


นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการบริการหลังการขาย อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามนโยบายของอาวดี้ ประเทศไทย ในการสร้างแบรนด์ด้วยการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าในคุณภาพการบริการหลังการขาย ควบคู่ไปกับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
บริษัทจึงเดินหน้ารุกพัฒนางานบริการหลังการขายอย่างเต็มที่ มีการลงทุนนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อให้ศูนย์บริการมีความครบวงจร ได้มาตรฐานของ Audi AG และมีความพร้อม ทั้งในด้านบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี อะไหล่แท้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความประทับใจทุกครั้งเมื่อเข้ามาใช้บริการหลังการขาย
จากการดำเนินงานตลอด 9 เดือน นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปีที่ผ่านมา มีลูกค้า อาวดี้ ประเทศไทย และลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้จำหน่ายรายเดิมและลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้ารถอิสระ นำรถมาเข้ารับบริการอย่างคับคั่ง โดยต่างประทับใจในคุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐานสูง งานซ่อมที่มีคุณภาพภายในระยะเวลาที่เหมาะสม และราคาที่สมเหตุสมผล
สำหรับปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เนื่องจากมีการเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่มีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการในกรุงเทพฯ และภูมิภาค รวม 6 แห่ง และมีแผนขยายเพิ่มเป็น 10 แห่งในปี 2562

บริษัทจะได้มีการลงทุนเพิ่มอีกกว่า 50 ล้านบาท เพื่อยกระดับและขยายงานบริการหลังการขายและการจัดการอะไหล่ ให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยการลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ จะเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การนำเทคโนโลยีทันสมัยใหม่ ๆ มาใช้ การสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ และการสร้างศูนย์ตรวจรถใหม่ก่อนส่งมอบให้ผู้จำหน่าย
ในด้านการลงทุนนำเทคโนโลยีทันสมัยใหม่ ๆ มาใช้ในศูนย์บริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพการบริการหลังการขายของ Audi และมีความครบวงจร สามารถตรวจเช็ก ประเมิน วิเคราะห์ เพื่อทำการตีราคาและซ่อม ได้อย่างถูกต้อง เพื่อรองรับปริมาณงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
บริษัทได้เตรียมการนำเข้าเครื่องมือ วิเคราะห์ปัญหา เพิ่มเข้ามาใช้ในโชว์รูมและศูนย์บริการทุกแห่ง อีกกว่า 4 เท่าตัว รวมทั้งเครื่องตั้งศูนย์ถ่วงล้อ และเปลี่ยนยาง ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสูงสุด สำหรับสำนักงานใหญ่


ในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อให้มีทีมบริการที่เชี่ยวชาญพร้อม และเพียงพอ รองรับการขยายและการเติบโต บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก Audi AG ส่งช่างเทคนิคชำนาญการสูงของบริษัทแม่ มาฝึกอบรม ทีมวิศวกร และช่างเทคนิคในทุกระดับ เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน เพื่อพัฒนาเพิ่มเติมความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และเสริมสร้างแรงบันดาลใจ เพิ่มพูนทักษะในการใช้ภาษาให้ยอดเยี่ยมมากขึ้น
นอกจากนี้ ในปีนี้มีแผนที่จะส่งทีมงานไปอบรมในต่างประเทศมากขึ้นไปอีก ทั้งที่สิงคโปร์ มาเลเซีย และเยอรมนี และสนับสนุนให้มีทีมช่างไปเข้าทดสอบฝีมือและความเชี่ยวชาญในระดับ Master Technician ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของช่าง Audi ให้เพิ่มขึ้นด้วย
นายวัลลภ กล่าวว่า ตามแผนการยกระดับคุณภาพการบริการหลังการขายในปี 2561 บริษัทจะใช้เงินลงทุนเพิ่มส่วนใหญ่ในปีนี้ ไปกับการสร้างและพัฒนาศูนย์กระจายอะไหล่ เพื่อให้การบริหารสต็อกการส่งอะไหล่ไปยังโชว์รูมต่าง ๆ มีประสิทธิภาพความรวดเร็ว ทันกับความต้องการของลูกค้า โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้เต็มรูปแบบประมาณกลางปีนี้ นอกจากนี้ยังจะได้มีการสร้างศูนย์ตรวจรถใหม่ก่อนส่งมอบให้ผู้จำหน่ายที่มีประสิทธิภาพและมีศักยภาพ มีการติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อให้การเตรียมรถส่งมอบรถใหม่มีความสะดวก รวดเร็ว สร้างความประทับใจให้กับลูกค้ามากที่สุด


"จากการลงทุนเพิ่มเพื่อยกระดับคุณภาพและขยายงานบริการหลังการขาย เชื่อมั่นว่าปีนี้จะเป็นปีที่ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความคึกคักและความมุ่งมั่นในการบริการหลังการขายของเรา เพื่อทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและมีความมั่นใจในแบรนด์ Audi มากขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้เรายังคงยึดนโยบาย ให้บริการลูกค้ารถยนต์ Audi อย่างทั่วถึง ทั้งลูกค้าใหม่ ลูกค้าจากผู้จำหน่ายรายเดิม และลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระอย่างดีที่สุด จึงขอให้ลูกค้าทุกคนที่ขับ Audi ทุกคันมีความมั่นใจในคุณภาพ และความทุ่มเทในการพัฒนามาตรฐานการบริการหลังการขายของเรา"
สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระ เพื่อรับประโยชน์ในการรับการบริการหลังการขายในครั้งต่อ ๆ ไป จะมีการคิดค่าลงทะเบียนแรกเข้าเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่นเพื่อตรวจเช็กสภาพรถ 40 รายการ และอัปเดตซอฟต์แวร์ ของกล่องสมองควบคุมต่าง ๆ ให้รถมีการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจากเดิมลูกค้าต้องเสียเงินหลายหมื่นบาทในการอัปเดตซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