

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 มอเตอร์ ประเทศไทย และ เลกซัส อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมแถลงข่าวแนะนำ เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) ยานยนต์หรูระดับเฟิร์สคลาส นิยามใหม่แห่งความสมบูรณ์แบบ
เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 พัฒนาขึ้นโดยเน้นการผสมผสานรูปลักษณ์และเสน่ห์แห่งยนตรกรรมแถวหน้าที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ผ่านมาตรฐานฝีมือการผลิตและความเอาใจใส่ขั้นสูงแบบญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อด้านความประณีตและพิถีพิถัน (Takumi Craftsmanship) สะท้อนถึงขนบธรรมเนียมในการต้อนรับและการบริการแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า "Omotenashi" ด้วยการทำให้ทุกรายละเอียดของยนตรกรรมนี้ นำมาซึ่งบรรยากาศแห่งความสงบและความผ่อนคลาย สร้างช่วงเวลาอันน่าจดจำ มิอาจลืมเลือน
สำหรับประเทศไทยนั้น ถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้นำเสนอความหรูหราสมบูรณ์แบบของ เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) ให้ชาวไทยได้สัมผัส


เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) ความงามที่หลอมรวมทักษะฝีมือช่างญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้านความประณีตและพิถีพิถัน พร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าไว้ด้วยกัน รูปลักษณ์ความเป็นรถคูเป้ที่ดุดัน บนพื้นฐานสถาปัตยกรรมการออกแบบรถหรูใหม่ล่าสุดของเลกซัส (Global Architecture for Luxury Vehicles: GA-L) โดดเด่นด้วยแนวคิดการออกแบบ "โฉบเฉี่ยวเร้าใจ" (Sensual Aggressive) ตัวรถได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่พลิ้วไหวสวยงามโดดเด่นสะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยเอกลักษณ์ตัวถังรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ
อุปกรณ์พร้อมดีไซน์อันโดดเด่นใน เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018)
ภายนอก

- ชุดไฟหน้าและไฟส่องสว่าง Ultra-small 3-eye Bi-Beam กระจายความสว่างได้อย่างยอดเยี่ยม ไฟ LED 16 ดวงที่อยู่ในไฟเลี้ยวส่องประกายสว่างเรียงทีละดวงจากมุมด้านในจนถึงด้านนอกของตัวรถ


- โคมไฟท้ายแบบ combination โคมไฟท้ายรวมถึงไฟบนฝากระโปรงหลังเป็นไฟ LED ทั้งหมด
ภายใน
- Hands-free power trunk lid เปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายได้อย่างอัตโนมัติ โดยแค่ขยับเท้าบริเวณใต้กันชนด้านหลัง

- เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าปรับ 22 ทิศทาง และพนักวางขาไฟฟ้า เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าใช้มอเตอร์ผสานกับระบบนิวเมติกที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยระบบสามารถสูบลมเข้าออกถุงลมเพื่อปรับองศาเก้าอี้ได้ในทุกมุม

