ดูแลรักษาสีรถให้สดสวย

ดูแลรักษาสีรถ

ดูแลรักษาสีรถให้สดสวย (GM CAR)

เรื่อง : M.T.T.S 3415153

          เวลาได้รถใหม่เรามักจะทุ่มทุนมากเป็นพิเศษ ในการดูแลรักษารถ เพื่อให้สดสวยสดใสอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีรถคันแรกแล้วก็ต้องรู้จักดูแลรักษา รวมถึงรู้จักเลือกของตกแต่งให้มันคุ้มเงิน และควรรู้ว่าอะไรควรเปลี่ยนหรืออะไรไม่ควรเปลี่ยน อะไรเลือกแบบประหยัดได้ หรืออะไรไม่ควรเขียม เพื่อให้รถของคุณสวยงาม และมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด

          นอกเหนือจากการตกแต่งรถยนต์แล้ว การดูแลรักษารถยนต์ก็เป็นเรื่องที่เจ้าของรถให้ความสำคัญ วันนี้เราจะคุยเรื่องของการดูแลรักษาสีรถให้มีความสดสวยและสดใสอยู่เสมอ การดูแลสีรถไม่ได้หมายความแค่การล้างทำความสะอาด ลงแว็กซ์ หรือเคลือบเงา มันมีความละเอียดอ่อนและมีกรรมวิธีมากกว่านั้นเรื่องราวของการดูแลรักษาสีรถ นั้นมีมากมายจริง ๆ เมื่อรับรถมาแล้วส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเรื่องของการเคลือบสีตัวรถ บ้างก็ได้แพ็คเกจแถมมาในเรื่องของการขัดเคลือบสี ลองมาทำความเข้าใจกับคำว่าดูแลรักษาสีรถกันก่อนนะครับ

ขัดเคลือบสี

          ขัดเคลือบสี

          เรามักได้ยินคำนี้กันบ่อย ๆ และเข้าใจว่าคือ ขั้นตอนเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วนั้นแยกจากกันเป็นสองขั้นตอน คือ “ขัดสี” กับ “เคลือบสี”

          ทำไมต้อง “ขัดสี” เมื่อรถใช้งานไปนาน ๆ จะมีริ้วรอยขนแมวเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการล้างและเช็ดด้วยผ้าที่ไม่สะอาด หรืออมฝุ่นรถสีเข้ม เช่น สีดำ น้ำเงิน ส้ม หรือสีสด ๆ จะเห็นรอยขนแมวชัดเจน รวมถึงเกิดจากคราบยางไม้ ขี้แมลง ทำให้การเช็ดล้างกลายเป็นบ่อเกิดของรอยขนแมว ดังนั้นจึงต้องมีการขัดสีเพื่อลบรอยขนแมวออกก่อน

          การขัดสีก็คือขัด ผิวหน้าของสีหรือแล็กเกอร์ออกไป เพื่อให้สีเรียบเนียนและก่อให้เกิดความเงางาม การขัดผิวหน้าของสีหรือแล็กเกอร์ออกไป นั้นทำให้ชั้นสีที่เคลือบอยู่บางลง เหมือนเวลาที่เราขัดหน้าด้วยผงขัดละเอียด ๆ แม้หน้าจะกระจ่างใสขึ้น แต่หลังจากทำแล้วจะรู้สึกแสบ ๆ ผิวหน้านั่นเป็นเพราะผิวหนังถูกขัดออกไปนั่นเอง

          เมื่อขัดสีเสร็จเรียบร้อยถึงจะต่อด้วยขั้นตอน “เคลือบสี” เพื่อให้ผิวที่ถูกขัดออกไปแล้วมีความเงางามยิ่งขึ้น และเป็นตัวเคลือบเพื่อคอยปกป้องชั้นสีที่ถูกขัดออกไปให้มีความแข็งแรงทนทาน ต่อรอยขีดข่วนมากขึ้น ดังนั้นไม่ควรขัดสีบ่อยในรถเก่าที่ใช้งานมาหลายปี เมื่อขัดและเคลือบสีแล้ว ต้องคอยไปเคลือบสีซ้ำตามระยะเวลาของผู้ผลิตน้ำยาเคลือบกำหนด เพื่อให้ผิวที่ขัดแล้วมีอายุการใช้งานยาวนานนั่นเอง

