Stelato S9 รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์จาก Huawei และ BAIC ของจีน เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาพร้อมฟีเจอร์ไฮเทคและความหรูหรา ในราคาครึ่งเดียวของรถยนต์ไฟฟ้ายุโรป
Stelato S9 (สเตลาโต เอส 9) รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลาง ตัวถัง 4 ประตู ซีดาน ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างแบรนด์ Huawei และ BAIC Group เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่จีน โดยวางตำแหน่งเป็นรถหรูระดับไฮเอนด์ ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ฟีเจอร์ไฮเทคโนโลยี และระบบช่วยขับขี่ระดับสูงโดย Huawei เทียบชั้น BMW i7 และ Mercedes-EQS
Stelato S9 ดีไซน์ภายนอกและอุปกรณ์
Stelato S9 มาในสไตลิ่งของรถยนต์ซีดาน 4 ประตู 5 ที่นั่ง บนแนวคิด Inside out ที่พยายามให้เกิดพื้นที่ใช้สอยภายในสูงสุด โดยอาศัยประโยชน์จากแพลตฟอร์มสเกตบอร์ด และการออกแบบภายนอกให้ห้องโดยสารขยับมาด้านหน้า ทำให้สัดส่วนตัวรถมีรูปทรงแบบ Monoform ดูสปอร์ตด้วยแนวหลังคาลาดไปจนเกือบสุดท้ายรถ รวมถึงบานประตูไร้กรอบกระจก กระจกมองข้างเป็นกล้องแสดงผลผ่านจอภายในรถ
นอกจากนี้ Stelato S9 ยังให้ความรู้สึกหรูด้วยพื้นผิวที่เรียบ สบายตา การตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียม และล้ออัลลอยลายซี่ถี่แบบปัดเงา ซึ่งมี 2 ขนาดสำหรับ 2 รุ่นย่อย คือ Ultra มีทั้งขนาด 20 และ 21 นิ้ว ขณะที่รองลงมาอย่าง Max มีเฉพาะ 20 นิ้ว ส่วนมิติตัวถังมีความยาว 5,160 มม. กว้าง 1,987 มม. สูง 1,486 มม. ความยาวฐานล้อ 3,050 มม. ใกล้เคียงกับ BMW i5 และเล็กกว่า BMW i7 รวมถึง Mercedes-EQS อยู่เล็กน้อย
Stelato S9 ดีไซน์ภายในและอุปกรณ์
ภายในห้องโดยสารคือหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของ Stelato S9 เพราะได้รับการออกแบบมาให้เทียบชั้นกับรถหรูขนาดใหญ่ฝั่งยุโรป ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใช้สอยภายใน รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไฮเทค เช่น กระจกสองชั้นแบบมีฉนวนกันเสียง กันความร้อนรอบคัน เบาะนั่งลดแรงกดทับ เบาะหลังแยกปรับเอนนอนพร้อมที่รองขา โต๊ะพับพร้อมหน้าจอควบคุมส่วนตัวที่ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4
นอกจากนี้ผู้โดยสารตอนหลังจะมีจอเลเซอร์โปรเจกเตอร์ (Laser Projection System) ขนาด 32 นิ้ว ช่องแช่ร้อน-เย็นบริเวนคอนโซลกลาง ม่านไฟฟ้า ส่วนวัสดุหุ้มเบาะนั่งเป็นหนัง Nappa มีระบบกรองอากาศ ตลอดจนระบบปล่อยกลิ่นหอมภายในรถ มี 3 กลิ่น คือ Cheering Rose, Focus Forest และ Serenity Musk ระบบเสียงเป็นของ Huawei Sound ลำโพง 23 จุด
Stelato S9 ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะ
Stelato S9 มีระบบขับเคลื่อน 2 แบบ แตกต่างกันไปใน 2 รุ่นย่อย ดังนี้
-
Stelato S9 รุ่น Max
ติดตั้งมอเตอร์เดี่ยว จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 100 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 308 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 396 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง ระยะทางวิ่งสูงสุด 816 กิโลเมตร (CLTC)
- Stelato S9 รุ่น Ultra
ติดตั้งมอเตอร์คู่ จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 100 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอเตอร์ให้กำลังสูงสุด ด้านหน้า 214 แรงม้า ด้านหลัง 308 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด ด้านหน้า 277 นิวตันเมตร ด้านหลัง 396 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ระยะทางวิ่งสูงสุด 721 กิโลเมตร (CLTC)
โดยทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จไฟกระแสตรงสูงสุดได้ 800 โวลต์ ซึ่งใช้เวลาชาร์จไฟจาก 30-80% ได้ภายในเวลา 15 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาที ก็จะวิ่งได้ไกลถึง 200 กิโลเมตร
Stelato S9 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
Stelato S9 มาพร้อมระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันรอบตัวรถ ด้วยระบบหลีกเลี่ยงการชนรอบทิศทาง CAS (collision avoidance system) เวอร์ชั่น 3.0 และระบบช่วยขับขี่ ADS (Advance Driving System) เวอร์ชั่น 3.0 ทำงานโดยอาศัยเรดาร์ 15 ตัว ไลดาร์ 1 ตัว และกล้องความละเอียดสูง 11 ตัว นอกจากนี้ยังติดตั้งถุงลม 5 จุด รอบคัน ระบบกันสะเทือนเป็นแบบสปริงลม พร้อมระบบควบคุมโช้คอัพให้แปรผันตามสภาพถนนด้วยสมองกล ซึ่งช่วยให้เกิดความสบายตลอดการเดินทางในทุกความเร็วและทุกสภาพพื้นผิว
Stelato S9 มีกี่สี
Stelato S9 มีสีตัวถังภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่
-
สีขาว Ceramic White
-
สีดำ Gilded Black
-
สีเทา Space Grey
-
สีน้ำตาล Star Gold
-
สีแดง Universal Red
Stelato S9 ราคาจำหน่าย
-
Stelato S9 รุ่น Max ราคา 399,800 บาท (ประมาณ 1.97 ล้านบาท)
-
Stelato S9 รุ่น Ultra ราคา 449,800 บาท (ประมาณ 2.22 ล้านบาท)
เปรียบเทียบ Stelato S9 กับรถรุ่นอื่น ๆ
หากเทียบด้วยมิติตัวถัง Stelato S9 จะอยู่ในเซกเมนต์เดียวกับ BMW i5 รวมถึง Mercedes-EQE ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทร่วมทุนกับ BAIC Group เพื่อจำหน่ายรถ Mercedes-Benz ในจีน แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เทียบชั้นกับรุ่นที่ใหญ่กว่าอย่าง BMW i7 หรือ Mercedes-EQS เช่น เบาะหลังแยกซ้าย-ขวาปรับเอนนอนได้ ระบบความบันเทิงส่วนตัว แต่วางจำหน่ายในราคาถูกกว่าประมาณครึ่งหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าหรูรุ่นใหญ่สุดของยุโรป