- ระบบความบันเทิงของเบาะนั่งตอนหลัง ประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอ พร้อมเครื่องเล่นแผ่น Blu-ray ช่องใส่ SD card และสายต่อ HDMI ที่จะให้คุณเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น โดยใช้ Miracast หรือ DLNA (Digital Living Network Alliance)
- ระบบนวดผ่อนคลายพร้อมฟังก์ชั่นกดจุดแบบร้อน (เบาะที่นั่งด้านหลังซ้ายและขวา) ระบบถุงลมที่ติดตั้งภายในเบาะที่นั่งและพนักพิงจะพองลมเพื่อนวดหลังและต้นขาของผู้นั่ง นอกจากนั้นยังสามารถทำความร้อนเพื่อเพิ่มความสบายตัวผ่อนคลาย โดยสามารถเลือกโปรแกรมสำหรับการผ่อนคลายทั่วร่าง (Full Body Refresh, Full Body Stretch และ Full Body Simple) หรือผ่อนคลายเฉพาะส่วน (ร่างกายส่วนบน ร่างกายส่วนล่าง ไหล่และสะโพก) รวม 7 โปรแกรม
- แผงควบคุมอเนกประสงค์ด้านหลังแบบสัมผัส จัดวางอยู่ในที่วางแขนตรงกลางเบาะหลังให้คุณควบคุมเสียงเพลง ระบบปรับอากาศ เก้าอี้และฟังก์ชั่นผ่อนคลาย ม่านกันแดดและไฟ
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Mark Levinson QLI ระบบเสียงสามมิติ 16 ช่องทาง พร้อม ลำโพง 23 และเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง QLI (Quantum Logic Immersion)
- ม่านบังแดดไฟฟ้า
- เบาะนั่งตอนหน้าไฟฟ้าปรับ 28 ทิศทาง ระบบนิวเมติกที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระทุกส่วนของร่างกายอย่างพอดี เบาะรองไหล่ช่วยเสริมการขับขี่
- ปุ่มควบคุมการสั่งการแบบสัมผัส
- ระบบปรับอุณหภูมิอัจฉริยะ สามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้นั่งแต่ละคน ด้วยเซนเซอร์วัดแสงอินฟราเรด ปรับความสบายให้เหมาะสมกับผู้นั่งโดยทันที ทั้งนี้ยังตรวจจับแสงอาทิตย์ในช่วงเช้าและช่วงพลบค่ำเพื่อควบคุมอุณหภูมิในรถ
- ระบบถุงลมช่วงล่างควบคุมไฟฟ้า (พร้อม access mode) นอกจากฟังก์ชั่นปรับความสูงของรถที่ปรับเป็นแบบ Normal และ High ได้แล้ว โหมด access จะช่วยยกตัวรถขึ้นอัตโนมัติเมื่อผู้โดยสารต้องการขึ้นหรือลง
- ระบบเบาะยกตัวเลื่อนรองรับอัตโนมัติ (Power easy access system) ทำให้การเข้าออกจากรถเป็นไปได้อย่างราบรื่น
เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) กับเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน
LS 500 - เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จคู่ V6 ขนาด 3.5 ลิตร (V35A-FTS) ได้รับการออกแบบใหม่พิเศษเฉพาะเลกซัส มาพร้อมเทคโนโลยีเผาไหม้ความเร็วสูง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ประสิทธิภาพสูงสร้างขุมพลังชั้นยอดและใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า เครื่องยนต์สร้างแรงบิดสูงสุดโดยเริ่มจากรอบต่อนาทีต่ำสุด ได้อัตราเร่งที่ทรงพลังเมื่อเหยียบคันเร่ง จับคู่ร่วมกับเกียร์ Direct Shift-10AT ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นจังหวะและตอบสนองความสุขในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
LS 350 - เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร (8GR-FKS) Dual VVT-i (ด้านไอดี VVT-iW) มาพร้อมสมรรถนะที่ทรงพลัง สร้างแรงบิดสูงในอัตราการเร่งความเร็ว กระเดื่องวาล์วน้ำหนักเบาและโซ่ราวลิ้นแรงเสียดทานต่ำเพิ่มสมรรถนะการเร่งเครื่องยนต์ ระบบ Stop&Start ช่วยเสริมให้ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบ D-4s ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
LS 500h - เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร (8GR-FXS) เครื่องยนต์ V6 ของระบบไฮบริดผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงที่รวมเครื่องยนต์ Dual VVT-i (ด้านไอดี VVT-iW) และระบบหัวฉีดเชื้อเพลิง D-4S เข้าไว้ด้วยกัน น้ำหนักเบาช่วยให้การขับขี่ทรงพลังและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น การลดการสูญเสียความฝืดในเครื่องยนต์ช่วยเร่งความเร็วสูงสุด จาก 6,000 เป็น 6,600 รอบต่อนาที
ระบบ Multi Stage Hybrid System การควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ 10 ระดับ ของระบบ Multi Stage Hybrid System ทำให้รู้สึกว่ารถเร่งเร็วขึ้นทันทีที่เร่งรอบเครื่องยนต์ ทั้งยังทำให้เปลี่ยนจังหวะเกียร์ได้ยอดเยี่ยม อุปกรณ์เปลี่ยนเกียร์ Multi Stage Shift Device สลับใช้อัตราเร่งระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ช่วยเพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์และเพิ่มแรงขับขี่อีก 24% โดยใช้ประโยชน์ความเร็วของเครื่องยนต์ที่หลากหลายจากความเร็วต่ำไปจนถึงความเร็วสูง ควบคุมความแรงของเครื่องยนต์ถึงขีดสุดตั้งแต่ 50 กม./ชม. ทั้งยังขับขี่ได้รวดเร็วแม้จะใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำเพื่อการขับขี่ที่เงียบสงบ
ตัวถังรถ เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) ทำจากวัสดุหลากหลาย เพื่อให้ตัวถังรถแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา และปลอดภัยเป็นเลิศ จึงใช้ประโยชน์จากโครงรถเหล็กกล้าทนแรงดึงสูงเพื่อสร้างองค์ประกอบตัวถังรถที่สำคัญ เช่น แผงบันได โครงเสาตัวกลางและหลังคา เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงรถและโมเมนต์ความเฉื่อยจึงใช้อะลูมิเนียมทำเป็นโครงรถติดตั้งไว้ห่างจากจุดศูนย์ถ่วงรถ ฝากระโปรงรถ ฝากระโปรงท้าย บังโคลน ประตู แท่นรองรับทำให้ตัวถังรถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

