นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ของแบรนด์รถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลกอย่าง Mercedes-AMG ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยืนยันความสำเร็จและความมั่นใจของผู้บริโภคต่อแบรนด์ Mercedes-AMG ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับในประเทศไทย เรายังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอรถยนต์กลุ่มสมรรถนะสูง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบความสปอร์ตเร้าใจมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเปิดตัวแบรนด์ Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการ และการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่จะ สานต่อกลยุทธ์ ‘THE BEST’ เพื่อมอบ ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง"
"และเพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง เราจึงได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับวงการรถยนต์หรู ด้วยการเปิดตัวรถยนต์แบรนด์ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe 2018 รุ่นประกอบในประเทศเป็นครั้งแรกของเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของโลกสำหรับการผลิตรถยนต์ Mercedes-AMG นอกเหนือจากที่ผลิตในโรงงานของเดมเลอร์ เอจี
ไฮไลท์สำคัญในการเปิดตัวครั้งนี้ คือการเลือกเปิดตัวที่สนามพีระ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ซึ่งถือเป็นสนามแข่งรถยนต์แห่งแรกของประเทศไทย ที่ตั้งชื่อตามพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ ภาณุเดช ทรงชนะเลิศการแข่งขันครั้งแรก ในรายการ Coupe de Prince Rainier ที่เซอร์กิต เดอโมนาโก (ปัจจุบันคือ โมนาโกกรังด์ปรีซ์)
กิจกรรมครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งแรกของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้นำเสนอการเปิดตัวรถยนต์ในรูปแบบของ Live streaming หรือการรับ/ส่ง สัญญาณภาพและเสียงบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบถ่ายทอดสด ผ่านทุกช่องทางของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ทั้ง Mercedes-Benz Thailand Website (mercedes-benz.co.th), YouTube และ Facebook (Mercedes-Benz Thailand) ซึ่งผู้ชมทุกท่านสามารถรับชมได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานแบบออนไลน์ได้ พร้อมกันกับงานแถลงข่าวที่เกิดขึ้น ณ สนามพีระ อินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต" นายไมเคิล กล่าวเพิ่มเติม
นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "รถยนต์ Mercedes-AMG ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากยอดขายที่เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 44% ซึ่งจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ต้องการสัมผัสรถสปอร์ตแรงม้าสูงจาก แบรนด์ในเครือและกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ชื่นชอบความเร็วและความแรงให้รู้จักรถยนต์ตระกูลนี้ให้ มากขึ้น"
"โดยหลังจากการเปิดตัวในวันนี้ จะส่งผลให้ ในปัจจุบัน ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอรถยนต์แบรนด์ Mercedes-AMG ทั้งหมด 12 รุ่น ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GT S, Mercedes-AMG GT R, Mercedes-AMG GT C และล่าสุดกับ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe รุ่นประกอบในประเทศไทย ที่มาเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอรถยนต์ในกลุ่มสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทย
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe 2018 รุ่นประกอบประเทศไทย
รถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล 43 ที่แบรนด์ Mercedes-AMG สร้างสรรค์ขึ้นตามหลักปรัชญา "Driving Performance - ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ" ผสมผสานนวัตกรรมของรถสปอร์ตและรถแข่งไว้ได้อย่างลงตัว
ดีไซน์ภายนอกของ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe 2018 นักออกแบบ Mercedes-AMG ได้เน้นคุณลักษณะของแบรนด์ การตกแต่งฝาครอบเครื่องยนต์ด้วยแถบสีแดงทรงวี เพื่อสะท้อนสมรรถนะเครื่องยนต์แบบวี 6 สูบเทอร์โบคู่
จุดเด่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อย่างฝากระโปรงหน้าแบบยาว ตัวถังที่กว้างขึ้น ประตูแบบไร้ขอบ กรอบกระจกมองข้างสีดำแบบลอยตัวจากตัวถัง ขอบตกแต่งสีดำเงาบริเวณด้านข้างตัวรถและกรอบหน้าต่าง เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยาวลงไปถึงซุ้มล้อหลัง
ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อพร้อมตัวแบ่งตรงกลางที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System, ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System), ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light), หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กระจังหน้า diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ AMG, AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง), ล้ออัลลอยดีไซนสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19", ยางรถยนต์แบบ Run-flat
ดีไซน์ภายใน พวงมาลัย AMG Performance แบบสปอร์ตท้ายตัด ตกแต่งด้วย DINAMICA microfibre ที่ปรับการทำงานตามระดับความเร็ว ซึ่งมีค่าการแปรผันของการตอบสนองหลายระดับ ช่วยให้การเข้าโค้งเป็นไปอย่างคล่องตัวและเหมาะสมที่สุด โดยพวงมาลัยนี้มีความแม่นยำสูงและตอบสนองต่อการหมุนของผู้ขับขี่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า, วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester, ตกแต่งภายในด้วยลาย AMG Carbon-fibre และอะลูมิเนียม
