x close

Bugatti Centodieci รุ่นฉลอง 110 ปี ผลิตน้อย ราคาโหด เกือบ 300 ล้านบาท

Bugatti Centodieci ไฮเปอร์คาร์คอลเล็กชั่นใหม่ ราคาเกือบ 300 ล้านบาท ผลิตเพียง 10 คัน ฉลองครบรอบ 110 ปี Bugatti และเพื่อแสดงความเคารพต่อไฮเปอร์คาร์รุ่นเก๋ายุค 90 อย่าง Bugatti EB110 SS

Bugatti Centodieci

Bugatti แบรนด์รถเก่าแก่ของฝรั่งเศส น่าจะกำลังเพลินกับการออกรถสปอร์ตคอลเล็กชั่นพิเศษราคามหาโหด เพื่อฉลองครบรอบ 110 ปี เพราะเมื่อต้นปีก็เพิ่งเปิดตัว Bugatti La Voiture Noire โดยอ้างอิงตำนาน “รถสีดำ” ที่หายสาบสูญของ Bugatti (Bugatti Type 57 SC Atlantic) ซึ่งผลิตเพียงคันเดียวจนขึ้นแท่นรถยนต์ใหม่แพงสุดในโลกไปแล้ว ล่าสุดได้ส่ง Bugatti Centodieci มาโกยเงินในกระเป๋ามหาเศรษฐีอีกรอบ ผลิตเพียง 10 คัน ด้วยราคาเริ่มต้น 8 ล้านยูโร และต่อให้ตอนนี้คุณมีเงินมากพอก็ไม่มีสิทธิ์ซื้ออยู่ดี

Bugatti Centodieci

ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นโชคดีบนความโชคร้ายได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันยิ่ง Bugatti หยิบจับเอาอดีตอันขมขื่นมาเล่าใหม่ กลับขายได้ขายดี มีมหาเศรษฐีต่อแถวรอซื้อ แม้กระทั่งรถที่ได้ชื่อว่าไม่ประสบความสำเร็จในแง่การตลาด (แต่เทคโนโลยีเด่นล้ำมากและออกแบบตั้งต้นโดย Marcello Gandini หนึ่งในดีไซเนอร์ระดับพ่อมดของวงการ) อย่าง Bugatti EB110 ไฮเปอร์คาร์ของ Bugatti ในยุค 90 เพราะดันไปเปิดตัวบนความสั่นคลอนของวิกฤตเศรษฐกิจโลก จนถึงขั้นล้มละลาย ไปต่อไม่ได้ ท้ายที่สุด VW Group ได้เข้ามาครอบครองและเป็นผู้ถือตราสิน Bugatti อยู่ตอนนี้

ซึ่งเจ้า Bugatti EB110 นี้เองได้กลายเป็นไฮเปอร์คาร์อาวุโสให้รุ่นหลาน Bugatti Centodieci ได้แสดงความเคารพ ด้วยการตั้งชื่อรุ่น Centodieci ง่าย สไตล์อิตาเลียน (Ettore Bugatti เป็นอิตาเลียน)  ที่แปลว่า 110 ส่วนดีไซน์หลักแม้ยืนบนพื้นฐาน Bugatti Chiron แต่ในรายละเอียด Bugatti Centodieci ยก Signature ของ Bugatti EB110 SS (หรือ Super Sport ที่เบาและแรงกว่ารุ่นปกติ ผลิตออกมาได้เพียง 33 คัน) มาครบแบบไม่ขาดตกบกพร่อง

Bugatti Centodieci

ซ้าย : Bugatti Centodieci ขวา : Bugatti EB110 SS

ตั้งแต่จมูกและช่องดักอากาศด้านหน้า การเจาะรูบนแผงด้านข้าง หลังบานกระจกที่โอบล้อมห้องโดยสารเป็นรูปเกือกม้าเพื่อรับอากาศเข้าไปลดความร้อนแรงของเครื่องยนต์ W16 สูบ ตลอดจนถึงแถบไฟท้าย 3 มิติ แบบลอยตัวและซับซ้อน ให้ดูคล้ายกับแผงท้าย Bugatti EB 110 SS ที่เจาะรูไว้ระบายอากาศจากห้องเครื่อง

