


นอกเหนือไปจากดีไซน์ภายนอกของ All-new Ford Focus 2019 ที่เปลี่ยนไปจากเดิม แม้อาจไม่ถึงขั้นพลิกฝ่ามือนัก แต่ก็มีเส้นสายโค้งเว้ามากขึ้นบนเอกลักษณ์เดิม รวมไปถึงภายในก็ดูจะเน้นความเรียบง่าย เป็นยูโรเปี้ยนสไตล์ชัดเจน ทั้งนี้อาจเพื่อเอาใจตลาดยุโรปซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในตลาดหลักและที่สำคัญ ส่วนห้องโดยสารกว้างขวางขึ้นแน่นอนโดยเฉพาะผู้โดยสารตอนหลัง
ซึ่ง All-new Ford Focus 2019 ในต่างประเทศจะมีระดับการตกแต่ง 4 แบบ ได้แก่
- ST Line : สปอร์ต
- Titanium : พรีเมียม
- Vignale : หรูหรา (Vignale หรือ วินญาเล่ เป็นชื่อสำนักต่อตัวถังเก่าแก่ของอิตาลี ปัจจุบันตกมาอยู่ในเครือ Ford ซึ่งจะหรูกว่า Titanium เพื่อยกระดับไปสู้รถพรีเมียมยุโรป คลาส Entry Level)
- Active : ครอสโอเวอร์

อย่างไรก็ตามความน่าสนใจของ All-new Ford Focus 2019 คือสิ่งที่อยู่ภายใต้รูปลักษณ์ใหม่ (เพราะไทยซึ่งเป็นตลาดรองไม่น่าจะมีรูปแบบตัวถังและการตกแต่งให้เลือกครบขนาดนั้น) คงเป็นระบบกันสะเทือน, เครื่องยนต์และเกียร์ 8 สปีด ใหม่เอี่ยม โดย Ford ขีดเส้นใต้เลยว่าจะทำให้ All-new Ford Focus 2019 ขับได้สนุกกว่าที่เคยเป็น ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันก็จัดว่าเป็นรถขนาดคอมแพกต์ที่ขับได้ดีน่าประทับใจในระดับหัวแถวอยู่แล้ว

ทั้งนี้แชสซีส์ของ All-new Ford Focus 2019 ได้รับการปรับปรุงให้มีความแข็งแกร่งทนต่อการบิดตัวเพื่อการควบคุมได้ดีขึ้น รวมถึงพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่เอี่ยมยังให้การตอบสนองที่ว่องไว เฉียบคม เป็นธรรมชาติกว่าเดิม ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (Quick-Shifting 8-speed) ซึ่งเป็นออปชั่น (ไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐาน) นอกจากจะช่วยให้สมรรถนะดีขึ้นแล้วยังใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเช่นกัน

ส่วนขุมพลังเบนซิน (ในจีน) ยังคงมีเครื่องยนต์ EcoBoost 1.0 ลิตร เทอร์โบ และที่ใหม่เอี่ยมจริง ๆ คือ EcoBoost 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้แรงบิดในรอบต่ำ (ยังไม่มีการระบุตัวเลขพละกำลังอย่างเป็นทางการ) แต่ยุโรปจะมีสองทางเลือกคือ เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 2.0 ลิตร กับ เครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost 1.5 ลิตร ขณะที่อเมริกาเหนือจะประกาศอีกครั้งเมื่อใกล้วันเปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปี 2019
- ระบบควบคุมความเร็วแบบอะแดปทีฟ (Adaptive Cruise Control) ที่เพิ่มระบบหยุดรถและออกตัว (Stop & Go) ตามรถคันหน้า, ปรับความเร็วตามป้ายจราจรอัตโนมัติ และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางขณะรถเคลื่อนตัวไปตามสภาพการจราจร
- ไฟหน้าแบบอะแดปทีฟ (Adaptive Front Lighting System) ทำงานร่วมกับกล้องหน้า ซึ่งสามารถส่องสว่างไปตามโค้งและป้ายสัญญาณจราจรได้
- ระบบช่วยจอด (Active Park Assist) เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนเกียร์ เดินคันเร่งและเบรกได้เองแล้วแบบอัตโนมัติ ผู้ขับขี่แค่กดปุ่มสั่งการปุ่มเดียว
- ระบบช่วยหักหลบวัตถุ (Evasive Steering Assist) ครั้งแรกในรถคอมแพกต์ที่ติดตั้งระบบนี้มาให้ โดยระบบ Evasive Steering Assist จะเข้าช่วยผู้ขับขี่หมุนพวงมาลัยหรือชะลอความเร็วได้เอง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ
ตัดกลับมาที่ไทยตอนนี้เราไม่รู้เลยว่า Road Map ของ All-new Ford Focus 2019 ได้ถูกวางไว้อย่างไร อีกยาวไกลแค่ไหนถึงจะพร้อม และแฟน ๆ ที่ยังเหนียวแน่นกับ Ford คงต้องยอมรับว่า Ford Focus ไม่ใช่รถกระแสหลัก ดังนั้นจะช้าหรือเร็วและมาเต็มแค่ไหนตอนนี้คงทำได้แค่รอไปก่อน









ภาพจาก Ford