x close

10 อันดับรถที่ถูกประมูลด้วยราคาสูงสุด ในปี 2015

รถคลาสสิก

          10 อันดับรถคลาสสิกมูลค่าสูงที่สุดในโลกซึ่งถูกประมูลโดยนักสะสมภายในปี 2015

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ารถคลาสสิกเหล่านี้จะเป็นที่ต้องการและมีมูลค่ามากมายมหาศาลเกินกว่าที่จะจินตนาการได้และมีแนวโน้มว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปีต่อไปหากมีการเปลี่ยนมือ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงรถคลาสสิกส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาประมูลผ่านตัวแทนการประมูลชื่อดังจากฝั่งอเมริกาไม่ว่าจะเป็น RM Sortheby\'s, Bonhams, Gooding & Company, Barrett-Jackson, Mecum หรือ Artcurial ของฝรั่งเศส

         มีการเก็บข้อมูลไว้เฉพาะภายในปี 2015 ทั้งหมด 10 อันดับ ส่วนจะมีรถยี่ห้อใดรุ่นใดถูกส่งเข้าลานประมูลและสามารถครองอันดับรถคลาสสิกราคาสูงสุดได้ในปีที่แล้วมาติดตามชมกันได้เลย

          1982 ปอร์เช่ 956 (Porsche 956)

รถคลาสสิก

          ราคา : 10.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (315 ล้านบาท)

          มีเพียงการแข่งขันไม่กี่รายการในยุคหลังที่จะสามารถกระตุ้นผู้ที่คลั่งความเร็วให้มีชีวิตชีวาได้เท่ากับยุคของรถแข่งกรุ๊ป ซี และสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนคือการที่ Gooding & Company ได้นำ Porsche 956 เข้าประมูลที่เพบเบิลบีช มอนเทอเรย์

          Porsche 956 คันนี้เคยชนะการแข่งขันเลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง ในปี 1983 และยังได้รับชัยชนะทั้งสิ้นรวม 8 ครั้ง จนกลายเป็นหนึ่งในตำนานของรถแข่งโดยผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนี ทำให้ Porsche 956 คันที่ 3 จากที่ผลิตขึ้นมาทั้งหมด 10 คันนี้ถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 10.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ตกอยู่ราว ๆ 315 ล้านบาท เรียกได้ว่าถ้าไม่น่าคลั่งไคล้แบบสุด ๆ จริงคงไม่มีใครกล้าทุ่มขนาดนี้แน่นอน

          1953 จากัวร์ ซี-ไทป์ (Jaguar C-Type)

รถคลาสสิก

          ราคา : 13.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (412 ล้านบาท)

          Jaguar ผลิต C Type ขึ้นมาทั้งหมดเพียง 3 คัน ในปี 1953 เท่านั้น และหนึ่งในนั้นมาจาก Pinnacle Collection ได้ถูกประมูลผ่าน RM Sortheby\'s ที่เพบเบิลบีช, มอนเทอเรย์ด้วยเช่นกัน และยังสามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นรถยนต์จากัวร์ซึ่งมีราคา ประมูลสูงสุดที่เคยเกิดขึ้น ด้วยราคา 13.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 412 ล้านบาท เท่ากับ Ferrari 250 GT TdF และยังทำให้ผู้จัดงานประมูลต้องทึ่งด้วยยอดประมูลในครั้งนั้นรวมทั้งสิ้น 172.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.4 พันล้านบาทเลยทีเดียว

          1956 เฟอร์รารี่ 250 จีที ตูร์ เดอ ฟรองซ์ (Ferrari 250 GT TdF)

รถคลาสสิก

          ราคา : 13.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (412 ล้านบาท)

          ก่อนที่ Ferrari จะนำชื่อ Tu de France กลับมาใช้อีกครั้งใน Ferrari F12 TdF รุ่นปี 2016 สุภาพบุรุษนักแข่งอย่าง มาร์ควิส อัลฟองโซ เดอ ปอร์ตาโก (Alfonso de Portago) ได้ขับ Ferrari 250 GT Tdf ปี 1956 ผ่านรอบนอกชนบทของฝรั่งเศส ขึ้นเขาและในสนาม ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่ทรหดเป็นอย่างมาก

          Ferrari 250 GT TdF ที่มีการประมูลในปี 2015 นี้คือ 1 ในจำนวนเพียง 14 คัน ที่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับใช้ในการแข่งขันก่อนจะถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 13.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 412 ล้านบาท ในงาน Pebble Beach คว้าตำแหน่งรถที่ถูกประมูลไปด้วยราคาสูงสุดเป็นอันดับที่ 8 ของปีนี้