ขัดหยาบ ขัดละเอียด

          ขัดหยาบ ขัดละเอียด

          การขัดสีนั้นจะแบ่งเป็นสองลักษณะขึ้นอยู่กับสารเคมีหรือยาขัด โดยปกติแล้วจะมีน้ำยาแบบ “ขัดหยาบ” กับน้ำยาแบบ “ขัดละเอียด” กรณีที่ผิวของแล็กเกอร์เป็นรอยลึก ต้องใช้น้ำยาแบบขัดหยาบก่อนเพื่อให้ผิวของแล็กเกอร์บางลง จากนั้นตามด้วยน้ำยาขัดละเอียดเพื่อที่จะให้ผิวที่ถูกขัดชั้นแรกเรียบเนียน ขึ้น จากนั้นจึงจะตามด้วยน้ำยาเคลือบและชักเงา

          การขัดเคลือบสีก็เหมือนกับงานไม้ การจะลงแล็กเกอร์บนเนื้อไม้ให้ขึ้นเงาเรียบเนียนนั้น ต้องใช้กระดาษทรายหยาบลงผิวเพื่อเก็บเสี้ยนไม้ชิ้นใหญ่ ๆ ก่อน เมื่อผิวเรียบดีเสมอกัน แล้วจะลงด้วยกระดาษทรายละเอียด เพื่อให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้นก่อนจะลงแล็กเกอร์เคลือบเนื้อไม้เป็นขั้นตอน ต่อไป ซึ่งไม่ต่างจากการขัดสีเลย ดังนั้นเจ้าของรถจึงไม่ควรขัดสีตัวรถบ่อย เพราะจะทำให้ชั้นแล็กเกอร์หรือเนื้อสีบางลง แต่การเคลือบสีนั้นสามารถทำได้บ่อยครั้ง

          น้ำยัดละเอียดมีหลายลักษณะ แบบชนิดที่ไม่กัดสีหรือแล็กเกอร์นั้นก็มี ส่วนมากเรามักคุ้นเคยกับคำว่า “ขัดขี้ไคล” นั่นก็คือคราบสกปรกที่เกาะติดแน่นจนการล้างธรรมดาไม่ออกนั่นเอง เมื่อใช้งานไปสักระยะต้องมีการขัดขี้ไคลเพื่อคืนความสดใสของสี

          โปรแกรมการเคลือบดูแลรักษาสีรถยนต์ปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อหลายลักษณะ แต่เมื่อขายเป็นแพ็คเกจมีราคาตั้งแต่ 3,000-4,000 บาทขึ้นไป จนถึงระดับหลักหมื่น อันนี้ต้องเลือกตามความเหมาะสมของเงินในกระเป๋า

GLASS COATING

          GLASS COATING

          ถ้าคุณมีเงินระดับหลักหมื่นลองดูเทคโนโลยี ต่อไปนี้ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะช่วยให้เกิดความเงางามยาวนานและช่วยลดเวลาในการเข้าไปใช้บริการได้มาก นั่นก็คือการเคลือบผิวแบบ Glass Coating หรือภาษาติดปากก็คือการเคลือบแก้ว

          ปัจจุบันเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับคนที่รักความเงางามคือการเคลือบแก้ว เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สีมีความเงางามและดูฉ่ำขึ้นมาก จากสีดำก็จะเป็นคำขลับเงางาม สีน้ำเงินก็จะเป็นน้ำเงินสดยิ่งขึ้น

          ข้อดีอีกอย่างคือการเคลือบจะทำให้ผิวของสีมีความแข็งขึ้น ทนต่อรอยการขีดข่วนและการเป็นขนแมวได้ดี คราบยางไม้ ขี้แมลง หรือคราบสกปรกอื่น ๆ เกาะติดได้ยาก การทำความสะอาดก็ง่าย แต่มีราคาค่อนข้างสูง ปัจจุบันราคาการเคลือบลดลงไปมากจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน

          ในรถขนาดอีโค คาร์ และซับคอมแพกต์ เดี๋ยวนี้มีแพ็คเกจตั้งแต่ไม่ถึงหมื่นจนถึง 20,000 บาท ถามว่าคุ้มไหมเมื่อเทียบกับการซื้อแพ็คเกจขัดเคลือบสี ที่ต้องคอยไปทำทุกเดือน บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากว่ามาก
การเคลือบแก้วจะทำ ให้คุณเอาเวลาที่ต้องไปรอขัดเคลือบสีไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ เพราะการเคลือบแบบนี้จะเว้นช่วยเวลาค่อนข้างนานกว่า จะไปเติมทรีตเมนต์อีกครั้ง และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเยอะ ถ้าคุณชอบความเงางามและดูแลรักษาง่าย การเคลือบแก้วเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและควรจะเริ่มทำทันทีเมื่อออกจากโชว์รูม

          ขั้นตอนก็คือการใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติเด่นหลาย ๆ ด้านผนวกเข้าด้วยกัน เช่น การยืดเกาะกับผิวสีเดิมอย่างแน่นหนา และคุณสมบัติความแข็งแบบผิวกระจกนั่นจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ยากขึ้น มีความเงางามมากเป็นพิเศษรวมถึงคุณสมบัติเรื่องของความลื่นของผิวสัมผัส ทำให้ฝุ่นหรือคราบต่าง ๆ เกาะติดยาก ทำให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่า

          สาเหตุที่ทำให้สีรถหมองไม่เงางามคือแสง UV ดังนั้นสารเคมีที่ผสมลงไปจะต้องมีคุณสมบัติของการป้องกันและสะท้อนแสง UV ได้ด้วย เมื่อผิวหน้าของสีแข็งและเป็นมันเงา ความชื้นก็ยากจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อสี ซึ่งเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้สีเสื่อมสภาพและหมองคล้ำ

          กรณีที่คิดจะใส่ชุดสปอยเลอร์รอบคัน การเลือกวัสดุอาจส่งผลในเรื่องความเรียบเนียนและความเงางามของชิ้นส่วนด้วย เพราะสปอยเลอร์ ก็ต้องพ่นสีเดียวกับตัวรถ ในเรื่องของการเลือกชุดสปอยเลอร์นั้นต้องบอกว่ามีความสำคัญมากโดยหลัก ๆ แล้วชุดแต่งเหล่านี้จะแบ่งเป็น 3 แหล่งที่มาใหญ่ ๆ คือ ชุดแต่งจากโรงงาน ชุดแต่งจากสำนักแต่งมาตรฐาน และชุดแต่งทำมือจากร้านแต่งทั่วไป

          ชุดแต่งจากโรงงานกับสำนักแต่งมาตรฐานส่วนมากจะมีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะของจากสำนักแต่งมาตรฐานยี่ห้อดัง ๆ จะมีราคาค่อนข้างแพง แต่วัสดุที่ใช้ทั้งสองกลุ่มนี้มักจะเป็นวัสดุพวกพลาสติก ABS หรือพลาสติกแบบ PP รวมถึงไฟเบอร์แบบฉีดขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ ชุดแต่งจากทั้งสองแหล่งนี้จะมีความเรียบเนียนของผิว และแนบสนิทกับตัวถังรถเป็นอย่างดี ชิ้นงานเมื่อทำสี ก็จะมีความเงางามเช่นเดียวกับผิวของตัวรถ


