เป็นค่ายรถพลังไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของ โลกจริง ๆ สำหรับ เทสลา มอเตอร์ (Tesla Motor) ที่เป็นผู้นำทั้งด้านเทคโนโลยี สมรรถนะ ตลอดจนถึงดีไซน์ที่สวยงาม วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับรถ SUV พลังไฟฟ้าของเทสลา กับ "เทสลา โมเดล เอ็กซ์" (Tesla Model X) กันครับ
Tesla Model X เป็นรถ SUV 3 ตอน 7 ที่นั่ง ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่สตูดิโอของเทสลาในลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ เมื่อปี 2012 แต่จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีการออกวางขาย เนื่องจากเทสลาได้เว้นช่วงไปทำการตลาดให้กับซีดานอย่าง Model S ที่เปิดตัวในปีเดียวกันอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันเจ้า Model X ก็ยังได้รับการพัฒนาปรับปรุงต่อยอดจากตัวต้นแบบอยู่เป็นระยะ
รูปลักษณ์ของเจ้า SUV พลังไฟฟ้าคันนี้ Model X ออกแบบด้วยแพลตฟอร์มเดียวกับ Model S แต่มีระยะฐานล้อยาวขึ้น และหลังคาสูงกว่าเดิม ภายในแบ่งเป็น 3 ตอนกับเบาะโดยสาร 7 ที่นั่ง (2-3-2) แบบไซส์ฝรั่งนั่งได้ไม่อึดอัด แถมยังวางสัมภาระได้อีกส่วนหนึ่ง
และฟังก์ชั่นเด่นที่เทสลาภูมิใจนำเสนอที่สุดก็คือ ประตูข้างฟอลคอน วิงส์ (Falcon Wings) ที่ออกแบบให้เปิดแบบพับขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงเบาะโดยสารตอนหลัง สามารถเดินตัวตรงขึ้นไปได้สบาย ๆ ไม่ต้องก้มหัวมุดเข้าไป แถมยังขึ้น-ลง สะดวกแม้จอดในที่แคบ เพราะรัศมีการเปิดแคบกว่าประตูแบบปกติ
บริเวณแดชบอร์ดมีการฝังจอดิสเพลย์เทคโนโลยี เทสลา ทัชสกรีน ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุม เข้าถึงข้อมูลการทำงานของรถ ตลอดจนเชื่อมต่อระบบเอนเตอร์เทนเม้นท์ได้อย่างสะดวกสบาย
มาดูกันที่สเปคแหล่งพลังงานและเครื่องยนต์กันบ้าง Model X มาพร้อมเซลล์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนติดตั้งใต้ท้องรถเช่นเดียวกับ Model S มีให้เลือกทั้งแบบมาตรฐาน 60 กิโลวัตต์ และแบบ 85 กิโลวัตต์ วิ่งได้ระยะทาง 320 กิโลเมตร ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6 วินาทีสำหรับรุ่นแบตเตอรี่ 60 กิโลวัตต์ และ 5.5 วินาที ในรุ่น 85 กิโลวัตต์
ระบบขับเคลื่อนมาตรฐาน 4 ล้อ ดูอัลมอเตอร์แยกควบคุมหน้า-หลัง ทำให้สามารถควบคุมแรงบิดล้อหน้าและหลังแยกจากกันได้ ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่
สำหรับ Tesla Model X ที่กำหนดการวางขายล่าช้าออกจากเดิมร่วมปี แต่ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ก็ได้ออกมาประกาศว่า Model X น่าจะออกวางตลาดได้ในช่วงไตรมาสที่สามของปี หรือราวเดือนกรกฎาคม 2015 แต่อย่างไรก็ตาม จะมีเพียงลูกค้าที่ทำการสั่งจองเข้ามาก่อนแล้วเท่านั้นที่ได้รับมอบรถ ส่วนผู้ที่กำลังจะซื้อในปีนี้ น่าจะได้รับรถภายในปี 2016 โดยราคานั้นคาดว่าน่าจะอยู่ระหว่าง 2.46-3.45 ล้านบาทสำหรับรุ่นท็อปครับ
world_id:5559936f38217ad216000001
ภาพจาก teslamotors และ netcarshow