ถือโอกาสที่ เชฟโรเลต เพิ่งประกาศเปิดตัวสปอร์ตซิ่งเจเนอเรชั่นที่ 6 ในตระกูลคามาโร Chevrolet Camaro 2016 ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่ง คามาโร 2016 ก็ยังคงเอกลักษณ์เรื่องความหล่อเหลาแข็งแรงดุดัน และสมรรถนะอันเป็นเลิศได้ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ตัวเก่า (ที่นับว่าเก๋าไม่น้อยหน้าใครในยุคของตนเอง) งั้นตอนนี้คงเป็นโอกาสดีที่เราจะมาย้อนดูบรรดาคามาโรรุ่นพี่ที่ครองความเป็นจ้าวแห่งมัสเซิลคาร์มาถึงครึ่งศตวรรษแล้ว
Gen 1 ปี 1967-1969
เชฟโรเลตเปิดตัว เชฟโรเลต คามาโร ตัวต้นแบบเป็นครั้งแรกในปี 1966 เพื่อออกมาแข่งกับเจ้าตลาดสปอร์ตซิ่ง ในยุคนั้นอย่าง ฟอร์ด มัสแตง (Ford Mustang) ก่อนที่จะส่งมาลงตลาดจริงในปี 1967 มีทั้งแบบคูเป้และแบบเปิดประทุน มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ L6 และ V8 โดยในรุ่น Z/28 เป็นเครื่องยนต์ V8 บล็อคเล็ก 4.9 ลิตร ให้กำลัง 290 แรงม้า และเครื่องยนต์ V8 บล็อคใหญ่ 6.5 ลิตร ให้กำลัง 375 แรงม้า ในรุ่น SS
Gen 2 ปี 1970-1981
มาถึงปี 1970 เชฟโรเลตก็กลับมากับคามาโรเจเนอเรชั่นที่ 2 โดยคราวนี้มีออกมาเฉพาะแบบคูเป้ และจัดหนักจัดเต็มกับเรื่องความเร็วแรงเต็มสมรรถนะ มีตัวเลือกเครื่องยนต์สมรรถสูงสำหรับรุ่น Z/28 ให้กำลัง 360 แรงม้า จากเครื่องยนต์ LT1 V8 5.7 ลิตร แต่น่าเสียดายที่ต้องเผชิญวิกฤตน้ำมันแพงในยุโรป (Suez crisis) ประกอบกับการควบคุมเรื่องอัตราปลดปล่อยไอเสียที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้เชฟโรเลตต้องปรับลดสเปคความแรงลงมา จนเหลือกำลังแรงเพียง 155 แรงม้า เมื่อถึงปี 1975
ทว่าในทางกลับกัน วิกฤตราคาน้ำมันก็กลายสิ่งช่วยเสริมกำลังให้กับเชฟโรเลตไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมันทำให้ตลาดของรถคู่แข่งอย่าง ฟอร์ด มัสแตง และ ด็อดจ์ ชาเลนเจอร์ (Dodge Challenger ในเครือของ Chrysler) ซบเซาลง เปิดโอกาสให้ เชฟโรเลต คามาโร และ พอนเทียค ไฟร์เบิร์ด (Pontiac Firebird จากค่าย Pontiac เครือเดียวกับ GM ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเชฟโรเลตเช่นกัน) เข้ามาครองตลาดมัสเซิลคาร์ได้มากขึ้น ทำให้เจเนอเรชั่นนี้เป็นคามาโรรุ่นที่ประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายที่น่าพึงพอใจมากทีเดียว
Gen 3 ปี 1982-1992
เชฟโรเลต คามาโร ในเจนเนอเรชั่นที่ 3 ยังคงมีหน้าตาเป็นเหลี่ยม ๆ กล่อง ๆ ไม่ต่างจากรุ่นพี่ แต่ได้ดีไซน์หลังคา T-top ใหม่ให้กับแบบคูเป้ และในเจนนี้เชฟโรเลตได้ดึงคามาโรรุ่นเปิดประทุนกลับมาอีกครั้ง พร้อมเพิ่มเทคโนโลยีหัวฉีดเชื้อเพลิงมัลติพอยท์ ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม และใส่ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่เข้ามาเป็นครั้งแรก ส่วนเครื่องยนต์มาตรฐานเป็นเครื่องยนต์ V8 5.7 ลิตร ให้กำลัง 245 แรงม้า ส่วนในรุ่น IROC-Z ยังได้รับการปรับแต่งระบบกันสะเทือนใหม่ เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เยี่ยมยอดกว่าเดิม
