบบติดตั้งเซ็นเซอร์ที่ภายนอกตัวรถ โดยจะติดไว้ที่จุ๊บลม ส่งสัญญาณผ่านคลื่นความถี่วิทยุไปยังเครื่องรับ แสดงผลของแรงดันลมยางและอุณหภูมิยางของแต่ละล้อแบบเรียลไทม์ นอกจากนั้นยังมาพร้อมเทคโนโลยี Detect VIBRATION ที่สามารถตรวจจับการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติของล้อ ยางและระบบช่วงล่างได้ตลอดการเดินทาง อีกทั้งยังสามารถวัดแบตเตอรี่รถยนต์ (Volt Meter) ได้ และแจ้งเตือนเมื่อพบว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา กะทัดรัด วางได้อิสระทุกที่ในรถ เช่น ติดกระจก ตั้งบนคอนโซล วางในลิ้นชัก ช่องเก็บของต่าง ๆ เป็นแบบไร้สายไม่ต้องชาร์จไฟ ใช้ถ่านอัลคาไลน์ AAA 2 ก้อน จะใช้งานได้ประมาณ 3-6 เดือน

• ราคาจำหน่ายประมาณ  4,000-4,500 บาท

เครื่องวัดลมยางดิจิทัล Moods TPMS เป็นเครื่องวัดแบบติดตั้งเซ็นเซอร์ที่จุ๊บลมยางภายนอกล้อแบบเรียลไทม์ สามารถแสดงผลแรงดันลมยางและอุณหภูมิภายในยาง โดยจะส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับหรือจอมอนิเตอร์แบบไร้สายผ่านคลื่นความถี่วิทยุ ตัวเครื่องเป็นแบบไร้สาย ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ชาร์จแบตเตอรี่ได้ทั้ง Solar Cell และผ่านสาย USB ใช้งานได้กับรถยนต์ทุกประเภท หน้าจอปรับแสงอัตโนมัติ รองรับแรงดันลมสูงสุดถึง 95 ปอนด์/ตารางนิ้ว (PSI) รวมถึงสามารถใช้ได้ทั้งลมปกติและลมแบบไนโตรเจน

• ราคาจำหน่ายประมาณ 590 บาท

การเช็กแรงดันลมยางรถยนต์ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง แต่ถ้ามีเครื่องวัดลมยางดิจิทัลติดรถเอาไว้จะยิ่งช่วยให้เราทราบได้ทันทีว่า ยางล้อรถเรามีปัญหาอะไร ซึ่งจะได้แก้ไขอย่างทันท่วงที เพราะการมีแรงดันลมยางที่เหมาะสม จะช่วยให้การขับขี่มีความนุ่มนวล ไม่ว่าจะเป็นการยึดเกาะถนนรวมถึงการเบรก นอกจากนั้นการตรวจลมยางเป็นประจำจะช่วยชะลอการสึกหรอที่จะเกิดขึ้นกับยาง ถ้าปล่อยลมยางให้อ่อน ด้วยน้ำหนักตัวรถจะกดทับที่ยาง ส่งผลทำให้แก้มยางและขอบยางชำรุดเสียหายได้ และที่สำคัญเมื่อลมยางอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จะช่วยลดการบริโภคน้ำมันของตัวรถได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :  bridgestonetire.com, forbes.com, familyhandyman.com, cnet.com, 70mai.com, yoelbaer.com, jansite.cn, เฟซบุ๊ก steelmatethai, tyredogth.com, เฟซบุ๊ก moodsth