ผู้ขับขี่ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ทั้งหลายต่างก็ทราบดี ว่าเราจะต้องทำ ประกันภัยรถยนต์ ทั้งประกันรถยนต์ พ.ร.บ. และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเพื่อให้เราได้รับความคุ้มครอง และความอุ่นใจของตัวเรา และคนที่เรารัก สาเหตุที่เราจะต้องทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนั้น ก็เพราะว่าประกัน พ.ร.บ. นั้นมีความคุ้มครองไม่เพียงพอสำหรับความต้องการนั่นเองค่ะ
โดยเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์จะประกอบด้วยข้อมูลความคุ้มครอง อีก 3 ประการ ที่เรียกว่า รย. ซึ่งเป็นตัวย่อของคำว่า รถยนต์ นั่นเอง โดยมีรายละเอียดความคุ้มครองดังนี้
รย. 01 คือ ความคุ้มครองเพิ่มเติมกรณีอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถยนต์คันเอาประกัน ที่มีผลมาจากอุบัติเหตุ จนถึงขั้นที่ทำให้ผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสารเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ได้แก่ มือ เท้า สายตา หรือทุพพลภาพ (ชั่วคราว และถาวร)
รย. 02 คือ ความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่มีให้สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถยนต์คันเอาประกัน หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถยนต์กำลังขึ้น หรือลงจากรถยนต์คันเอาประกัน
รย. 03 คือ การประกันภัยตัวผู้ขับขี่ กรณีที่ผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย เมื่อนำรถยนต์ที่ทำประกันภัยไว้ไปใช้งานและเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ผู้ขับขี่ถูกควบคุมตัวในคดีอาญา เอกสารฉบับนี้ จะให้ความคุ้มครองโดยบริษัทรับประกันภัยจะดำเนินการประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ เพื่อให้พนักงานสอบสวน อัยการ ศาล ทำการพิจารณาปล่อยตัวบุคคลเป็นการชั่วคราว โดยการปฏิบัติการในข้อ รย. 03 นี้ ทางบริษัทรับประกันภัยจะต้องดำเนินการจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
หมายความว่า แม้บริษัทจะวางหลักทรัพย์ประกันภัยในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว หากมีการส่งเรื่องไปยังชั้นอัยการ และศาลต่อไป บริษัทรับประกันก็ยังต้องดำเนินการประกันตัวผู้เอาประกันจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และในระหว่างการสืบสวนคดีความ หากผู้เอาประกันหลบหนี ทำให้บริษัทรับประกันต้องรับผิดชอบชดใช้เงินตามสัญญาประกันตัว บริษัทประกันก็ไม่สามารถทำการฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินคืนได้
หากผู้ที่ได้รับการประกันตัวที่หลบหนีไปถูกจับได้ในเวลาต่อมา บริษัทก็ไม่จำเป็นจะต้องประกันตัวบุคคลดังกล่าวสำหรับอุบัติเหตุรายนั้นอีก แต่หากเกิดอุบัติเหตุรายอื่น ทางบริษัทก็จะต้องมีหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนความคุ้มครองต่อไป
ความคุ้มครองใน รย. 03 นี้จะไม่มีผล หากผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกัน หรือผู้เอาประกันเป็นฝ่ายทำผิดกฎหมาย เช่น กรณีที่ผู้ขับขี่รถคันเอาประกัน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุด้วยการขับรถยนต์โดยประมาท ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์ แชท ที่เห็นความผิดชัดเจน หรือกรณีผู้เอาประกันภัย ขับรถยนต์คันเอาประกันภัยแล้วเกิดอุบัติเหตุ โดยสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับขี่นั้น ขับขี่ขณะมึนเมาสามารถตรวจสอบได้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่ากฎหมายกำหนดจริง เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายก่อให้เกิดความเสียหาย และความบาดเจ็บต่อผู้อื่นจริง กรณีนี้บริษัทประกันภัยไม่มีความรับผิดชอบที่จะต้องดำเนินการประกันตัวผู้เอาประกันแต่อย่างใดตามความคุ้มครอง รย. 03
รายละเอียดในส่วนของความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันรถยนต์มีรายละเอียดมากมาย สิ่งสำคัญที่ผู้ทำประกันภัยทุกท่านควรทำเมื่อได้รับกรมธรรม์มาแล้ว ก็คือการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ เพื่อที่เราจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดในการใช้รถใช้ถนน และได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันรถยนต์ของเราอย่างเต็มที่นั่นเอง
ภาพตัวอย่างกรมธรรม์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Rabbit Finance