          1998 แมคลาเรน เอฟ1 แอลเอ็ม-สเปค (McLaren F1 LM-Specification)

รถคลาสสิก

          ราคา : 13.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (428 ล้านบาท)

          เป็นที่น่าประหลาดและเหนือความคาดหมายมากว่ารถใหม่และโมเดิร์นอย่าง McLaren F1 ปี 1998 จะติดอันดับรถที่ถูกประมูลด้วยราคาสูงสุดถึง 13.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ 428 ล้านบาท เปรียบได้กับ Ferrari 250 GTO ซึ่งสามารถเข้าสู่ชีวิตที่สองในฐานะรถคลาสสิกมูลค่าสูงได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

          อย่างไรก็ดี McLaren F1 คันนี้ไม่ใช่ F1 รุ่นธรรมดาทั่วไปแต่เป็นรุ่นพิเศษ Le Mans-Specification เกือบที่จะเอาไปแข่งในสนามได้เลยทันที ด้วยความพิเศษนี้เองทำให้มันมีค่าและหายากมากจน  McLaren F1 LM-Specification ได้กลายเป็นรถอังกฤษที่มีมูลค่าการประมูลสูงสุดเท่าที่เคยมีมาก่อนจะถูกโค่นลงด้วย Aston Martin DB4 GT Zagato ในอันดับต่อไปนั่นเอง

          1962 แอสตัน มาร์ติน ดีบี4 จีที ซากาโต (Aston Martin DB4 GT Zagato)

รถคลาสสิก

          ราคา : 14.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (447 ล้านบาท)

          หนึ่งในรถคลาสสิกจากอังกฤษที่สามารถแย่งซีนจาก Ferrari ได้ในปีนี้ก็คือ Aston Martin DB4 GT Zagato ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ฝั่งอังกฤษอย่าง Aston Martin เองกับสำนักออกแบบและตกแต่งจากอิตาลี Zagato

          โดยผลิตขึ้นมาทั้งหมดเพียง 19 คัน ส่วน Aston Martin DB4 GT Zagato คันที่นำมาประมูล ผ่าน RM Sortheby\'s ในนิวยอร์กในปีนี้ ถูกผลิตเป็นลำดับที่ 14 ซึ่งการประมูลจบลงที่ราคา 14.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 428 ล้านบาท ถือได้ว่า Aston Martin DB4 GT Zagato สร้างสถิติใหม่ให้รถคลาสสิกจากอังกฤษด้วยราคาประมูลที่สูงเป็นประวัติกาลในปีนี้

          1962 เฟอร์รารี่ 250จีที สเปชิเล โดย เบอร์โตเน่ (Ferrari 250 GT Speciale by Bertone)

รถคลาสสิก

          ราคา : 16.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (516 ล้านบาท)

          Ferrari 250 GT Speciale by Bertone เป็นรถที่ นุจจิโอ เบอร์โตเน่ (Nuccio Bertone) แห่งสำนักออกแบบและดัดแปลงตัวถัง Bertone ได้ฝากผลงานด้วยการนำเอา Ferrari 250 GT Berlinetta ฐานล้อสั้นปี 1962 มาออกแบบหน้าใหม่สไตล์จมูกฉลามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งทีม Scuderia Grandprix ของ Ferrari ซึ่งเปิดประมูลโดย Gooding & Company ที่ Pebble Beach ในแคลิฟอร์เนีย ไปด้วยราคา 16.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็ตกอยู่ที่ประมาณ 516 ล้านบาท

          1961 เฟอร์รารี่ 250 จีที ชอร์ตวีลเบส แคลิฟอร์เนีย (Ferrari 250 GT SWB California Spider)

รถคลาสสิก

          ราคา 16.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (525 ล้านบาท)

          หากตอนนี้ใครที่เกิดทันได้ดูภาพยนต์ เรื่อง Ferris Bueller\'s day off ที่ฉายในปี 1986 และอยากสวมบทบาทเป็น  Ferris Bueller (แสดงโดยนักแสดงวัยรุ่นอย่าง Matthew Broderick) ที่โดดเรียนแล้วยังแอบเอารถ Ferrari 250 GT SWB California Spider ของพ่อออกมาขับร่อนกลางเมืองชิคาโก ในตอนนี้คงจะต้องรีบเก็บเงินอย่างหนักเพราะว่ามันมีราคาสูงขึ้นทุก ๆ ปี

