ช่วงต้นปี 2017 วงการยานยนต์หรูของไทยก็มีข่าวใหญ่ กับแบรนด์รถยนต์ ออดี้ (Audi) ที่มีตัวแทนจำหน่ายใหม่ บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ที่เตรียมรับช่วงต่อบริษัท เยอรมัน มอเตอร์ เวิร์ค ที่ใกล้หมดสัญญาเต็มที พร้อมกับกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในไทย
ด้านไมซ์สเตอร์ เทคนิค ก็เริ่มเดินเกมทันทีไม่มีรอเวลา จัดทริปทดสอบรถยนต์ทุกรุ่นของออดี้ (Audi) ทันที ซึ่งสื่อเองก็พูดถึงเรื่องนี้กันเยอะ ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่ได้สัมผัสรถยนต์ออดี้อีกครั้ง
เริ่มต้นเราก็ได้สัมผัสกับศูนย์บริการรถยนต์ ออดี้ แห่งแรก ภายใต้ชื่อ Audi New Petchburi (ออดี้ เพชรบุรีตัดใหม่) ที่โดดเด่น ทันสมัย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และได้รับการออกแบบ ตกแต่งโดยทีมงานมาตรฐานจาก AUDI AG ประเทศเยอรมนี ผสานด้วยดีไซน์สะท้อนอัตลักษณ์ "ความก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี-Vorsprung durch Tecnik" พร้อมด้วยนวัตกรรมการบริการหลังการขายสุดล้ำสมัยมาตรฐานเดียวกับโชว์รูมและศูนย์บริการ Audi ประเทศเยอรมนี
ต่อมาเข้าช่วงบรีฟถึงรถยนต์ทุกรุ่นของออดี้ ที่หลัก ๆ ชูไปในจุดเด่นเรื่องระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ควอตโตร (Quattro) และยังมีจุดเด่นอื่น ๆ อย่างชุดเกียร์ tiptronic และช่วงล่างชุดลม air suspension
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ควอตโตร (Quattro) ของเลื่องชื่อที่สุดในด้านสมรรถนะ สามารถปรับการส่งแรงไปที่ล้อได้หลายรูปแบบเพื่อสมรรถนะการขับขี่ ปรับกำลังไปยังล้อคู่หน้า ล้อคู่หลัง และแบ่งล้อฝั่งซ้าย ฝั่งขวาได้อีกด้วย โดยการสั่งการของสมองกลรถ (ECU) ที่ทำงานกับสมองกลเกียร์ สมองกลระบบควบคุมการทรงตัว และสมองกลระบบขับเคลื่อน ซึ่งในรถยนต์แต่ละรุ่นจะถูกเซตการส่งแรงไปที่ล้อแบบปรกติแตกต่างกัน เช่น Audi TT ฟีลลิ่งแห่งความสปอร์ต ส่งแรงล้อหน้า 100% ล้อหลัง 0% ในค่าเริ่มต้นและแปรผันแรงตามการใช้งาน
นอกจากนี้ทาง ไมซ์สเตอร์ เทคนิค ยังเล่าถึงการตั้งรหัสตัวเลขรถ สามารถบ่งบอกความแรงได้คร่าว ๆ เพราะตัวเลขที่เห็นคือ ระยะที่รถสามารถไปได้ในระยะ 1 วินาที นั่นก็หมายความว่าเลขยิ่งสูงก็ยิ่งแรงเท่านั้น
เนื่องจากได้ทดสอบรถยนต์หลายรุ่นของออดี้ (Audi) ทำให้ชัดมากในการเปรียบเทียบบุคลิกรถยนต์โดยไล่เรียงจากรุ่นที่ได้ขับดังนี้ Audi Q3, Audi A5, Audi Q2 และ Audi Q7
เริ่มแรก สัมผัสแรก Audi Q3 35 TFSI quattro ราคา 2.549 ล้านบาท
รูปลักษณ์และภาษาการออกแบบของออดี้นั้นดูชัดเจนมากในทุกรุ่น ส่วน Audi Q3 เป็นทรง SUV ที่ขนาดรถอยู่ในกลุ่มคอมแพกต์ ภายในดูหรูหราแบบเรียบง่าย ข้อมูลระบุมาว่าเป็นเบาะหุ้มหนัง Milano ให้ผิวสัมผัสที่ดีทีเดียว ภายในมีการบุนุ่มเกือบทุกจุด ดีไซน์ควบคุมระบบภายในเป็นปุ่มเรืองแสง และปุ่มคอนโทรลแบบหมุน มีประดับเพลทอะลูมิเนียมกัดลายที่คอนโซลหน้าพร้อมตราสัญลักษณ์ quattro
Audi Q3 มากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เบนซิน ให้กำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ S tronic 7 จังหวะ
ว่ากันตรง ๆ Audi Q3 เป็นโมเดลที่มีมาหลายปีแล้ว ฟีเจอร์ที่เลือกระบบการขับขี่ก็ไม่มีแบบ Individual (ปรับแต่งเอง) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มาในรุ่นใหม่ ด้านการขับขี่ ณ เวลานั้น ฝนตกอย่างหนัก แต่ไม่ได้ลดทอนความมั่นใจในการขับแม้แต่น้อย ช่วงความเร็ว 100-120 กม./ชม. ทำได้สบาย พวงมาลัยมีความหนักเป็นอันดับ 3 ใน 4 รุ่นที่ได้ทดสอบ
