
แลมโบกินี่ แอสเทอเรียน (Lamborghini Asterion)

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก worldcarfans
Lamborghini Asterion ต้นแบบซูเปอร์คาร์ Plug-in Hybrid คันแรกของค่าย 910 แรงม้า แลมโบกินี่ แอสเทอเรียน แต่ปล่อยไอเสียไม่ถึงร้อย
หลังจากที่ได้ชมทั้งภาพยั่วและภาพหลุดของรถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่จากแลมโบกินี่ (Lamborghini) แล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะเผยโฉมเต็ม ๆ แล้วกับ แลมโบกินี่ แอสเทอเรียน แอลพีไอ910-4 (Lamborghini Asterion LPI910-4) ซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นแรกของค่ายกระทิงดุ
ดีไซน์ของ แลมโบกินี่ แอสเทอเรียน (Lamborghini Asterion) นับว่าแปลกใหม่จากกระทิงดุรุ่นอื่น ๆ อย่างชัดเจน ใช้ตัวถังสีน้ำเงินสดสวย ไล่มาตั้งแต่ด้านหน้าซึ่งส่วนไฟหน้าและซุ้มล้อยกสูง ต่างจากรุ่นอื่นที่เรียบเป็นเส้นเดียว ส่วนกันชนและกระจังหน้ายังคงมีช่องหกเหลี่ยมระบายลมอยู่ด้านข้างเช่นเคย ส่วนกระจกหน้าเองก็ทำมุมยกสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้านข้างเผยเส้นสายที่โค้งมนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นสายด้านหลังประตูรถ ซุ้มล้อถูกแยกออกจากตัวถังอย่างชัดเจน ส่วนด้านหลังเผยให้เห็นไฟท้ายรูปตัว Y นอนยาว พร้อมท่อไอเสียสี่ท่อที่สวยงามกว่าเดิม ส่วนล้อทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ด้านหน้าขนาด 20 นิ้ว และ 21 นิ้ว

ภายในเองก็ออกแบบอย่างแปลกใหม่ โดยใช้โทนสีครีมกับสีน้ำตาลเป็นหลัก ผสานกับเส้นสายที่มีเหลี่ยมมุมชัดเจนเช่นเดียวกับกระทิงดุรุ่นอื่น ๆ พร้อมด้วยอุปกรณ์ภายในที่ครบครัน ทั้งมาตรวัดแบบดิจิตอลขนาดใหญ่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และยังมีจอแสดงผลแนวตั้งดีไซน์สวยลงตัวกับคอนโซลกลางด้วย
ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดของแอสเทอเรียนประกอบด้วยเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5,200 ซีซี กำลัง 610 แรงม้า จากแลมโบกินี่ ฮูราแคน (Lamborghini Huracan) (ลิงก์ ) ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้ามากถึง 3 ตัว ให้กำลัง 300 แรงม้า ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันทั้งหมดแล้ว จะให้กำลังรวมกันมากถึง 910 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนนี้ส่งกำลังด้วยเกียร์ DSG 7 สปีด และใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
ระบบขับเคลื่อนทั้งหมดนี้เป็นที่มาของรหัสประจำตัวรถ LPI 910-4 คันนี้ ซึ่งก็คือ LPI ซึ่ง LP หมายถึง Longitudinal Posterior คือ เครื่องยนต์วางด้านหน้าแกนล้อหลังหรือเครื่องยนต์วางตรงกลาง ส่วน I ที่เพิ่มเข้ามาย่อมาจาก Ibrido ซึ่งแปลว่า Hybrid ด้านตัวเลข 910 หมายถึงกำลังแรงม้ารวมของเครื่องยนต์ และตัวเลข 4 คือ ใช้รถยนต์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อนั่นเอง
ด้านสมรรถนะของแอสเทอเรียนจัดว่าน่าสนใจทีเดียว โดยทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กม./ชม. ส่วนสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 125 กม./ชม. และทำระยะทางสูงสุด 50 กิโลเมตร ด้านความประหยัดมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 23 กม./ลิตร ส่วนอัตราการปล่อยไอเสียเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมทีเดียวโดยมีตัวเลขอยู่ที่ 98 กรัม/กม.
กระทิงดุพลังไฮบริด แลมโบกินี่ แอสเทอเรียน จะเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงานแสดงรถยนต์ Paris Motor Show ปี 2014 ช่วงเดือนตุลาคมนี้ ส่วนการผลิตจริงนั้นยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาในขณะนี้ แบบนี้รับรองว่า ซูเปอร์คาร์ไฮบริดอย่าง ลาเฟอร์รารี่ (Ferrari LaFerrari) ได้มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเสียทีครับ





