5 กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง ปี 2018 ที่น่าสนใจบันทึกภาพได้คมชัด และถึงแม้ว่ากล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง จะมีราคาสูงกว่ากล้องติดรถยนต์หน้าแบบปกติ แต่ก็คุ้มค่าอุ่นใจกว่าเมื่อเกิดเหตุเพราะบนถนนเราคงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
จากหลาย ๆ เหตุการณ์บนโลกโซเชียลอาจทำให้หลายคนเห็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงและหันมาติดกล้องติดรถยนต์เพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากภาพที่ถูกบันทึกไว้ใช้เป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดี
ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันภายหลังว่าใครถูก ใครผิด เพราะเห็นกันจะจะ ไปเลย
แต่ปัจจุบันก็มีผู้ใช้รถยนต์หลายคนอาจมองว่า
กล้องติดรถยนต์ด้านหน้ารถตัวเดียวอาจไม่พอเสียแล้ว
ต้องยกระดับความมั่นใจในการเก็บหลักฐานด้วยกล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง
เพราะบางกรณีต้นเหตุมาจากด้านหลัง หรืออุบัติเหตุถูกชนท้าย
จนถูกกล่าวหาให้เป็นประมาทร่วมได้
ดังนั้น เราจึงขอแนะนำ 5 กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง ที่ค่อนข้างได้รับการกล่าวถึงว่าน่าสนใจ คุณภาพสมราคา ไว้เป็นทางเลือกหรือพิจารณาเปรียบเทียบ แต่ทั้งนี้ กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง อาจมีราคาสูงกว่ากล้องติดรถยนต์ด้านหน้าพอสมควร ส่วนจะมีรุ่นใดบ้างลองมาดูกันเลย
ดังนั้น เราจึงขอแนะนำ 5 กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง ที่ค่อนข้างได้รับการกล่าวถึงว่าน่าสนใจ คุณภาพสมราคา ไว้เป็นทางเลือกหรือพิจารณาเปรียบเทียบ แต่ทั้งนี้ กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง อาจมีราคาสูงกว่ากล้องติดรถยนต์ด้านหน้าพอสมควร ส่วนจะมีรุ่นใดบ้างลองมาดูกันเลย
1. กล้องติดรถยนต์ Proof Platinum II Dual ราคา 5,290 บาท
จุดเด่นของกล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง Proof Platinum II Dual คือราคาที่ไม่สูงจนเกินไปนัก ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX Series (Super Night Vision) และมีกล้องหน้า-หลัง ที่ให้ความคมชัดระดับ Full HD 1080p @30fps รวมถึงสามารถบันทึกภาพกลางคืนได้ค่อนข้างชัด
รายละเอียดกล้องติดรถยนต์ Proof Platinum II Dual
- กล้องหน้า 1080p @30fps
- กล้องหลัง 1080p @30fps
- จอภาพ LCD ขนาด 3.0″ TFT High Definition Screen
- เซ็นเซอร์ Sony IMX Series (Super Night Vision)
- เลนส์กล้องหน้ากว้าง 175 องศา กล้องหลังกว้าง 140 องศา
- บันทึกภาพแบบ Loop (เมื่อหน่วยความจำเต็ม กล้องจะลบไฟล์เริ่มต้นและบันทึกภาพต่อไปอัตโนมัติ)
- รองรับการจับภาพเคลื่อนไหว
- G-sensor
- รองรับ Micro SD/TF card ได้สูงสุด 128 GB
- โหมดจับภาพกลางคืน Super Night Vision
- ไมโครโฟน/ลำโพงภายในกล้อง
- แบตเตอรี่สามารถบันทึกได้ 1 ชม. โดยไม่ได้ชาร์จแบตเตอรี่
- มีฟังก์ชั่น Time Lapse
- Parking Mode
ภาพกล้องหน้า (กลางวัน)
ภาพกล้องหลัง (กลางวัน)
ภาพกล้องหลัง (กลางวัน)
ภาพกล้องหน้า (กลางคืน)
ภาพกล้องหลัง (กลางคืน)
2. กล้องติดรถยนต์ BlackSys CF-100 2CH ราคา 7,400 บาท
กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง จากเกาหลีที่น่าสนใจและราคาไม่สูงจนเกินไปนัก ขนาดกะทัดรัด ใช้เซ็นเซอร์ Sony Exmor ภาพที่ได้จากกล้องหน้าคมชัดในระดับ Full HD 1080p @30fps เพียงแต่กล้องหลังจะให้ความละเอียดน้อยกว่าในระดับ HD 720p @30fps ซึ่งอาจไม่คมชัดเท่ากล้องหน้า นอกจากนี้ BlackSys CF-100 2CH ยังใช้ซูเปอร์คาปาซิเตอร์แทนแบตเตอรี่จึงน่าจะทนร้อนได้ดี (จากสเปค)
ทั้งนี้ข้อเสียเปรียบอยู่ตรง BlackSys CF-100 2CH นั้นอาจไม่ใช่รุ่นใหม่ มีวางจำหน่ายมานานแล้ว รวมถึงไม่มีจอแสดงภาพ แต่ถ้าผู้ใช้ต้องการกล้องติดรถยนต์หน้า-หลังดีไซน์เรียบ ๆ งานเกาหลี ก็ยังถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
รายละเอียดกล้องติดรถยนต์ BlackSys CF-100 2CH
- กล้องหน้า Full HD 1080p @30fps
- กล้องหลัง HD 720p @30fps CMOS
- เซ็นเซอร์ Sony Exmor
- เลนส์กล้องหน้ากว้าง 130 องศา กล้องหลังกว้าง 120 องศา
- ใช้ซูเปอร์คาปาซิเตอร์ แทนแบตเตอรี่ ทนอุณหภูมิได้สูงสุด 70 องศาเซลเซียส
- Auto Parking Mode
- G-Sensor
- รองรับ Micro SD card ได้สูงสุด 16-32 GB
- โหมดจับภาพกลางคืน Super Night Vision
- ไมโครโฟน/ลำโพงภายในกล้อง
ภาพกล้องหน้า (กลางคืน สภาพแสงน้อย)
ภาพกล้องหลัง (กลางคืน)
3. กล้องติดรถยนต์ BlackVue DR590GW-2CH ราคา 8,500 บาท
กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง เกรดพรีเมียมจากเกาหลีอีกรุ่น ที่น่าสนใจในงบไม่เกิน 10,000 บาท และเป็นรุ่นใหม่ ซึ่งอาจยังไม่ค่อยมีคนพูดถึงนัก แต่ด้วยแบรนด์ รวมถึงราคาถูกกว่า BlackVue DR650GW 2-CH ทำให้ BlackVue DR590GW-2CH ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง ดีไซน์เรียบหรู ดูดี ไม่สนจอแสดงภาพ แต่น่าเสียดายตรงไม่รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi
BlackVue DR590GW-2CH มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ STAVIS ของ Sony สามารถบันทึกภาพได้ชัดเจนในที่มีแสงน้อยในส่วนของกล้องหน้า โดยกล้องทั้งสองตัวนั้นให้ความคมชัดระดับ Full HD 1080p @30fps
รายละเอียดกล้องติดรถยนต์ BlackVue DR590GW-2CH
- กล้องหน้า-หลัง Full HD 1080p @30fps
- เซ็นเซอร์ Sony STAVIS
- เลนส์กล้องหน้ากว้าง 139 องศา กล้องหลังกว้าง 140 องศา
- ใช้ซูเปอร์ คาปาซิตี้ แทนแบตเตอรี่ ทนอุณหภูมิได้สูงสุด 80 องศาเซลเซียส
- มีระบบ Impact Detection (G-Sensor)
- โหมดการบันทึกหลายรูปแบบ
- ระบบบันทึกขณะจอด (ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม)
- รองรับ Micro SD card ได้สูงสุด 16-128 GB
- ไมโครโฟน/ลำโพงภายในกล้อง (สามารถเปิด-ปิดได้)
- รองรับการเชื่อมต่อ GPS (ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม)
ภาพจากกล้องหน้า (กลางคืน)
4. กล้องติดรถยนต์ Lukas LK-7950WD ราคา 10,900 บาท
Lukas LK-7950WD เป็นกล้องติดรถยนต์คุณภาพสูงจากเกาหลีเช่นกัน แม้อาจไม่ใช่รุ่นใหม่นัก แต่ถือว่ายังไม่ตกเทรนด์ด้วยฟีเจอร์หลายอย่างที่ไม่มีใน BlackVue DR590GW-2CH ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, GPS, รองรับ Memory Card ได้ 2 Slot (256GB x2), มี Parking Mode ทำงานอัตโนมัติที่ดี เป็นต้น ซึ่งก็ทำให้ราคาของ Lukas LK-7950WD สูงกว่าด้วย
ส่วนในเรื่องของคุณภาพของภาพที่บันทึกได้จาก Lukas LK-7950WD ถือว่าคมชัดระดับ Full HD โดยกล้องหน้า 1080p @30fps และกล้องหลัง 1080p @24fps ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX322 ทำให้ภาพที่บันทึกได้จากทั้งสองกล้องมีความคมชัด ราบรื่น แทบไม่ต่างกัน
รายละเอียดกล้องติดรถยนต์ Lukas LK-7950WD
- กล้องหน้า Full HD 1080p @30fps