          ส่วนสปอยเลอร์จากร้านทั่ว ๆ ไปที่ออกแบบเองหรือก๊อปเขามาส่วนใหญ่จะเป็นงานไฟเบอร์ที่ขึ้นรูปด้วยมือ ดังนั้นชิ้นงานที่ออกมาจะไม่ค่อยมีความเรียบเนียน และเมื่อทำสีแล้วจะไม่ค่อยมีความมันวาวอย่างที่ควรจะเป็น หรือใช้ไปไม่นาน ก็จะเริ่มซีดและด้านมากขึ้น ดังนั้นการเลือกสปอยเลอร์ควรจะเลือกวัสดุที่เป็นพลาสติกหรือไฟเบอร์แบบฉีดขึ้นรูป เพราะในการใช้งานนั้นมันยืดหยุ่นและให้ตัวได้

          การทำสีสปอยเลอร์ในรถใหม่ ต้องใช้กรรมวิธีเดียวกับทำสีตัวรถ ถ้าจะให้ดีต้องพ่นด้วยระบบ 2K สีจะได้เงางามและทนทานเหมือนกับกันชนหน้าและหลังที่ออกมาจากโรงงาน

          การทำสีอีกวิธีหนึ่งคือการพ่นแล้วเคลือบด้วยแล็กเกอร์แบบเก่า การทำสีแบบนี้จะถูกแม้ว่าจะมีความสดสวยเหมือนกับตัวถังรถ แต่มันก็คงความสดสวยได้ไม่นานนักผ่านไป 1-2 ปีก็จะเห็นความแตกต่างชัดเจน โดยเฉพาะรถสีขาว บรอนซ์ น้ำเงิน แดง และรถสีเมทัลลิกทั้งหลาย ดังนั้น ถ้าคิดจะใส่สปอยเลอร์ต้องเลือกที่มีคุณภาพ การทำสีก็ต้องยอมทำสีแพงหน่อยเพื่อให้ระยะยาวสีสดสวยไม่ผิดเพี้ยน

ผ้าคลุมรถ

          ผ้าคลุมรถ

          ไม่ว่าจะผืนหลักร้อย ผืนละสามพัน หรือแพงกว่านั้น ไม่ควรคลุมแล้วจอดกลางแจ้งเพราะไอร้อนที่เกิดขึ้นใต้ผ้าคลุมรถนั้นสะสมสูงมาก สูงชนิดที่ว่าอาจจะทำให้ผ้าหรือสารเคมีที่เคลือบอยู่ เช่น ผ้าคลุมกันน้ำ ละลายติดกับสีรถได้เลย กรณีแบบนี้เจอกันบ่อยครั้ง การใช้ผ้าคลุมรถควรใช้ในที่ร่ม เท่านั้นแล้วควรเลือกผ้าคลุมที่มีคุณภาพระบายความร้อนและความชื้นได้ดี

การจอดรถกลางแจ้ง

           การจอดรถกลางแจ้ง

          จะทำให้แสง UV ทำลายสีรถโดยตรง กรณีไม่มีโรงรถหรือหลังคาที่กันน้ำกันแดดได้ดี ควรติดกันสาดที่กรอบกระจกทุกบาน กันสาดนี้จะช่วยกันฝนไม่ให้เข้าไปในห้องโดยสารเมื่อเราเปิดแง้มกระจกไว้
การ แง้มกระจกไว้สักหนึ่งนิ้วจะช่วยให้การระบายไอร้อนในรถทำได้ดีขึ้น ลดอุณหภูมิในห้องโดยสารได้มาก เมื่อในห้องโดยสารระบายความร้อนได้ดี สามารถช่วยให้หลังคารถอุณหภูมิไม่สะสมสูงนัก สีหลังคาก็จะไม่โดนทำร้ายมากนัก

          กรณีต้องจอดรถได้ต้นไม้ ถ้าเป็นไม้พุ่มทึบที่สามารถสร้างร่มเงาได้ดี สามารถเอาผ้าคุลมรถมาใช้เพื่อป้องกันยางไม้และขี้แมลงได้

