เป็นโอกาสดีสำหรับหากใครอยากลองเทคโนโลยี Plug-in Hybrid จาก BMW โดยใช้ชื่อว่า iPerformance แต่ต้องชะงักในเรื่องของราคาหลังจากที่ก่อนหน้านี้ BMW ได้มีการเปิดตัว BMW 330e M Sport ด้วยราคา 3,099,000 บาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างแรงสักหน่อยเนื่องจากเป็นรถนำเข้า
BMW 330e Luxury
BMW 330e M Sport
สำหรับความแตกต่างภายนอกระหว่าง BMW 330e Luxury กับ BMW 330e M Sport หลัก ๆ แล้วก็คือรูปแบบการตกแต่ง โดย Luxury Line จะเน้นไปที่ความหรูหรามากกว่าความสปอร์ตแบบ M Sport Package ด้วยชุดกันชนหน้าเรียบร้อยกว่า ประดับแถบโครเมียมเหนือไฟตัดหมอก เช่นเดียวกับกันชนหลังเดินแถบโครเมียมคาดยาว สเกิร์ตข้างมาแบบเรียบ ๆ แต่ก็ไม่ได้ต่างจากชุดแต่ง M Sport มากนัก และสุดท้ายก็คือล้ออัลลอยเปลี่ยนเป็นลาย Multi-Spoke style 416 สีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว (หากเป็น BMW 330e M Sport จะเป็นลาย 5 ก้านคู่ M Double-spoke style 441 M สี Ferric Grey ขนาด 18 นิ้ว)
ล้ออัลลอย Multi-Spoke style 416 สีทูโทน ของ BMW 330e Luxury
ล้ออัลลอย M Double-spoke style 441 M สี Ferric Grey ของ BMW 330e M Sport
ล้ออัลลอย M Double-spoke style 441 M สี Ferric Grey ของ BMW 330e M Sport
ส่วนภายในของ BMW 330e Luxury แน่นอนว่าต้องเน้นความหรูหราเช่นกัน โดยเบาะยังหุ้มด้วยหนังดาโกต้าเช่นเดียวกับ BMW 330e M Sport แต่แถบประดับจะเปลี่ยนจาก Aluminium Hexagon กับ Black high-gloss Trim ที่เน้นอารมณ์สปอร์ต เป็นลายไม้ Anthracite wood และ Pearl-gloss Chrome Trim ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นไฮโซในแบบ Luxury Line ส่วนอุปกรณ์ในเบื้องต้น BMW Thailand ระบุมาเพียงว่าจะมีระบบนำทาง Navigation system Professional และลำโพงแบบ Hi-Fi แต่คาดว่ารายการอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ไม่น่าจะต่างไปจาก BMW 330e M Sport ซึ่งรถระดับนี้ควรจะต้องมีให้อยู่แล้ว ซึ่งถือว่าไม่ได้ให้อะไรมามากมายเป็นพิเศษ (แน่นอนว่าถ้ามากกว่านี้ราคาย่อมสูงขึ้นด้วย)
BMW 330e Luxury
BMW 330e Luxury
BMW 330e Luxury
มาถึงจุดเด่นสำหรับ BMW 330e Luxury คงจะหนีไม่พ้นเทคโนโลยี iPerformance หรือ Plug-in Hybrid ของ BMW ที่มุ่งเน้นสมรรถนะการขับขี่ควบคู่ไปกับความประหยัด ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิด 290 นิวตันเมตร เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 89 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
โดยทั้งระบบจะให้กำลังรวมกันสูงสุดที่ 252 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจผ่านระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 สปีด โดย BMW 330e M Sport สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 225 กม./ชม. แต่หากวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน (โหมด MAX eDRIVE) จะสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 120 กม./ชม. ส่วนในเรื่องของความประหยัดนั้น ทาง BMW Thailand ระบุว่า BMW 330e Luxury จะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 41.7 กม./ลิตร และปล่อย CO2 ที่ 57 กรัม/ กม. เท่านั้น
ทั้งนี้เทคโนโลยี iPerformance หรือ Plug-in Hybrid ใน BMW 330e Luxury สามารถนำสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง สามารถขับขี่ในตัวเมืองได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสียเลยได้ไกลถึง 40 กิโลเมตร โดยแบตเตอรี่ของ BMW 330e Luxury นั้นมีความจุ 7.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป
โดยมีช่องเก็บสายชาร์จอยู่ใต้พื้นที่เก็บสัมภาระตอนท้ายซึ่งใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง หรือเลือกชาร์จด้วย BMW i Wallbox Pure ด้วยกำลังไฟ 3.7 กิโลวัตต์ (16 แอมป์ / 230 โวลต์) ก็ได้ซึ่งใช้เวลาสั้นลงที่ 2 ชั่วโมง 12 นาที สำหรับการชาร์จไฟจนเต็ม ซึ่งถ้าถามถึงความคุ้มค่าที่ต้องจ่ายสำหรับการติดตั้ง BMW i Wallbox Pure นี้กับระยะเวลาที่ลดลงไปประมาณ 1 ใน 3 เราถือว่ายังไม่ค่อยคุ้มเท่าไรนัก แต่อย่างไรก็ตามอันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าตัวจริงเป็นหลักถ้าอยากจ่ายก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว
สำหรับ BMW 330e Luxury ใหม่ ประกอบในไทย จะไปเปิดตัวในงาน Motor Expo 2016 นี้ ใครที่เป็นสาวกลองไปสัมผัสคันจริงได้ที่งาน 1-12 ธันวาคมนี้ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ได้เลยครับ
ภาพจาก BMW