Gen 4 ปี 1993-2002
ดีไซน์ของ เชฟโรเลต คามาโร ในเจนนี้แตกต่างจากรุ่นพี่ที่ผ่าน ๆ มา ด้วยหน้าตาที่มีส่วนโค้งมนดูโฉบ เฉี่ยวกว่าเดิม พร้อมกลับมาโฟกัสที่ความแรง ให้ม้าสูงสุดที่ 325 แรงม้า จากเครื่องยนต์ LS1 V8 ขนาด 5.7 ลิตร ในรุ่น SS ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี ที่คามาโรกลับมาให้กำลังแรงแตะทะลุหลัก 300 แรงม้าอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเจเนอเรชั่นนี้ดูจะไม่ประสบความสำเร็จด้านการตลาดมากนัก เพราะเจอคู่แข่งเจ้าเก่าที่แข็งเคี้ยวไม่เข้าอย่าง ฟอร์ด มัสแตง ทำตลาดได้ดีกว่า และแล้ว เชฟโรเลต คามาโร ในเจเนอเรชั่นที่ 4 ก็ยุติการผลิตลงไปในปี 2002
Gen 5 ปี 2010-2015
ความซบเซาจากจากเจเนอชั่นที่ 4 ได้สิ้นสุดลงเมื่อตัวต้นแบบของ เชฟโรเลต คามาโร รุ่นที่ 5 ได้รับการเปิดตัวในงานดีทรอยต์ออโต้โชว์ 2006 และมันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ถูกใช้ในภาพยนต์ Transformer (หุ่นสีเหลืองที่ชื่อ บับเบิ้ลบี) นับว่าสร้างกระแสความฮือฮาและดึงความสนใจกลับมาที่คามาโรได้อีกครั้ง เปิดศึกหน้าใหม่มาขับเคี่ยวกับ ฟอร์ด มัสแตง เจ้าเก่า
สำหรับหน้าตาของ เชฟโรเลต คามาโร ในเจเนอเรชั่นที่ 5 มากับคอนเซปต์เรโทร ดูเก๋าแบบคลาสสิก และยังอัดความแรงมาเต็มกำลังมากที่สุดเท่าที่ตระกูลคามาโรเคยมีมา กับรุ่น ZL1 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ LSA V8 ขนาด 6.2 ลิตร ให้กำลังแรงจัดถึง 580 แรงม้า และยังมีรุ่น Z/28 ที่ออกแบบมาเพื่อลงสนามแข่งโดย เฉพาะ ใช้เครื่องยนต์ LS7 V8 ขนาด 7 ลิตร ให้กำลัง 505 แรงม้า กลายเป็นหน้าเป็นตาของ เชฟโรเลต คามาโร ให้กู้บัลลังก์มัสเซิลคาร์สวยซิ่งกลับมาได้อย่างสง่างาม
Gen 6 ปี 2016
สุดท้ายที่เจเนอเรชั่นที่ 6 อันเป็นรุ่นล่าสุดของคามาโร เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ ไม่นานมานี้ (พฤษภาคม 2016) Chevrolet Camaro 2016 ได้รับการดีไซน์ใหม่ชนิดยกเครื่อง ทั้งเรื่องหน้าตา เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีที่ใช้ได้ล้ำหน้าไปอีกขั้น เพรียวสวยแต่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ที่ หลากหลายที่สุด ทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ 2 ลิตร 310 แรงม้า, เครื่องยนต์ V6 3.6 ลิตร 355 แรงม้า และเครื่องยนต์ LT1 V8 (คนละชนิดกับ LT1 ในเจน 2) 6.2 ลิตร กำลังแรง 455 แรงม้า (เฉพาะรุ่น SS)
เชฟโรเลตเขายังโวว่า เจเนอเรชั่นที่ 6 นี้เป็นรุ่นที่ดีที่สุด เจ๋งเป้งที่สุด ของคามาโร ก็นับว่าเป็นรุ่นที่เข็นออกมาเป่าเค้กครบรอบ 50 ปี ของ Chevrolet Camaro ได้อย่างสวยงามพอดิบพอดีเลยครับ
ภาพจาก paultan