          กรณีมีที่จอดประจำแต่ไม่มีหลังคาให้ร่มเงา หลังคาโรงรถแบบพับได้หรือเต็นท์ราคา 3,000-4,000 บาท ก็ช่วยได้ เพียงแต่เจ้าของสถานที่ยินยอม กรณีที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อให้ร่มเงาได้ การเคลือบแก้วหรือการเคลือบสีเป็นประจำสามารถช่วยให้สีทนต่อแดดได้มากขึ้น

ทำอย่างไร เมื่อรถโดนปูนซีเมนต์สี ยางมะตอย หรือวัสดุก่อสร้าง

          ทำอย่างไร เมื่อรถโดนปูนซีเมนต์สี ยางมะตอย หรือวัสดุก่อสร้าง

          เมื่อขับรถผ่านสถานทีก่อสร้างโดยเฉพาะการสร้างถนน เราหลีกเลี่ยงได้ยากถ้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่มาติดรถเป็นอะไร ไม่ว่าจะเป็นน้ำปูนซีเมนต์สี หรือแม้แต่ยางมะตอย เมื่อผ่านุดนั้นมาควรหาคาร์แคร์เพื่อทำการล้างทำความสะอาดโดดเร็ว

          เพราะการทำความสะอาดก่อนที่สิ่งเหล่านั้น จะแข็งตัว จะทำความสะอาดได้ง่ายไม่ทำให้สีเสียหาย ควรหาคาร์แคร์ที่มีมาตรฐาน เพราะจะมีน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะที่ตรงกับความต้องการ เช่น ขจัดคราบปูนซีเมนต์ สี ยางมะตอย ฯลฯ

          ถ้าไม่ทราบว่าเป็นอะไรและสิ่งที่เกาะแน่นเหล่านั้นดูท่าว่าจะไม่สามารถเอาออกได้ง่าย ๆ ควรทำใจและเปลี่ยนไปอู่สีแทน เพราะบางครั้งคาร์แคร์คิดค่าบริการแพงมาก เช่น บังโคลนหลังอย่างเดียว 2,000 บาท บวก-ลบนิดหน่อย และไม่แน่ใจด้วยว่าจะทำให้สีเงางามเหมือนเดิมหรือไม่ กรณีแบบนี้ไปหาอู่สีทำสีใหม่ทั้งชิ้นอาจจะใช้เงินราว 3,000 บาทเศษ แต่สีออกมาเงางามเหมือนเดิม เป็นการเพิ่มเงินอีกนิดแต่ได้ความคุ้มค่ามากกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเสียเงินสองครั้ง คือไปคาร์แคร์แล้วก็ต้องย้อนมาอู่สีเหมือนเดิม

Wrap ตัวถัง

           Wrap ตัวถัง

          เพื่อเปลี่ยนสีหรือติดสติ๊กเกอร์เคฟลาร์ก็ตามทีการ Wrap ตัวถังด้วยสติ๊กเกอร์สี สวยงามในเวลาสั้น ๆ และเป็นการลงทุนที่แพง ระยะยาวเมื่อลอกสติ๊กเกอร์ออกมาแล้วมักจะพบรอยคัตเตอร์รอยขูดขีด หรือแม้แต่สีลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ

          รวมถึงการติดสติ๊กเกอร์ผิดไปจากสีที่จดทะเบียนไว้ก็ผิดกฎหมายด้วย ถ้าอยากเปลี่ยนสีเพิ่มเงินอีก 30-50 เปอร์เซ็นต์ แล้วเข้าอู่ทำสีจะเป็นการดีกว่า ได้สีที่เงางาม และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า และสิ่งสำคัญเมื่อเปลี่ยนสีแล้วต้องรีบไปแจ้งเปลี่ยนสีเพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง

          การติดสติ๊กเกอร์ฝากระโปรง หลังคา ก็ต้องดูด้วยว่าไม่ให้พื้นที่ของสีเกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของตัวรถ ถ้าเกินต้องไปแจ้งเปลี่ยนสี ไม่อย่างนั้น ก็จะโดนเรียกโดนใบสั่งอยู่บ่อย ๆ