นวัตกรรมและเทคโนโลยี Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe ใช้ระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL แบบสปอร์ตเป็นระบบมาตรฐาน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในทุกย่านความเร็ว พร้อมมอบความสบายให้ทุกคนในห้องโดยสารแม้ขณะเดินทางไกล โดยเพลาหน้าที่ใช้เทคโนโลยี 4-ลิงก์ มีแกนบังคับเลี้ยวที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมข้อต่อรับน้ำหนักบริเวณแกนจับยึดล้อแบบสปริง เพื่อเสริมการยึดถนนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe 2018 มาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ Eco, Comfort, Sport, Sport Plus และ Individual โดยโหมดการขับขี่แบบ Sport Plus จะสามารถเร้าอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้ถึงขีดสุด และยังช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงจิตวิญญาณของแบรนด์ AMG ได้อย่างแท้จริง ด้วยการทำงานของกลไกที่จะชะลอการทำงานภายในกระบอกสูบขณะที่มีการ เปลี่ยนเกียร์ พร้อมชะลอการทำงานของกลไกการฉีดน้ำมันและการจุดระเบิด ขณะที่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดกว้างที่สุด ซึ่งจะช่วยให้กลไกการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับด้านการลดอัตราการใช้พลังงาน Mercedes-AMG ได้ติดตั้งระบบ ECO start/stop และกลไกพิเศษ sailing ที่ช่วยให้รถเคลื่อนไปข้างหน้าต่อได้ โดยอาศัยระบบคลัตช์จำกัดแรง (overrun mode) ที่จะทำงานในโหมดการขับขี่แบบ ECO เท่านั้น ซึ่งเมื่อผู้ขับขี่ถอนเท้าออกจากคันเร่งขณะรถวิ่งด้วยความเร็วตั้งแต่ 60-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบคลัตช์จะหยุดการตอบสนอง ระบบส่งกำลังจะสั่งการให้เครื่องยนต์และระบบเกียร์หยุดทำงานร่วมกัน โดยระบบไฟฟ้าจะเข้ามาทำงานแทนเพื่อลดรอบเครื่องยนต์จนหยุดนิ่ง ในขณะที่แรงต้านของการเคลื่อนที่จะถูกลดทอนลงจากทั้งแรงอัดและแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ที่เกิดจากการทำงานของระบบคลัตช์จำกัดแรง
เครื่องยนต์แบบ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่แบบ Bi-Turbo ของ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe 2018 เป็นเครื่องยนต์รุ่นหนึ่งในระบบบลูไดเรกต์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์สมรรถนะสูงในประเภทเดียวกัน โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมกับนวัตกรรมอัจฉริยะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบแรงดันเสริมของกลไกการอัดอากาศเข้าสู่กระบอกสูบ (boost pressure) ที่สามารถปรับแต่งได้ ซึ่งเพิ่มกำลัง แรงบิดของเครื่องยนต์ และความยืดหยุ่นในการทำงานและการตอบสนองให้เป็นไปตามมาตรฐาน AMG
นอกจากนี้ Mercedes-AMG ยังเคลือบสารนาโนสไลด์ (NANOSLIDE® coating) ที่เป็นสารหล่อลื่นชนิดเดียวกับกับที่ใช้ในรถฟอร์มูล่าวันของทีม MERCEDES-AMG PETRONAS ไว้ในกระบอกสูบ โดยสารนี้จะช่วยลดการเสียดสีภายในกระบอกสูบ อีกทั้งยังสามารถยึดเกาะกับพื้นผิวของกระบอกสูบได้นานและทนทานต่อการเสียดสีเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อกระบอกสูบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จะส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานของรถยนต์ลดลง
สำหรับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) นั้น ทีมงานของ Mercedes-AMG สามารถลดเวลาที่ระบบส่งกำลังใช้เพื่อเปลี่ยนระดับของเกียร์ได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ลงได้หลายระดับ ทำให้สามารถใช้เทคนิคเพื่อเพิ่มกำลังให้กับรถเพื่อเร่งเครื่องเป็นระยะสั้นได้เร็วขึ้น
ผู้ขับขี่ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบเร้าใจยิ่งขึ้น หากใช้ระบบจำลองการเหยียบคลัตช์แบบ 2 จังหวะ (double-declutching function) ขณะเปลี่ยนเกียร์ลงในโหมด Sport และ Sport Plus พร้อมทั้งยังปรับตั้งค่าการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ใหม่ในโหมดการทำงานของเครื่องยนต์แบบ Eco และ Comfort เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการเปลี่ยนเกียร์ที่ดีขึ้นอีกด้วย
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe 2018 ยังมีโหมดการทำงานที่จำลองการทำงานของรถยนต์เกียร์ธรรมดา (Manual Mode) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้ด้วยการกดปุ่มที่แผงคอนโซลกลาง โดยโหมดนี้จะส่งผลให้ความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปตามที่ผู้ขับเลือกใช้ ซึ่งระบบเกียร์จะคงอยู่ที่ระดับที่ ผู้ขับขี่เลือกโดยไม่ปรับขึ้นแม้ว่ารอบเครื่องยนต์จะมีความเร็วเกินระดับสูงสุดของเกียร์ดังกล่าว
รุ่น |
เครื่องยนต์ |
ปริมาตร กระบอกสูบ (ซีซี) |
แรงม้าสูงสุด |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนา |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. |
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.) |
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé |
เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ |
2,996 |
367/5,500-6,000 |
520/2,000-4,200 |
4.7 |
250 |
ราคาจำหน่ายของ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe 2018 ที่ 4,140,000 บาท (เดิม 5,190,000 บาท)