Honda HR-V ใหม่ เปิดตัวในยุโรป ปรับดีไซน์ภายนอก-ภายใน เพิ่มอุปกรณ์ และสีตัวถังใหม่ รวมถึงปรับปรุงการป้องกันเสียงรบกวนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไทยลุ้นอัปเดตปลายปี
Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดซับคอมแพกต์เปิดตัวรุ่นปรับโฉมในยุโรป เปลี่ยนดีไซน์ภายนอก-ภายในใหม่เล็กน้อยเหมือนเวอร์ชั่นญี่ปุ่น รวมถึงปรับอุปกรณ์ สีตัวถัง ปรับปรุงคุณภาพให้ห้องโดยสารมีการรบกวนของเสียงและแรงสั่นสะเทือนน้อยลงเพื่อความสบายในการเดินทาง ส่วนไทยต้องรอลุ้นอัปเดตช่วงปลายปีนี้
Honda HR-V ดีไซน์ภายนอก
Honda HR-V ใหม่ ได้รับการปรับดีไซน์ด้านหน้าให้คมเข้มขึ้นด้วยแถบกระจังหน้า Crytal Black และโคมไฟหน้ารมดำ มีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติตั้งแต่รุ่นกลางขึ้นไป รวมถึงกันชนหน้าเปลี่ยนวัสดุตกแต่งสีดำเงา High-gloss Black ขณะที่ด้านท้ายยังใช้แถบไฟ LED lightbar ทรงเดิม แต่เปลี่ยนรายละเอียดภายในดวงโคมใหม่เป็นเส้นไฟแนวนอน 2 แถบบนพื้นสีดำ ส่วนสีตัวถังใหม่ที่เพิ่มเข้ามา สำหรับฝั่งยุโรปจะมี 3 สี คือ สีเขียว Sage Green, สีฟ้า Seabed Blue และสีเทา Urban Grey
Honda HR-V ดีไซน์ภายใน
ทางด้านภายในมีการปรับบางจุดเพียงเล็กน้อย เช่น คอนโซลกลาง ให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารใช้งานที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สายได้ง่ายขึ้นด้วยการลดสันขอบด้านข้างฝั่งผู้โดยสารลง วัสดุตกแต่งเป็นสีดำเงา High-gloss piano black พร้อมเดินเส้นไฟ Ambient Light ช่วยสร้างบรรยากาศ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเทคโนโลยี NVH ที่ช่วยลดเสียง แรงสั่นสะเทือน และความกระด้าง ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเพื่อให้เดินทางได้สบายกว่าเดิม
Honda HR-V เครื่องยนต์และสมรรถนะ
Honda HR-V ในยุโรปทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริด e:HEV ที่ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลัง 107 แรงม้า และแรงบิด 131 นิวตันเมตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 131 แรงม้า และแรงบิด 253 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ทำความเร็วได้สูงสุด 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งมีความแตกต่างจากไทยแค่เล็กน้อย
Honda HR-V เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบความปลอดภัยที่เป็นไฮไลต์ของ Honda HR-V ใหม่ ยังคงเป็นการติดตั้ง Honda SENSING ที่มีการปรับปรุงระบบกล้องใหม่เป็นแบบ Multi View Camera รวมถึงการปรับปรุงระบบ Traffic Jam Assist ที่ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และเพิ่มระบบช่วยขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม Honda HR-V 2025 ใหม่ สำหรับประเทศไทย คาดว่าจะมีการอัปเดตภายในปลายปีนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินช่วงต้นปีหน้า ด้วยดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นยุโรป โดยที่ในส่วนของเทคโนโลยี e:HEV ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
บทความที่เกี่ยวข้องกับรถใหม่ 2024
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : hondanews.eu