เคลือบภายในห้องโดยสาร

           เคลือบภายในห้องโดยสาร

          สำหรับรถที่เป็นเบาะผ้า ยิ่งเป็นเบาะสีอ่อนด้วยแล้ว ยิ่งต้องให้การดูแลรักษาเป็นอย่างมาก เบาะผ้าเมื่อออกรถมาใหม่ควรเข้าไปพ่นน้ำยากันน้ำ และปกป้องเนื้อผ้า น้ำยาเคมีที่ฉีดพ่นลงไปนั้น จะช่วยให้เบาะผ้าไม่เป็นรอยต่างหรือเป็นดวง เพราะจะทำให้น้ำซึมเข้าเนื้อผ้าได้ยากขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้เบาะนั่งดำหรือเป็นคราบไคลติดแน่น

          ส่วนเบาะหนัง ถ้าเป็นโทนสีอ่อนก็ต้องเคลือบน้ำยาเช่นกัน เบาะนั่งสีอ่อนหรือโทนสีเบจนั้นแค่ช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก็จะเห็นชัดเจนว่าเป็นคราบดำด่าง น้ำยาที่เคลือบจะช่วยไม่ให้เบาะหนังเสื่อมสภาพเร็ว และป้องกันไม่ให้เลอะง่าย


          นอกจากการดูแลรักษาด้วยการใช้บริการจากคาร์แคร์แล้ว ควรหลีกเลี่ยงผ้ายีนส์สีเข้ม ๆ ยิ่งซื้อมาใหม่ ๆ ยิ่งต้องระวัง เพราะสีย้อมที่ติดมากับผ้ามันจะไปทำให้เบาะนั่งไม่ว่าจะเป็นเผ้าหรือหนังสกปรก พูดง่าย ๆ ก็คือสีจากผ้าตกใส่เบาะนั่นเอง ถ้าเป็นเบาะผ้ายิ่งทำความสะอาดหรือฟอกให้เหมือนเดิมได้ยาก

ต้องสวยทั้งภายนอกและภายใน

           ต้องสวยทั้งภายนอกและภายใน

          การดูแลภายในห้องโดย อีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการทำความสะอาดแล้ว ถ้าหลีกเลี่ยงการจอดกลางแจ้งไม่ได้ก็ควรติดกันสาด เพื่อแง้มกระจกให้การระบายความร้อนออกไปทำได้ดี การปล่อยให้ห้องโดยสารมีความร้อนสูงจะทำให้ชิ้นส่วนพลาสติกเสื่อมสภาพเร็ว ชิ้นส่วนบริเวณคอนโซลหรือแผงประตูจะมีเสียงดังออดแอดเวลารถวิ่ง และบางชิ้นก็กรอบแตกก่อนเวลาอันสมควร

          อีกทางคือการเลือกฟิล์มกรองแสง ที่มีคุณภาพสามารถสะท้อนแสง UV และสะท้อนความร้อนได้ดี ลงทุนแพงหน่อยแต่ใช้งานได้ยาวนานรวมถึงยึดอายุชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารด้วย พวกน้ำมันหอมระเหยต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงยิ่งห้องโดยสารร้อนมากเท่าไหร่ สารเคมีที่ฟุ้งกระจายในรถ อาจเป็นตัวการทำให้คอยล์เย็นอุดตันเร็วหรือชิ้นส่วนบางอย่าง เช่น ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

ห้องเครื่อง

          ห้องเครื่อง

          นอกเหนือจากการดูแลรักษาสีรถ และภายในห้องโดยสารด้วยแล้ว ห้องเครื่องเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องดูแลทำความสะอาด แต่ห้องเครื่องเพียงจุดเดียวที่อยากบอกว่า แค่ทำให้พอสะอาดไม่ต้องถึงกับเอี่ยมอ่อง เพราะการทำความสะอาดห้องเครื่องไม่เหมือนกับการทำความสะอาดส่วนอื่น ๆ ของตัวรถ เพราะเครื่องยนต์ประกอบด้วยโลหะหลายชนิด แถมมีชิ้นส่วนพลาสติก ยาง ฯลฯ มากมาย ห้องเครื่องทำความสะอาดแค่ใช้ลมเป่าฝุ่นออกหรือใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดก็พอ ไม่ควรพ่นน้ำยาเคลือบใด ๆ ทั้งสิ้น