          ในงาน Pebble Beach ช่วงที่ผ่านมารถ Ferrari 250 GT SWB California Spider คันนี้ถูกประมูลไปด้วยราคาที่สูงถึง 16.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 525 ล้านบาท เลยทีเดียว ซึ่งช่วงราคาของ Ferrari 250 GT SWB California Spider ตอนนี้อยู่ระหว่าง 16-18 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าไปแล้ว

          1964 เฟอร์รารี่ 250 แอลเอ็ม (Ferrari 250 LM)

รถคลาสสิก

          ราคา : 17.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (550 ล้านบาท)

          RM Sotheby\'s มักไม่ค่อยผิดหวังกับการเปิดประมูลก้อนโลหะสูงค่าที่มีคนปรารถนามากที่สุดของทุก ๆ ฤดูร้อนในมอนเทอเรย์ ซึ่ง Ferrari 250 LM ปี 1964 จาก Pinnacle Collection เป็นรถที่มีผู้ประมูลในครั้งนั้นไปด้วยราคาสูงสุด 17.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 550 ล้านบาท

          โดย Ferrari 250 Le Mans มีเครื่องยนต์แบบวางกลางลำซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถแข่งอย่าง Ferrari 250 GTO และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดรถแข่ง Ferrari ณ เวลานั้น และทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนมือก็มักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน

          1961 เฟอร์รารี่ 250 จีที ชอร์ตวีลเบส แคลิฟอร์เนีย สไปเดอร์ (Ferrari 250GT SWB California Spider)

รถคลาสสิก

          ราคา : 18.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (581 ล้านบาท)

          ในขณะที่รถจบประมูลราคาสูงสุดส่วนมากมักจะผ่านการบูรณะจนสมบูรณ์มาแล้วเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่หนึ่งในรถประมูลที่มีราคาสูงสุดเป็นอับดับ 2 ในปีนี้นั้นกลับเป็นรถ Ferrari 250GT SWB California Spider ที่ยังอยู่ในสภาพเดิม ๆ

          ซึ่งถูกปล่อยทิ้งไว้มานานนับทศวรรษในโกดังเก็บรถ โดย Ferrari 250GT SWB California Spider คันนี้ได้ถูกจอดทิ้งไว้ในโกดังที่ตั้งอยู่รอบนอกของฝรั่งเศสรวมกับรถคลาสสิกอื่น ๆ อีก 58 คัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Baillon Collection และได้ถูกนำมาเปิดประมูลผ่าน Artcurial ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ในปารีสด้วยราคาจบที่สูงถึง 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 581 ล้านบาท

          1956 เฟอร์รารี่ 290 เอ็มเอ็ม (Ferrari 290 MM)

รถคลาสสิก

          ราคา : 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (875 ล้านบาท)

          1956 Ferrari 290 MM คันนี้มีหมายเลขแชสซีส์ 0626 ซึ่งผลิตขึ้นมาทั้งหมดเพียงแค่ 4 คันในโลก สำหรับนักแข่งรถในตำนานอย่าง ฮวน มานูเอล ฟานจิโอ โดยเฉพาะเพื่อใช้ในการแข่งขัน มิลเล มิเลีย (Mille Miglia) 1956 Ferrari 290 MM ถูกนำมาเปิดประมูลโดย RM Sotheby\'s ที่จัดขึ้นในนิวยอร์ก

          และจบประมูลไปด้วยราคา 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือแปลงเป็นเงินบาทก็ตกอยู่ประมาณ 875 ล้านบาท ทำให้ 1956 Ferrari 290 MM ติดอันดับ 3 รถที่เคยมีการประมูลแพงที่สุดในโลกตลอดกาล ซึ่งเป็นรอง Ferrari 250 GTO ที่ประมูลโดย Bonhams เมื่อปี 2014 และจบลงด้วยราคา 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.2 พันล้านบาท

          เห็นแล้วต้องทึ่งกับมูลค่าของรถคลาสสิกเหล่านี้มาก ๆ ที่ยิ่งนานวันดูจะยิ่งมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนนึกไม่ออกว่าจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

ภาพจาก rmsothebys.com, goodingco.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 อันดับรถที่ถูกประมูลด้วยราคาสูงสุด ในปี 2015 อัปเดตล่าสุด 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 23:12:34 9,407 อ่าน
TOP