เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ (Chevrolet TrailBlazer)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
Chevrolet Trailblazer รุ่นปี 2015 ปรับโฉม Minorchange ติดจอสัมผัสทุกรุ่น เพิ่มชุดแต่งภายใน ราคา 1,095,000 บาท
เชฟโรเลต เซลล์ ประเทศไทย ผู้จำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต (Chevrolet) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ที่ถูกปรับโฉมเพิ่มความหรูหราและคุ้มค่ามากกว่าที่เคยกับ เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ (Chevrolet TrailBlazer) รุ่นปี 2015 แสดงตัวตนผ่านแนวคิด “ชีวิต...ยังไปได้อีก” เพื่อความสำเร็จอันมากกว่าเดิม
Chevrolet Trailblazer รุ่นปี 2015 เป็นรถอเนกประสงค์ประเภท PPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ซึ่งการปรับโฉมในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับรถรุ่นนี้ไม่น้อย เริ่มจากภายนอกซึ่งมาพร้อมดีไซน์ที่คุ้นเคย โดดเด่นด้วยไฟเลี้ยว LED บนกระจกมองข้าง และไฟท้าย LED แบบใหม่ ให้ความสว่างชัดทุกมุมมอง ทั้งยังสวมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดูบึกบึนสมเป็นรถครอสโอเวอร์ไม่น้อย และเชฟโรเลตยังจัดสีตัวถังใหม่ โดยเป็นสีเทา Steel Satin Gray ซึ่งดูหรูหราคมเข้มทีเดียว
ภายในของรถเพิ่มเติมส่วนจองคอนโซลหน้าวัสดุสีดำเปียโนที่เงางามหรูหรา พร้อมกับติดตั้งจอสีแบบสัมผัสให้กับทุกรุ่นย่อย สามารถใช้งานระบบอินโฟเทนเมนต์ MyLink และกล้องมองหลังได้ ส่วนเบาะนั่งยังคงความสะดวกสบายโดยรองรับผู้โดยสารสูงสุดถึง 7 ที่นั่งเช่นเคย และมีเบาะหนังใหม่สีน้ำตาล Brown Stone ให้ใช้งานด้วย
รถอเนกประสงค์ของเชฟโรเลตมาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล Duramax ขนาด 2,500 ซีซี กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเครื่องยนต์ดีเซล Duramax ขนาด 2,800 ซีซี ให้กำลัง 200 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ด้านเครื่องยนต์ถูกปรับแต่งให้ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro5 เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกใช้งานด้วย
ด้านระบบความปลอดภัย Chevrolet Trailblazer รุ่นปี 2015 จัดให้อย่างคุ้มค่า ทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด สำหรับเบาะโดยสารทั้ง 3 ตอน ดิสก์เบรก 4 ล้อ ระบบเบรก ABS และ EBD ระบบเสริมแรงเบรก HBA ระบบช่วยการเบรกกะทันหัน PBA ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ระบบควบคุมการไหลขณะขึ้นทางลาดชัน HAS ระบบควบคุมการลื่นไถล ESC และระบบช่วยเบรกขณะเข้าโค้ง CBC
Chevrolet Trailblazer รุ่นปี 2015 มาพร้อมสีตัวถังทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, สีขาว, สีเงิน, สีแดง, สีน้ำตาล, สีดำ และสีใหม่ สีเทา ส่วนรุ่นย่อยมีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น LT 2,500 ซีซี ราคา 1,095,000 บาท, รุ่น LT 2,800 ซีซี ราคา 1,129,000 บาท, รุ่น LTZ 2,800 ซีซี ราคา 1,289,000 บาท และรุ่น LTZ1 2,800 ซีซี ราคา 1,465,000 บาท ส่วนรายละเอียดของแต่ละรุ่นย่อยสามารถชมได้จากตารางด้านล่างครับ
รุ่นย่อย | เครื่องยนต์ | ขับเคลื่อน | อุปกรณ์ | ราคา |
LT 2,500 ซีซี | เครื่องยนต์ดีเซล Duramax ขนาด 2,500 ซีซี กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด | 2 ล้อ | - ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง - ไฟตัดหมอกหลัง - บันไดข้าง- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว - ภายในสีดำ - จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Bluetooth - เบาะนั่งผ้า - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า - ดิสก์เบรก 4 ล้อ - ระบบเบรก ABS EBD PBA HBA | 1,095,000 |
LT 2,800 ซีซี | เครื่องยนต์ดีเซล Duramax ขนาด 2,800 ซีซี กำลัง 200 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด | - ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว | 1,129,000 | |
LTZ 2,800 ซีซี | - ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ - ไฟท้าย LED - ฝาครอบกระจกมองข้างโครเมียม - ราวหลังคา - ภายในสีครีม - เบาะนั่งหนัง - ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ - Cruise Control - เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า - ระบบความปลอดภัย HDC HAS TCS ESC และ CBC - เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด | 1,289,000 | ||
LTZ1 2,800 ซีซี | 4 ล้อ | - ภายในสีน้ำตาล Brown Stone - ระบบอินโฟเทนเมนต์ MyLink พร้อมระบบแผนที่นำทางและเครื่องเล่น CD - กล้องมองหลัง | 1,465,000 |