
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของ Honda Africa Twin 2018 ใหม่ จะมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้
Honda CRF 1000L2 Africa Twin Adventure Sports

- แฟริ่งหน้าที่ใหญ่ขึ้น บังลมหน้าสูงขึ้นอีก 80 มม. เพื่อป้องกันกระแสลม แฮนด์มีระบบอุ่นมือ เพิ่มช่องชาร์จไฟ 12 โวลต์ สำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวระยะไกลโดยเฉพาะ

- โครงบาร์ด้านหน้าและกันกระแทกอ่างน้ำมันเครื่องขนาดใหญ่ขึ้น, Cowling ด้านข้าง (ตรงโลโก้) เป็นแผ่นอะลูมิเนียมปัดด้าน, แผ่นบังโคลนหลัง และแร็คท้ายรถแบบถอดออกได้ง่าย
- ถังน้ำมันขนาด 24 ลิตร ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นมาตรฐาน (18.8 ลิตร) สำหรับการเดินทางไกล

- เบาะนั่งปาดเรียบเฉียงเป็นระนาบเสมอกัน (ไม่ยกสันเบาะ) และตำแหน่งเบาะนั่งจะสูงขึ้น 30.5 มม. (เทียบกับรุ่นมาตรฐาน) แต่ยังคงเป็นแบบปรับระดับได้ (ความสูงเบาะนั่งปรับได้ระหว่าง 899 มม. ถึง 919.5 มม.) รวมถึงแฮนด์บาร์สูงขึ้น 33 มม. และถอยไปด้านหลัง 50.8 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐาน

- มีกล่องเก็บของด้านหลังฝั่งขวา
- ใช้ระบบรองรับและกันสะเทือนของ Showa ที่มีระยะ Travel มากกว่ารุ่นมาตรฐาน ส่งผลให้ระยะใต้ท้องรถถึงพื้นสูง 269 มม. และ Honda Africa Twin 2018 ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น จะปรับโช้คอัพได้ (Compression และ Rebound) แบบเต็มรูปแบบ

- มีระบบปิดไฟเลี้ยวอัตโนมัติ
- ที่พักเท้าสำหรับผู้ขับขี่ที่กว้างขึ้น ส่วนที่พักเท้าผู้โดยสารออกแบบใหม่ไม่ให้เกะกะผู้ขับขี่ขณะใช้ขาประคองรถ
- ปรับตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
- ออกแบบปั๊มเบรกล่างแบบ Radial-mount ให้มีขนาดกะทัดรัดขึ้น ส่วนคาลิเปอร์เบรกหน้ายังเป็นแบบ 4 พอต จานเบรกคลื่นแบบลอยตัวเหมือนเดิม พร้อมกับระบบป้องกันล้อล็อก ABS แบบ 2 ทาง (เปิด-ปิดได้เฉพาะล้อหลัง)
- ใช้ล้อซี่ลวด (สเตนเลส-สตีล) ที่เพิ่มความแข็งแกร่ง แต่ขนาดยังเท่ากับรุ่นปัจจุบันคือ ล้อหน้า 21 นิ้ว และล้อหลัง 18 นิ้ว
- เปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด
ทั้งนี้ขุมพลังของ Honda Africa Twin 2018 ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ยังคงใช้เครื่องยนต์ แบบ 2 สูบ (Parallel-Twin) 8 วาล์ว SOHC เหมือนปัจจุบัน แต่ได้รับการปรับปรุงระบบกรองอากาศใหม่ให้มีกรวยยาวขึ้น 20 มม. รวมถึงปลายท่อออกแบบใหม่ ให้การตอบสนองดีขึ้นในช่วงกลางและเสียงที่ไพเราะกว่าเดิม นอกจากนี้เพลาถ่วงสมดุล (Balancer-shaft) ของเครื่องยนต์ยังมีน้ำหนักเบากว่าเดิม และยังใช้เป็นตัวขับปั๊มน้ำ/น้ำมันเครื่อง ย้ายเทอร์โมสตัทไปที่บริเวณหัวกระบอกสูบ เพื่อช่วยลดขนาดของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ใต้ท้องรถมีพื้นที่มากขึ้น
ส่วนระบบเกียร์ของ Honda Africa Twin 2018 ใหม่ จะมีเกียร์อัตโนมัติ DCT (Dual Clutch Transmission) ที่ให้การตอบสนองรวดเร็วทั้งออนโรด และออฟโรด (ไม่ได้ระบุว่าเป็นออปชั่นหรือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยตัดเกียร์ธรรมดาออกไปเลยหรือไม่) โดยมีโหมดการเปลี่ยนเกียร์ให้เลือก 3 รูปแบบ พร้อมกับ G-Switch ซึ่งจะช่วยลดอาการสลิปของคลัตช์ในแต่ละเกียร์สำหรับการขับขี่เฉพาะบนเส้นทางออฟโรดโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ Honda Africa Twin 2018 ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น จะใช้คันเร่งไฟฟ้า (Throttle-By-Wire system) ซึ่งทำให้สามารถกำหนดรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 4 รูปแบบ รวมถึงสามารถเลือกปรับแรงบิด (Honda Selectable Torque Control System หรือ HSTC) ได้ 5 ระดับ (เดิมสูงสุดแค่ 3 ระดับ) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ที่หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังปิดระบบดังกล่าวได้เหมือนเดิม
Honda Africa Twin Adventure Sports 2018 ใหม่ จะมาพร้อมชุดสีขาวคาดน้ำเงิน-แดง ส่วน Honda Africa Twin 2018 ยังไม่ระบุว่าจะมีสีใดบ้าง รวมถึงเวอร์ชั่น Adventure Sports ใหม่ จะมีราคาแพงกว่า Honda Africa Twin 2017 (รุ่นปัจจุบัน เริ่มต้นที่ 13,299 ดอลลาร์ หรือ 440,000 บาท) อยู่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ หรือราว 66,200 บาท
จะเริ่มจำหน่ายในยุโรปต้นปี 2018 และช่วงกลางปีสำหรับอเมริกา ส่วนไทยนั้นคงอัปเดตตามด้วยแน่นอน ซึ่งอย่างเร็วคาดว่าปลายปี 2018 น่าจะได้มีโอกาสเห็นคันจริงกัน