- กล้องหลัง Full HD 1080p @24fps
- เซ็นเซอร์ Sony IMX322 (กล้องหน้า-หลัง)
- เลนส์กล้องหน้ากว้าง 135 องศา กล้องหลังกว้าง 130 องศา
- ทนอุณหภูมิได้สูงสุด 80 องศาเซลเซียส
- ใช้ไฟกระแสตรง 10V-24V 370mA พร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติหากแบตเตอรี่รถใกล้หมด
- G-Sensor
- GPS
- WI-FI 802.11b/g/n
- Parking Mode พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว
- รองรับ Micro SD card ได้ 2 Slot (256GB + 256GB)
- ไมโครโฟน/ลำโพงภายในกล้อง
ภาพจากกล้องหน้า (กลางคืน)
ภาพจากกล้องหลัง (กลางคืน)
ภาพจากกล้องหลัง (กลางคืน)
5. กล้องติดรถยนต์ Thinkware F770 2-CH ราคา 15,900 บาท
Thinkware F770 2CH นับเป็นกล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง ระดับพรีเมียมจากเกาหลีที่มีค่าตัวค่อนข้างสูง ซึ่งนิยมติดกันในรถยนต์พรีเมียมราคาแพง เนื่องจากมีโหมด Parking Surveillance, ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน และระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ ความทนทาน อีกทั้งยังค่อนข้างทำงานได้เสถียร ส่วนกล้องหน้า-หลังเป็นแบบ Full HD 1080p @30fps ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ Sony Exmor ร่วมกับชิปเซต Ambarella A7 คุณภาพของภาพที่บันทึกได้จึงคมชัดสูงทั้งกลางวันและกลางคืนด้วย Super Night Vision
ทั้งนี้ Thinkware F770 2-CH จะไม่มีหน้าจอ เช่นเดียวกับกล้องติดรถยนต์พรีเมียมหลาย ๆ ยี่ห้อ ซึ่งโดยปกติคงไม่มีความจำเป็นต้องดูอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการดูภาพสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และจัดการทุกสิ่งอย่างผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ได้เลยแม้แต่ภาพแบบเรียลไทม์ ซึ่งมี User Interface ที่ใช้งานง่ายมากสำหรับทุกฟีเจอร์
รายละเอียดกล้องติดรถยนต์ Thinkware F770 2-CH
- กล้องหน้า-หลัง Full HD 1080p 30fps
- เซ็นเซอร์ Sony Exmor (กล้องหน้า-หลัง) + Ambarella A7 CPU
- เลนส์กล้องหน้า-หลัง กว้าง 140 องศา
- ต่อตรงจากฟิวส์หรือตัวเสียบช่องชาร์จไฟในรถยนต์
- G-Sensor
- Parking Mode พร้อมระบบตรวจจับแรงสั่นสะเทือน การเคลื่อนไหวและบันทึกแบบ Time Lapse ได้
- รองรับ GPS
- WI-FI
- รองรับ Micro SD card สูงสุด 64GB (มี Micro SD Card 32GB ให้)
- ไมโครโฟน/ลำโพงภายในกล้อง
แม้ว่ากล้องติดรถยนต์หน้า-หลังทั้ง 5 รุ่น จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่ากล้องติดรถยนต์หน้าอยู่พอสมควร ถ้าต้องการเน้นที่คุณภาพในการใช้งาน รวมถึงแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และอย่างน้อยจัดว่าเป็นทางเลือกสำหรับการพิจารณาเปรียบเทียบหรือตัดสินใจให้เข้ากับงบประมาณที่ต้องการได้ (ของถูกและดีไม่มีในโลก)
อีกทั้งปัจจุบันการติดกล้องติดรถยนต์ยังใช้ลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจได้อีกด้วย จึงค่อนข้างคุ้มค่าสำหรับการลงทุน เพราะหากเกิดปัญหาแล้วกล้องติดรถยนต์นับว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยบันทึกหลักฐานและทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก ๆ
หากใครใช้รุ่นไหนอยู่ หรือมีกล้องติดรถยนต์รุ่นไหนใช้ดี มาเมนต์บอกต่อกันได้ ทางทีมงานพร้อมเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และนำมาแนะนำเพิ่มเติมต่อไป
ภาพจาก Proof-carcam, thaiblackbox, carcamkorea และ Lukas