Bugatti Centodieci

Bugatti Centodieci

เพียงแค่ขุมพลังของ Bugatti Centodieci ไม่ใช่เครื่องยนต์ วี 12 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ 4 ตัว อย่าง Bugatti EB110 SS แต่เปลี่ยนเป็นแบบ W16 สูบ ขนาดความจุ 8.0 ลิตร เทอร์โบ 4 ตัว ปั่นม้าออกมาวิ่งเล่นแบบมหาศาลถึง 1,600 ตัว (เหนือกว่า Bugatti Chiron อยู่ 100 ตัว) เรียกว่าเหลือกินเหลือใช้และเผื่อไว้ให้ได้โชว์ด้วย

Bugatti Centodieci

ส่วนอัตราเร่งของไฮเปอร์คาร์พลังช้าง (ยุคหนึ่ง Bugatti เคยใช้ช้างเป็น Leaper บนฝากระโปรง เหมือน Rolls-Royce มี Spirit of Ecstasy) อย่าง Bugatti Centodieci สามารถถีบตัวจาก 0-100 กม./ชม. ได้ด้วยเวลาเพียง 2.4 วินาที และผ่านลิมิต 200 กม./ชม. ใน 6.1 วินาที และวินาทีที่ 13.1 ก็จะไปถึง 300 กม./ชม. ก่อนที่จะถูกกล่องอิเล็กทรอนิกส์ตัดความเร็วไว้ 380 กม./ชม.

แต่ท็อปสปีดเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ได้ทำให้รถทุกคันเป็นไฮเปอร์คาร์ได้ ซึ่ง Bugatti Centodieci ให้ความสำคัญกับความสบายและการบังคับควบคุมในการขับขี่ ยิ่งเมื่อเทียบกับ Bugatti Chiron แล้ว Centodieci จะมีน้ำหนักเบากว่าถึง 20 กิโลกรัม จากการใช้คาร์บอนไฟเบอร์เพิ่มเข้าไปในอีกหลายจุด เท่ากับว่าม้า 1 ตัว ของ Bugatti Centodieci แบกน้ำหนักเพียง 1.13 กิโลกรัม เท่านั้น

โดย Bugatti Centodieci จะเป็นไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ เน้นความเป็น Art Piece ผลิตน้อยแบบ Bugatti La Voiture Noire แต่ในจำนวนที่มากกว่าตามคอนเซ็ปต์คือ 10 คัน (ถ้า 110 คัน ก็จะเยอะไป) และ Bugatti คงมีการเสนอสิทธิ์ให้กับลูกค้าพิเศษระดับ A List ได้เลือกตัดสินใจล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการเปิดตัวในงาน Pebble Beach เพราะถูกจองหมดแล้ว แม้ Bugatti Centodieci มีราคาเริ่มต้น (ย้ำว่าเริ่มต้นและมั่นใจได้เลยว่าไม่มีมหาเศรษฐีคนไหนยอมหยุดที่ราคานี้แน่) สูงถึง 8 ล้านยูโร หรือราว 275 ล้านบาท ไม่รวมภาษี

เหมือนสมัย Bugatti Royale อัครยานยนต์หรูหรา คันมหึมา ที่ทาง Bugatti เองก็เคยเสนอขายลูกค้าระดับ “เจ้านาย” แต่ด้วยราคาที่แพงระยับ (คงคล้าย ๆ รถหรูแต่ราคาเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวในยุคนี้) และเจอพิษเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ทำให้ขายได้เพียง 3 คัน (จากที่ผลิตขึ้นมาเพียงแค่ 7 คัน แต่จริง ๆ Bugatti ตั้งเป้าไว้จำนวนมากกว่านี้ และต่อมาพังยับไป 1) ปัจจุบัน Bugatti Royale ที่เหลืออยู่จึงแรร์ มีคุณค่าและมูลค่าสูงมาก

ก็อย่างว่าแข่งเรือ แข่งพาย แข่งได้ แต่ถ้าคิดจะแข่งบารมีด้วยการครอบครอง Bugatti Centodieci อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

Bugatti Centodieci

Bugatti royale (Type 41) ตัวถัง roadster หรือรู้จักกันในชื่อ ฺBugatti Royale Esders Roadster

ภาพจาก Bugatti
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Bugatti Centodieci รุ่นฉลอง 110 ปี ผลิตน้อย ราคาโหด เกือบ 300 ล้านบาท อัปเดตล่าสุด 26 สิงหาคม 2562 เวลา 11:19:19 31,323 อ่าน
TOP