
Honda Civic Type R ใหม่ ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ "Soul Shaking Superior Drive" ซึ่งใช้พื้นฐานของ ฮอนด้าซีวิคเวอร์ชั่นยุโรป (เจเนอเรชั่น 9) แบบ 5 ประตูแฮตช์แบ็กที่มีการตกแต่งให้ดูดุดันแตกต่างจากรุ่นปกติด้วยแอโร่พาร์ทรอบคัน โดยรถจะมีความกว้างมากขึ้นจากการขยายแชสซีส์เพื่อให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น บังโคลนหน้าออกแบบให้โป่งล้อยกขอบสันเหลี่ยมเพื่อจัดเรียงกระแสลม รวมถึงสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ด้านท้ายรถเพิ่มความมั่นคงยามขับขี่ด้วยความเร็วสูง


ภายในห้องโดยสารของ Honda Civic Type R ใหม่ เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีดำตัดกับสีแดง โดยแผงหน้าปัดจะยังคงเป็นมาตรวัดแบบสองชั้นที่มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Multi Information อย่างอุณหภูมิน้ำและน้ำมันเครื่อง แรงดันน้ำมัน อากาศและเบรก มาตรวัดแรง G เป็นต้น
พวงมาลัยหุ้มหนังตัดขอบแดงพร้อมโลโก้ตัว H บนพื้นสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของรุ่น Type R ในส่วนของเบาะนั่งสีแดงสลับดำนั้นได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับ Civic Type R โดยให้ตำแหน่งของสะโพกผู้ขับขี่อยู่ในระดับต่ำมากที่สุด

ขุมพลังใต้ฝากระโปรงของ Honda Civic Type R ใหม่จะเป็นเครื่องยนต์สปอร์ตรุ่นล่าสุดขนาดความจุ 2.0 ลิตร VTEC Turbo ซึ่งให้พละกำลังและแรงบิดรวมถึงการตอบสนองที่สมดุล ด้วยเทคโนโลยี VTEC ร่วมกับระบบหัวฉีดตรงและเทอร์โบซึ่งให้กำลังสูงสุด 310 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ

ทำให้ Honda Civic Type R รุ่นล่าสุดนี้เป็น Civic Type R ที่มีพละกำลังมากที่สุดพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นทั้งในสนามและถนนสาธารณะตามแบบอันเป็นพื้นฐานของ Honda Civic Type R ทั้งการเคลื่อนไหว การเลี้ยวและการหยุดได้อย่างมั่นใจด้วยการปรับแต่ง
ด้านหลักแอโรไดนามิกและระบบกันสะเทือนที่สามารถปรับระดับได้ รวมไปถึงล้อขนาดใหญ่ถึง 19 นิ้ว พร้อมกับยางสมรรถนะสูง

จากการทดสอบสมรรถนะการขับขี่ของ Honda Civic Type R ที่สนามส่วนเหนือของนูร์เบอร์กริง (Nordschleife) ในเยอรมนีนั้นใช้เวลาต่อรอบเพียง 7 นาที 50 วินาที ถือว่าเป็นรถเครื่องยนต์วางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหน้า (FF) ที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในขณะนี้ โดย Honda Civic Type R ใหม่จะจำหน่ายแบบจำกัดจำนวน อยู่ที่ 750 คัน

ทาง Honda ได้ตั้งราคาไว้ที่ 4,280,000 เยน หรือประมาณ 1.37 ล้านบาท โดยเปิดให้ลูกค้าสั่งจองผ่านเว็บไซต์ตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึง 23 พฤศจิกายนนี้สำหรับล็อตแรกเท่านั้น ซึ่งหากมีความต้องการสูงกว่านั้นทาง Honda อาจต้องพิจารณากันอีกที
สำหรับลูกค้าชาวไทยที่อยากได้ก็อาจจะชินและไม่เดือดร้อนเท่าไรนักที่ไม่มีจำหน่ายในไทยเพราะเป็นที่รู้กันว่าถ้าราคารวมภาษีนำเข้าและค่าดำเนินการอื่น ๆ หลายคนก็คงเปลี่ยนใจไปโดยปริยาย ส่วนใครที่ยังคงแน่วแน่กับ Civic Type R คันนี้ก็คงต้องคุยกับผู้นำเข้าอิสระสถานเดียว

















