หากพูดถึงรถยนต์ที่สร้างความสำเร็จให้กับค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นอย่าง ฮอนด้า (Honda) หนึ่งในนั้นจะต้องมีซีดานขนาดกลางยอดนิยมอย่างฮอนด้า ซีวิค (Honda Civic) รวมอยู่ด้วยแน่ ซึ่งขณะนี้ฮอนด้า ซีวิครุ่นโฉมปัจจุบันก็ใกล้จะหมดอายุการทำตลาดแล้ว ฮอนด้าจึงได้เริ่มเตรียมการสำหรับสานต่อความนิยมในตัวซีดานรุ่นดังกล่าวด้วยการเปิดตัวต้นแบบรุ่นใหม่ภายในงานแสดงรถยนต์ New York Auto Show 2015 เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาเสียเลย
รถต้นแบบรุ่นดังกล่าวใช้ชื่อตรง ๆ ตัวว่า ฮอนด้า ซีวิค คอนเซ็ปต์ (Honda Civic Concept) ซึ่งฮอนด้าระบุว่าตั้งใจออกแบบเพื่อแย้มโฉมดีไซน์ของฮอนด้า ซีวิค รุ่นลำดับที่ 10 ซึ่งจะเปิดตัวภายในปี 2016 โดยจะยังคงพัฒนารุ่นย่อยออกมาหลากหลายตามความต้องการของตลาดโลกเช่นเคยทั้ง รุ่นซีดาน, คูเป้, เอสไอ (Si), แฮตช์แบ็ก และที่สำคัญ ซีวิค ไทป์อาร์ (Civic Type R) รุ่นต่อไป
ตัวรถต้นแบบดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงส่วนของตัวถังพอสมควร เริ่มตั้งแต่มิติรถที่ทั้งกว้างและยาวขึ้น พร้อมฐานล้อที่ยาวขึ้นและช่วง Overhang ที่สั้นลงทั้งหน้าและหลัง
กระจังหน้าออกแบบเน้นความโฉบเฉี่ยวตามแนวทางการออกแบบของฮอนด้าในปัจจุบัน พร้อมไฟหน้าแบบ LED สวยงาม
ด้านข้างเผยรูปทรงตัวถังแบบรถคูเป้ 2 ประตู โดยมีสัดส่วนฝากระโปรงหน้ายาวเป็นพิเศษ ส่วนตรงกลางและด้านท้ายเองก็มีขนาดยาวพอสำหรับ 4 ประตู ซึ่งคาดว่าฮอนด้าจะนำเส้นสายแบบคูเป้เช่นนี้มาใส่ในตัวถังซีดานด้วย
จุดเด่นของด้านหลังอยู่ที่ไฟท้ายที่จัดวางเส้นสายให้มีเหลี่ยมมุมเฉียบ คมรับกับรูปทรงตัวถังตลอดแนวด้านบน ทั้งยังเชื่อมต่อกับอย่างสวยงามด้วยเทคโนโลยี LED นอกจากนี้ ส่วนอื่น ๆ ยังออกแบบให้ดูมีเหลี่ยมมุมเฉียบคมอย่างมากทีเดียว
ฮอนด้าไม่ได้เปิด เผยรายละเอียดภายในของตัวรถ แต่ได้ระบุถึงการขับเคลื่อนโดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน V-TEC เทอร์โบ ขนาด 1,500 ซีซี รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ได้ ส่วนระบบความปลอดภัยก็จัดให้อย่างครบถ้วนทั้ง ระบบ Adaptive Cruise Control ระบบป้องกันการออกนอกช่องทาง ระบบเตือนสิ่งกีดขวางด้านหน้า กล้องมองถอยหลังรอบทิศทาง รวมถึงออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ให้แข็งแรงยิ่งกว่าเดิมด้วย
ฮอนด้า ซีวิค รุ่นปี 2016 หรือรุ่นลำดับที่ 10 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกภายในปลายปี 2015 ส่วนในประเทศไทยนั้นคาดว่าจะได้พบกันอย่างเร็วภายในต้นปี 2016 ครับ
world_id:5524f40b38217ab67f000000
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก hondanews