เปิดตัว Mercedes-Benz C 300e ปี 2019 ปลั๊กอิน ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวทั้งหมด 2 รุ่นย่อย Mercedes-Benz C 300e ปี 2019 ทำราคาเริ่มต้นได้ดี ที่ 2.69 ล้านบาท

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย แจ้งข่าวเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในกลุ่ม EQ Power เป็นรถยนต์รุ่น Mercedes-Benz C 300 e ปี 2019 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เสริมกำลังระบบปลั๊กอินไฮบริด โดยรุ่นนี้ทำการประกอบในไทยทำให้ราคาออกมาแพงกว่ารุ่นเริ่มต้นของ C-Class (220 d Avantgarde ราคา 2,349,000 บาท) ประมาณ 350,000 บาท โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ออปชั่นที่แตกต่างกันดังนี้
Mercedes-Benz C 300 e Avantgarde ราคา 2,699,000 บาท


- ใช้กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียมพร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์
- ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว
- ไฟหน้าแบบ LED High Performance ในรุ่น C 300 e Avantgarde
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control
- เบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO
- กุญแจแบบ KEYLESS-START
Mercedes-Benz C 300 e AMG Dynamic ราคา 3,215,000 บาท


- ติดตั้งกระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์
- ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว
- ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม
- ชุดโคมไฟหน้าและหลัง ดีไซน์แบบเส้นโค้ง
- กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling
- หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า
- พวงมาลัยที่มาพร้อมกับระบบมัลติฟังก์ชัน ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control
- เบาะหุ้มหนังแบบสปอร์ต และมาพร้อมกับ Memory Seat Package
- กุญแจแบบ KEYLESS-GO
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light ปรับสีได้ถึง 64 สี
- ระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic Sporty และ Progressive
ทั้ง 2 รุ่น ให้หน้าจอบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว ควบคุมระบบต่าง ๆ ของรถด้วยระบบ Touch pad

- โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program - ESP®)
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS)
- ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist
- ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
- ระบบช่วยเบรกแบบแอ็คทีฟ ABA (Active Brake Assist system)
- ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
- ระบบเตือน เพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator)
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system)
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
- เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC)
- ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist)
- ระบบ DYNAMIC SELECT คือ แบบ Sport Sport+ และ Comfort
- กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Reversing camera) ที่มีเฉพาะในรุ่น C 300 e Avantgarde
- ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) เฉพาะ C 300 e AMG Dynamic
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera) เฉพาะ C 300 e AMG Dynamic
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester surround sound system เฉพาะ C 300 e AMG Dynamic
- ระบบแผนที่นำทาง เฉพาะ C 300 e AMG Dynamic
ขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1,991 ซี.ซี. ให้กำลัง 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,200 – 1,400 ต่อนาที ทำงานร่วมกันมอเตอร์ ให้กำลัง 122 แรงม้า เมื่อทั้งสองระบบทำงานร่วมกันเต็มที่ ให้กำลัง 320 แรงม้าที่ 4,500 – 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9 จังหวะ (9G-TRONIC)
ระบบปลั๊กอินไฮบริด ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนรุ่นใหม่ ขนาดความจุ 13.5 kWh มากกว่าเดิมถึง 111% ผสานกับประสิทธิภาพของเซลล์แบตเตอรี่ ชนิดใหม่ซึ่งมีส่วนผสมของลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากความจุ 10% จนเต็ม 100% ในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที หากชาร์จด้วยเครื่องประจุไฟฟ้าวอลล์บอกซ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์
ถือว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ เลือกชิงเปิดเกมปลั๊กอินไฮบริดด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายได้ดีมาก ๆ เพราะ BMW เพิ่งเปิดตัว All New Series 3 (F34) ไปส่วน และหากอยากได้รุ่นปลั๊กอินต้องไปเล่นโฉมเก่า (F30) ก็ใช่เรื่อง
ภาพจาก Mercedes-Benz