          การล้างห้องเครื่องเป็นสิ่งที่ ควรหลีกเลี่ยง แต่ไม่ใช่ว่าไม่ล้างเลย อย่างมากล้างปีละครั้งหลังหมดหน้าฝน หรือล้างหลังจากซ่อมเครื่องมาก็ได้

          การล้างห้องเครื่องนั้นคุณต้องมีเวลาว่างพอ และร้านที่จะทำต้องมีความรับผิดชอบพอ การล้างห้องเครื่องที่ถูกต้องนั้น

          1.    ต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นเสียก่อน เย็นขนาดที่ว่าเอามือจับท่อไอเสียได้นั่นแหละ

          2.    ต้องไม่ใช้น้ำแรงดันสูงฉีดล้างโดยเด็ดขาด การล้างที่ถูกต้องคือใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องเครื่องฉีดพ่นจะเป็นแบบสเปรย์ กระป๋อง ใช้ฟ็อกกี้ หรือใช้กาพ่นสีพ่นก็ได้ จากนั้นใช้แปรงไนลอนขัดความสะอาด


          น้ำยาบางตัวจะระบุเลยว่าให้ใช้น้ำใส่ฟ็อกกี้หรือกาพ่นสี พ่นทำความสะอาดซ้ำ แล้วใช้ลมเป่าให้แห้ง ใช้ผ้าเช็ดเพิ่มเติม แค่นี้พอแล้วสำหรับห้องเครื่องยนต์

          ทำไมต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นก่อนและไม่ควรใช้น้ำแรงดันสูงฉีด นั่นเพราะว่าชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นฝาสูบ เกียร์ท่อไอเสีย และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เมื่อเครื่องทำงาน ความร้อนจากเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ โลหะต่างชนิดกัน เมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวไม่เท่ากัน ถ้าล้างห้องเครื่องขณะเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ จะทำให้โลหะเกิดการเย็นตัวอย่างรวดเร็ว การเย็นตัว เพราะโดนน้ำเย็นปริมาณมาก ๆ ทำให้ชิ้นส่วนหดตัวอย่างรวดเร็ว โลหะต่างชนิดกันหดตัวต่างกัน มีโอกาสทำให้เสื้อสูบ ฝาสูบ ท่อไอเสีย แตกร้าวได้ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอยล์ ฯลฯ ก็อาจลัดวงจรได้ง่าย และการใช้น้ำแรงดันสูงอาจจะทำให้ชิ้นส่วนพลาสติก ยาง เสียหายได้ด้วย

          การดูแลรักษารถยนต์จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็เลือกพิจารณาให้ถี่ถ้วนเหมาะสม ถือว่าเป็นการใช้งานอย่างคุ้มค่าอีกทางหนึ่งด้วย

          Did You Know?

          แต่ค่าใช้จ่ายในการเคลือบแก้วค่อนข้างสูง เริ่มต้นในรถเล็กก็ต้องมีหมื่นบาทเศษ ๆ ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจ แต่ดูแลกันยาวนานถึง 3 ปีก็มีเจ้าของรถต้องลองเปรียบเทียบดูกับการเคลือบสีปกติ ถ้า 1 ปีต้องใช้เงินดูแลรักษาสีรถตั้งแต่ 5,000-8,000 บาทขึ้นไป สู้รวมเงินเอามาทำเคลือบแก้วจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ GM CAR
Vol.18 No.237 เมษายน 2556



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก aeracingclub.net , facebook Speed-Wrap-Car-UD , thaimazda3.com , accautocar.com , tsmotor.co.th เเละ carcarecentre.in.th








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดูแลรักษาสีรถให้สดสวย อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2564 เวลา 10:30:58 24,757 อ่าน
TOP
x close