Audi A5 Coupé 45 TFSI quattro S line ราคา 4,299,000 บาท ความสปอร์ตหนึ่งเดียวที่ได้สัมผัส
Audi A5 Coupé เป็นรถทรงคูเป้ที่ดูโดดเด่นทรงพลัง มาพร้อมกับชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ dynamic ฐานล้อกว้าง
ภายในจอแสดงผลข้อมูลแบบพิเศษ Audi virtual cockpit ให้ความรู้สึกโดดเด่นทันสมัย เบาะนั่งหุ้มหนังสลับ Alcantara อุปกรณ์มาตรฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมาอย่างครบครันและยังคงดูหรูหราแบบเรียบง่าย
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรระบบวาล์วแปรผัน (Audi valvelift system) ให้การทำงานของวาล์วสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ ทำให้ได้แรงบิดที่ทำให้การขับขี่สนุกสนาน ให้กำลัง 252 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ S tronic 7 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro
ความรู้สึกเมื่อได้ขับ จุดศูนย์ถ่วงรถต่ำรู้สึกได้ชัดเจนมาก เบาะนั่งกว้าง การเร่งนั้นตื่นเต้นเร้าใจ การคิกดาวน์สัมผัสได้ถึง G ที่กดให้หลังติดเบาะ การควบคุมรถในย่านความเร็วสูงมั่นใจดี แต่รู้สึกถึงเสียงลมที่ผ่านเข้ามาห้องโดยสารชัดเจนไปหน่อย พวงมาลัยหนักสุดใน 4 รุ่นที่ได้ทดสอบ แต่ก็เหมาะสมกับบุคลิกรถที่เป็นสายสปอร์ตของจริง
Audi Q2 35 TFSI ราคา 2.29 ล้านบาท น้องเล็กแต่ความสามารถไม่ธรรมดาและน่าจับตาเป็นที่สุด
รถยนต์พรีเมียมคอมแพกต์ SUV ที่เป็น segment ใหม่ล่าสุดในรถยนต์ตระกูล Q model ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ dynamic โดยรวมดูทันสมัยกว่า Audi Q3 ด้วยซ้ำไป
ภายในก็หรูหราแต่มีความเป็นวัยรุ่นมากกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยการตกแต่งลายคาร์บอนไฟเบอร์ที่คอนโซลหน้า ลายช่องแอร์แบบไอพ่น มีไฟตกแต่งห้องโดยสาร (Ambient lighting) ที่ปรับได้ถึง 10 สี ความรู้สึกเมื่ออยู่ในห้องโดยสารไม่ได้ด้อยไปกว่า Q3 เลยแม้แต่น้อย
เครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ขนาดความจุ 1.5 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี Cylinder on demand ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ S tronic 7 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า สามารถเร่งได้ 0-100 กม./ชม. ใน 8.5 วินาที
พวงมาลัยเบาที่สุดใน 4 รุ่นที่ได้ทดสอบ แต่มีการปรับความหนืดขึ้นเมื่อใช้ความเร็วที่สูง รถมีความคล่องตัวมาก ด้านออปชั่นแค่เพียงพอต่อการใช้งาน หากมองเทียบในกลุ่ม SUV พรีเมียมเริ่มต้น อย่าง BMW X1 และ Mercedes-Benz GLA สู้กันได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนตัวผู้ทดสอบมองถึงรุ่นพี่อย่าง Audi Q3 ด้วยซ้ำ ว่าแทบไม่มีความจำเป็นที่เลือก หากไม่ได้พิสมัยกับระบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro
ผลของระบบ Cylinder on demand ก็เปล่งประกายด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่วิ่งอยู่ราว ๆ 5 ลิตรต่อ 100 กม. (20 กม. ต่อลิตร)
Audi Q7 40 TFSI quattro ราคา 4.49 ล้านบาท พี่ใหญ่ที่สะดวกสบายและครบครันเป็นที่สุด
ตัวมิติรถใหญ่ที่สุดในกลุ่ม Audi Q Model ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ dynamic ที่ดูสะดุดตาเอามาก ๆ
ภายในก็มีความเรียบหรู ดูอบอุ่นด้วยการใช้โทนสีเทา เบาะนั่งนุ่มสบาย ดีไซน์คอนโซลหน้ามีช่องแอร์ยาวทั้งแผง มีการตกแต่งด้วยไฟเรืองแสง (Ambient lighting) เลือกได้มากถึง 30 สี หากถามหาออปชั่นละก็ มีให้เล่นเพียบที่สุด
เครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลัง 252 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ tiptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro
ด้านการขับขี่ สัมผัสได้ถึงความนุ่มที่สุดใน 4 รุ่น แต่ด้วยความนุ่มก็จะมีอาการเด้งบ้างตามบุคลิกที่เซตมา พวงมาลัยหนักเป็นอันดับ 2 จาก 4 รุ่นที่ได้ทดสอบ
ช่วง Q&A กับไมซ์สเตอร์ เทคนิค กับประเด็นน่าสนใจที่ต้องบอกต่อ
- ถือเป็นโฉมใหม่ของรถยนต์ ออดี้ (Audi) เดินเกมรุกด้วย 3 แนวทางหลัก ได้แก่ After sales service focus หรือการให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขาย สำหรับลูกค้า Audi ทุกคนไม่ว่าจะเป็นฐานลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ต่อจากนี้
- Right product, Right price คือหนึ่งในเทคนิคการทำตลาด คือกำหนดราคาเพื่อให้เหมาะสมต่อลูกค้าและตลาดในประเทศไทย ออปชั่นยอมรับว่ามีการตัดทอนบ้าง จะให้ลูกค้าเลือกเติมเป็นแพ็กเกจ แต่รับรองเรื่องสมรรถนะที่ไม่ลดทอน
- Product Variety คือเป้าหมายต่อไป ตอนนี้ออดี้มีรถจำหน่ายทั้งหมด 10 รุ่น และภายในปี 2017 จะเพิ่มตัวเลือกเป็น 23 รุ่น ถ้าหากสังเกตดูตอนนี้รถยนต์ออดี้จะมีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน เพราะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลกำลังทดสอบ
- ค่าบำรุงรักษา (After Service) ไม่แพงอีกต่อไป ทั้งอะไหล่และค่าบริการ กล้าไปเทียบตรง ๆ กับแบรนด์คู่แข่ง รวมไปถึงการฝึกฝีมือช่างที่ได้รับความร่วมมือจาก Audi AG บริษัทแม่เป็นอย่างดี
- บริษัทเริ่มจดทะเบียนที่ 200 ล้านบาท และกำลังวางแผนลงทุนเพิ่มอีก 1,400 ล้านบาท ยืนยันอีกครั้งว่า เอาจริงมากกับแบรนด์ ออดี้
- ยอดขายล่าสุดหลังเปิดตัว ช่วงงาน Motor Show กวาดยอดได้ถึง 184 คัน หลังจากจบงานก็ได้ยอดจองเรื่อย ๆ วันละ 1-2 คัน (ก่อนหน้านี้ออดี้มียอดจำหน่ายเฉลี่ยปีละ 10 คันเท่านั้น)
- ลูกค้าสามารถเข้ามาสัมผัสรถยนต์ออดี้ได้อย่างใกล้ชิด รถที่จำหน่ายจะมีพร้อมให้ทดลองขับเสมอ รถจะส่งช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดโลก
สรุปส่วนตัวจากผู้ทดสอบ
- ประมวลทุกส่วนหลังจากที่ได้ขับรถออดี้และผ่านช่วง Q&A มา แบรนด์ออดี้จะขึ้นมาเป็นขั้วที่สามของวงการยานยนต์พรีเมียมในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการคือคุณกฤษณะกร เศวตนันทน์ ที่สื่อมวลชนสายยานยนต์คุ้นเคยกันดี ที่เคยเห็นวิสัยทัศน์และการบริหารที่ไม่ธรรมดา ผ่านค่ายรถยนต์พรีเมียมที่ครองตลาดอยู่ขณะนี้
- รถยนต์ออดี้ขับดีไหม ? เชื่อว่าหลายคนอยากและขอคำตอบสั้น ๆ โดยส่วนตัวให้ทัดเทียมคู่แข่งในกลุ่มพรีเมียมด้วยกันครับ ออปชั่นจะให้น้อยไปนิดแต่ก็มีคำตอบเรื่องนี้อยู่ในการ Q&A
- ระบบอินโฟเทนเมนต์เล่นยาก หรือไม่คุ้นชินก็ไม่แน่ใจ แต่ในเวลาที่นั่งเป็นผู้โดยสารจะพยายามเล่นตลอดแต่ยังเข้าใจระบบไม่หมดสักที
- รถยนต์ออดี้ มีกลิ่นอายของแบรนด์เพื่อนร่วมชาติอยู่พอควร แต่ซับซ้อนทางด้านบุคลิกมากกว่า สอดแทรกอยู่ระหว่างสปอร์ตและหรูหรา และนี่อาจเป็นเสน่ห์ที่ชวนให้ค้นหาในรถยนต์ออดี้ที่สุด
ขอขอบคุณ ไมซ์สเตอร์ เทคนิค ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ออดี้ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ที่เลือกเชิญกระปุกคาร์ และอำนวยความสะดวกไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