ในช่วงหน้าฝนความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปรกติ เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขังผิวการจราจร ประกอบกับผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยง ขาดทักษะ และความไม่ชำนาญในการขับรถ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น
โดยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำ วิธีแก้ไขฉุกเฉินขณะขับรถช่วงฝนตก ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ของกระทรวงมหาดไทยมาบอกต่อไว้เป็นแนวทางรับมือการขับรถช่วงหน้าฝน
เจอน้ำท่วมขัง ต้องระวังรถเหินน้ำ
เกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ประกอบกับดอกยางรถยนต์สึกหรอ จึงไม่สามารถรีดน้ำออกจากหน้าสัมผัสได้ ทำให้ล้อหมุนและลอยอยู่บนผิวน้ำ ส่งผลให้รถลื่นไถลและควบคุมทิศทางไม่ได้
สามารถป้องกันและแก้ไขอาการรถเหินน้ำ โดยลดระดับความเร็วเมื่อขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง จับพวงมาลัยให้มั่น ห้ามเหยียบเบรกเพราะจะทำให้ล้อฟรีและไม่สามารถบังคับรถได้
ควรถอนคันเร่ง เพื่อเบาเครื่องยนต์ และใช้เกียร์ต่ำจนกว่ารถจะทรงตัวได้ตามปกติ
เว้นระยะห่างจากคันหน้าเพิ่มขึ้น
การชนท้ายหรือเฉี่ยวชนมักบ่อยขึ้นในช่วงฤดูฝน เพราะเกิดจากสภาพถนนเปียกลื่น ทำให้ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถมากกว่าปรกติ เพราคนส่วนใหญ่จะเคยชินการเว้นระยะตามสภาพถนนปรกติ
เปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าสักนิด
ปรกติแล้วควรเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางระยะ 30 เมตร แต่ในกรณีนี้ควรเพื่อเปิดไฟเลี้ยวเผื่อให้มากกว่า 30 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นชะลอความเร็วและให้ทาง
กดเบรกชะลอก่อน
อ่านสถานการณ์ด้านหน้าสักหน่อย เห็นน้ำขังหรือกิ่งไม้หักขวางทาง กดเบรกชะลอรถไปเรื่อย ๆ ดีกว่าหยุดเบรกหนักในระยะสั้น ถึงแม้การชนท้ายเราจะไม่มีความผิดแต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุจะดีกว่า
ใช้ความเร็วในระดับที่สามารถควบคุมรถได้และสัมพันธ์กับสภาพถนน
รถยนต์ของแต่ละคนมีสภาพความสมบูรณ์ไม่เท่ากัน ผู้ขับควรรู้สภาพและขีดจำกัดในการควบคุมรถตัวเอง
ไม่เหยียบเบรกและปลดเกียร์ว่างขณะเข้าโค้ง
แรงหมุนของล้อขณะเลี้ยวจะช่วยลดแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้ง เพราะฉะนั้นหากเราเหยียบเบรกหรือเข้าเกียร์ว่าง จะมีแรงเหวี่ยงเต็มที่ทำให้รถหลุดโค้ง
กรณีรถไถลออกนอกเส้นทาง
ห้ามหักพวงมาลัยกะทันหัน ให้แตะเบรกเบา ๆ เพื่อชะลอความเร็วรถ พร้อมจับพวงมาลัยให้มั่น เพื่อประคองรถกลับเข้าช่องทาง
การเตรียมสภาพรถให้พร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงฝนตก การเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ การไม่ขับรถเร็ว รวมถึงการเรียนรู้วิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉินขณะขับรถในช่วงฝนตก จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย