ต้องไปดูให้เห็นกับตาเพราะ Toyota C-HR 2018 ใหม่ ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ ที่ตั้งใจให้เป็นไลฟ์สไตล์ เอสยูวีแบบ 4 ประตู คูเป้ ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว เก๋ไก๋ เป็นหลักตั้งแต่หัวจรดท้าย ทั้งการออกแบบพื้นผิวตัวถังให้มีมิติซับซ้อนและมีไดนามิก ไฟหน้าเรียวยาว (แบบ Bi-Led ในรุ่นไฮบริดและ Bi-Halogen รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) ยังมาพร้อมลูกเล่นไฟเลี้ยววิ่งได้ที่กำลังมาแรงมาก โดย Toyota C-HR ปี 2018 ใหม่ จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย และราคาอย่างไม่เป็นทางการ ดังนี้
- Toyota C-HR HV Hi (ไฮบริด) ราคาไม่เกิน 1,200,000 บาท
- Toyota C-HR HV Mid (ไฮบริด) ราคา 1,050,000 บาท
- Toyota 1.8 Mid (เบนซิน) ราคา 1,050,000 บาท (+/- ไม่เกิน 20,000 บาท)
- Toyota 1.8 Entry (เบนซิน) ราคาต่ำกว่า 1,000,000 บาท
ทั้งนี้ Toyota C-HR 2018 ใหม่ จะมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 6 สี คือ
- สีแดงหลังคาดำ พรีเมียม เรด/แบล็ก (เฉพาะรุ่นไฮบริด)
- สีน้ำเงินหลังคาดำ บลู เมทัลลิก/แบล็ก (เฉพาะรุ่นไฮบริด)
- สีเขียวหลังคาดำ เรเดียนต์ กรีน เมทัลลิก/แบล็ก (เฉพาะรุ่นไฮบริด)
- สีขาวมุก ไวท์ เพิร์ล คริสตัล
- สีเทา เมทัล สตรีม เมทัลลิก
- สีดำ แอตติจูด แบล็ก ไมก้า
ส่วนภายในของ Toyota C-HR 2017 ที่เป็นไลฟ์สไตล์ คูเป้ เอสยูวี ดังนั้นการออกแบบจึงเน้นไปที่สไตล์เป็นหลัก ให้ความสปอร์ต เรียบหรูและดูชิค ไม่เน้น "ความกว้างขวาง" เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจในแนวคิดการออกแบบ (ไม่ได้หมายความว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่จะต้องยอมรับให้ได้ แต่นี่คือแนวคิดในการดีไซน์เพื่อกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสไตล์มากกว่า) คล้ายกับการที่ผู้หญิงยอมเลือกใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อความสวยงามแม้ต้องแลกกับความสบายซึ่งอาจไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนและ Toyota C-HR 2018 ใหม่ ก็จะเป็นไปในทำนองเดียวกัน
ห้องโดยสาร Toyota C-HR 2018 ใหม่ จึงพอเหมาะพอดีสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ขณะที่พื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังจะรู้สึกอึดอัดแบบรถคูเป้ที่เน้นโดยสารกันสองคนเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากกรอบหน้าต่างประตูหลังเล็กมากกว่าปกติ แต่นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดในด้านการออกแบบ เพราะ Toyota ตั้งใจให้เป็นรถ เอสยูวี ทรงคูเป้ ที่เน้นไลฟ์สไตล์ชัดเจนมาตั้งแต่แรก แต่อย่างไรก็ตามเบาะหลังยังนั่งได้สบายพอสมควร
ทางด้านขุมพลัง Toyota C-HR 2018 ใหม่ เบื้องต้นระบุแค่ว่าจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุ 1.8 ลิตร กับแบบไฮบริดที่ช่วยให้มีอัตราสิ้นเปลืองดีสุดถึง 24.4 กม./ลิตร พร้อมพัฒนาระบบระบายความร้อนในแบตเตอรี่ใหม่ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นเท่านั้น
แต่เป็นไปได้มากว่า Toyota C-HR 2018 ใหม่ ขุมพลังเบนซิน 1.8 ลิตร ใช้เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FE แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1,798 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุดประมาณ 140 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร
ส่วนขุมพลังไฮบริดน่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2ZR-FXE แบบ Atkinson cycle 4 สูบ ขนาดความจุ 1,798 ซี.ซี. ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมกันสูงสุดประมาณ 134 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 207 นิวตันเมตร ซึ่งรายละเอียดของเครื่องยนต์ที่แน่นอนคงต้องรอฟังจากทาง Toyota อีกครั้ง
นอกจากนี้ Toyota C-HR 2018 ใหม่ จะมาพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Toyota TELEMATIC ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้แก่
- Find my car ค้นหาพิกัดรถและแจ้งเตือนเมื่อรถถูกเคลื่อนย้าย
- Toyota Wi-Fi เชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา
- SOS Emergency Service แจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม.
- Operator Service ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวใน Toyota C-HR
สำหรับในเรื่องความปลอดภัย Toyota C-HR 2018 ใหม่ ในรุ่นย่อยสูงสุด (HV Hi) จะติดตั้งระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist), ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control), ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) เป็นต้น แต่ Toyota C-HR 2018 ใหม่ ทุกรุ่น จะมีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ใครที่สนใจรถเอสยูวี 4 ประตู คูเป้ ที่เน้นสไตล์อย่าง Toyota C-HR 2018 ใหม่ อยู่แล้ว แนะนำเลยว่าน่าสนใจมากและถ้ามีโอกาสต้องลองไปสัมผัสคันจริงที่งาน Motor Expo 2017 ซึ่งเปิดจองสิทธิ์การเป็นเจ้าของล่วงหน้าได้ทันทีโดยไม่ต้องวางเงิน แถมจะได้ Custom Name Plate ติดรถด้วย แต่เห็นว่าจะจำกัดจำนวนไว้ประมาณ 2,000 คัน ส่วนรถคันจริงน่าจะเปิดตัวช่วงต้นปีหน้าประมาณเดือนมีนาคม