รูปแบบการวางเครื่องยนต์ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง เลกซัส LS ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม FR ที่เลกซัสปรับปรุงใช้กับเลกซัส LC เพื่อกระจายน้ำหนักจากด้านหน้ามายังด้านหลังได้เต็มที่ ทำให้เกิดมิติการขับขี่ที่นิ่งและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยการวางตำแหน่งผู้ขับให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และจัดวางให้สะโพกของผู้ขับขี่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของรถช่วยลดระยะห่างระหว่างผู้ขับขี่กับแกนแรงเหวี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถมั่นใจตลอดการขับขี่
ระบบกันสะเทือน ระบบกันสะเทือนหน้าใช้น้ำมันที่มีความเสียดสีต่ำช่วยดูดซับแรงกระแทกเพื่อช่วยสร้างความสบายในการขับขี่ การใช้ลูกหมากแบบเพลายื่นในระบบกันสะเทือนด้านหลังทำให้การขับขี่มั่นคงและความสบายตัว
VDIM (การควบคุมการบังคับพวงมาลัยแบบผสมผสาน) VDIM เป็นระบบประมวลผลโดยรวมของการควบคุมเครื่องยนต์ เบรก การบังคับทิศทางและฟังก์ชั่นอื่น ๆ อาทิ EPS และ TRC ให้ทำงานพร้อมกันอย่างลงตัว เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และเสริมสร้างความพึงพอใจในการขับขี่
โหมดเลือกการขับขี่ ช่วยให้คุณควบคุมระบบต่าง ๆ ง่ายแค่ปลายนิ้ว คุณสามารถปรับแต่งสมรรถนะให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของตัวเอง โดยเลือกได้ห้าโหมดได้แก่ โหมด Normal, Eco, Comfort, Sport S, และ Sport S+ นอกจากนี้โหมดปรับแต่งอิสระ (Customize) ยังทำให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าระบบส่งกำลังรถยนต์ โครงสร้างตัวถังรถ และระบบปรับอากาศได้ตามที่ต้องการ
เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) เทคโนโลยีความปลอดภัย Lexus Safety System+ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ได้แก่
- Pre-Collision System เมื่อสัญญาณเรดาร์และกล้องหน้าตรวจจับได้ว่ารถมีแนวโน้มที่จะเกิดการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนคนขับและสั่งการตัวช่วยเบรกก่อนชนเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรก ถ้าผู้ขับขี่ไม่สามารถเหยียบเบรกได้ ก็จะสั่งการใช้งานเบรกก่อนชนโดยอัตโนมัติ
- Dynamic Radar Cruise Control นอกจากรักษาระดับความเร็วให้เสถียรแล้ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะใช้เรดาร์และเซนเซอร์กล้องเพื่อตรวจจับรถที่วิ่งอยู่ข้างหน้าและรักษาระยะห่างระหว่างรถให้พอดีด้วยความเร็วคงที่
- Lane Keeping Assist (LKA) ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่งจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่โดยสั่นที่พวงมาลัย และขึ้นที่หน้าจอแสดงผลถ้าระบบประเมินว่าตัวรถยนต์กำลังจะข้ามเส้นแบ่งช่องจราจรโดยที่ไม่เปิดไฟเลี้ยว และช่วยประคองไม่ให้รถออกนอกเส้นแบ่งช่องจราจร
- Two-Stage Adaptive High Beam System (AHS) เมื่อระบบตรวจพบว่ามีรถยนต์เข้ามาในรัศมีที่เปิดไฟสูง ระบบจะเปิด-ปิดไฟ LED ไฟสูง 8 - ดวง และไฟต่ำ 16 ดวง ในแต่ละข้าง เพื่อกันไม่ให้ไฟสูงจากหน้ารถสาดไปยังรถที่วิ่งสวนมา โดยไม่ทำให้รถคันอื่นแสบตา
- Panoramic View Monitor หน้าจอแสดงผลให้ผู้ขับขี่เห็นรถคันอื่นได้ชัดเจน โดยแสดงผ่านหน้าจอ EMV (Electro Multi-Vision) ขนาด 12.3 นิ้ว
- Automatic Rear Seat Reclining เมื่อไม่มีผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง ระบบจะปรับเอนเบาะสอดคล้องกับการเข้าเกียร์ ทั้งยังปรับเบาะให้ต่ำลงเพื่อให้ผู้ขับขี่มองกระจกหลังได้ทัศนวิสัยกว้างขึ้น
เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) กับสีภายนอก
Sonic Quartz
Sonic Silver
Sonic Titanium
Manganese Luster สีใหม่
Black
Graphite Black Glass Flake
Red Mica Crystal Shine
Sonic Agate สีใหม่
Sleek Ecru Metallic
Amber Crystal Shine
Deep Blue Mica
เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) สีภายในห้องโดยสาร
LS500h รุ่น Executive Pleat
Black with Kiriko (Cut Glass)
Crimson & Black with Kiriko (Cut Glass)
LS500h รุ่น Executive
Black with Art wood (Organic)
Crimson & Black with Art wood (Herringbone)
LS350 รุ่น Luxury
Black with Shimamoku
Topaz Brown with Walnut (Open Pore)
เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) กับวัสดุแผงข้างประตู
Kiriko (Cut Glass)
Art wood (Organic)
Art wood (Herringbone)
Shimamoku
Walnut (Open Pore)
เลกซัส แอลเอส 2018 (Lexus LS 2018) ราคาจำหน่าย 4 รุ่น ได้แก่
LS500h รุ่น Executive Pleat 15,830,000 บาท
LS500h รุ่น Executive 14,500,000 บาท
LS500 รุ่น Executive 13,080,000 บาท
LS350 รุ่น Luxury 11,530,000 บาท








