ในเบื้องต้นตลาดหลักของ Hyundai NEXO 2018 น่าจะเป็นเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยรูปโฉมที่เหมือนกับรถเอสยูวีขนาดคอมแพกต์ทั่วไป ต่างจาก Toyota Mirai ที่มีดีไซน์แปลกตากว่ารถยนต์ซีดานปกติ ขณะที่ภายในห้องโดยสารของ Hyundai NEXO 2018 นั้นออกแบบเรียบง่ายด้วยการใช้จอแสดงผลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ตั้งไว้บนแผงหน้าปัดแทนมาตรวัด และจัดวางปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้บนคอนโซลกลางที่พาดเป็นสะพานคล้าย Toyota Prius เจเนอเรชั่นที่ 3 (ที่มีจำหน่ายในไทย) เรียกว่าทั้งภายนอกจนถึงภายในน่าจะพร้อมจำหน่ายได้เลยทันที แต่ Hyundai NEXO 2018 จะเริ่มจำหน่ายในช่วงปลายปี 2018
ทั้งนี้ Hyundai NEXO 2018 ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่สำหรับรถ FCEV ของ Hyundai โดยเฉพาะ รวมถึงการจัดสรรพื้นที่ (Packaging) ใหม่ ทำให้ Hyundai NEXO 2018 มีน้ำหนักเบากว่า อัตราเร่งดีกว่าเดิม (0-100 กม./ชม. ใน 9.5 วินาที) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 395 นิวตันเมตร
ภายในกว้างกว่า Hyundai Tucson FCEV อีกทั้งระบบขับเคลื่อนได้รับการปรับปรุงให้กินเนื้อที่น้อย ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ Hyundai NEXO 2018 ใหม่ วิ่งได้ไกลกว่า Hyundai Tucson FCEV ที่ทำได้เพียง 426 กม. รวมไปถึง Toyota Mirai ที่เป็นคู่แข่งด้วย ส่วนระยะเวลาการเติมเชื้อเพลิงก็รวดเร็วเพียง 5 นาที เท่านั้น (พอ ๆ กับ Toyota Mirai แต่เร็วกว่ารถยนต์ไฟฟ้า BEV แน่)
- ระบบแสดงภาพจุดอับสายตา Blind-spot View Monitor (BVM) ด้วยกล้องที่จอแสดงผลภายในรถ
- ระบบช่วยรักษาความเร็วและระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าอัตโนมัติบนไฮเวย์สำหรับการขับขี่ทางไกล Highway Driving Assist (HDA) ด้วยกล้องและเซ็นเซอร์หน้ารถ
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ Remote Smart Parking Assist (RSPA) ที่ล้ำกว่าการสั่งเดินหน้าถอยหลังแนวตรงเพื่อเข้า-ออก ช่องจอดด้วยรีโมท เพราะระบบของ Hyundai นั้นเพียงแค่กดปุ่มที่ Smart Key รถสามารถหักเลี้ยวถอยเข้าช่องจอดอัตโนมัติได้เองเลย ไม่ต้องใช้นิ้วลากขึ้นลากลงให้เสียเวลา (ดูได้จากคลิป)
อย่างไรก็ตามรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) อาจไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายสำหรับรถยนต์พลังงานสะอาด Zero Emission ในอนาคต เพราะปัจจุบันยังคงมีผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ ๆ หลายรายให้ความสำคัญกับรถฟิวเซลล์ (FCEV) อีกไม่น้อย แต่พลังงานรูปแบบใดจะชนะนั้นตอนนี้ยังตัดสินได้ยากแม้ว่ารถไฟฟ้า (BEV) เหมือนจะได้เปรียบซึ่งนั่นก็ไม่ได้แปลจะดีกว่าเสียทั้งหมด