เปิดเรื่องราว BRIDGESTONE กับวงการมอเตอร์สปอร์ตที่คุณอาจไม่เคยรู้

เปิดเรื่องราวมอเตอร์สปอร์ตของ BRIDGESTONE ในโลกแห่งความเร็วที่ขับเคลื่อนวงการยานยนต์ด้วยเทคโนโลยีจากการแข่งขันในสนามซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้

bridgestone

เชื่อหรือไม่ว่ารถยนต์ที่เราใช้งานในชีวิตประจำวันนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากมอเตอร์สปอร์ตมาตั้งแต่อดีตที่ผลักดันให้รถยนต์วิ่งได้เร็ว ทนทาน มีขีดจำกัดสูงขึ้น และ BRIDGESTONE คือหนึ่งในผู้ผลิตยางรถยนต์ที่ใช้วงการการแข่งขันเพื่อพิสูจน์ศักยภาพมาเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษ พร้อมกับสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านความเร็ว ความปลอดภัย จนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากทุกสนามแข่งรวมถึงผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลก ส่วนเส้นทางมอเตอร์สปอร์ตของ BRIDGESTONE จะมีความเป็นมาอย่างไร ไปดูกัน 

มอเตอร์สปอร์ตคืออะไร

มอเตอร์สปอร์ต คือ การแข่งขันความเร็วของยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่การแข่งขันทางบกอย่างรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่รวมไปถึงการแข่งขันทางน้ำอย่างเรือ และการแข่งขันทางอากาศด้วยเครื่องบินนั้นก็จัดว่าเป็นมอเตอร์สปอร์ตด้วยกันทั้งสิ้น

มอเตอร์สปอร์ตกับรถยนต์เริ่มต้นเมื่อไหร่

การแข่งรถยนต์ครั้งแรกของโลกเกิดขึ้นเมื่อปี 1884 ในประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นรถยนต์ไอน้ำ 4 ล้อ ที่ใช้ถ่าน ไม้ และกระดาษ เป็นเชื้อเพลิงวิ่งไป-กลับระหว่างเมืองปารีส-แวร์ซาย ด้วยความเร็วเฉลี่ยราว 25.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่การแข่งขันรถยนต์ที่เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันจริง ๆ เกิดขึ้นในปี 1894 มีทั้งรถยนต์ไอน้ำและเครื่องยนต์สันดาปภายใน วิ่งจากปารีสไปรูอ็อง เพื่อหารถที่น่าพึงพอใจมากที่สุด คือ เดินทางได้อย่างปลอดภัย ควบคุมง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย

ซึ่งการแข่งขันในครั้งนั้น กลุ่มรถยนต์ไอน้ำจบการแข่งขันเป็นอันดับสุดท้าย ทำให้การแข่งขันปารีส-บอร์โด-ปารีส ระยะทาง 1,178 กิโลเมตร ในปีถัดมา มีเพียงรถยนต์สันดาปภายในที่ผ่านรอบการคัดเลือก ต่อมาฝรั่งเศสในฐานะผู้ริเริ่มการแข่งขันรถยนต์ได้จัดตั้งเป็นสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ หรือ FIA เพื่อดูแลการจัดการแข่งขันรถยนต์ระดับนานาชาติ

ในยุคแรกเริ่ม มอเตอร์สปอร์ตของแต่ละประเทศแข่งขันกันโดยวิ่งระหว่างเมือง ขยับเป็นขับแข่งขึ้นเขา (Hill Climb) และวิ่งรอบเมืองบนถนนเปิด ซึ่งได้รับความนิยมมาก เพราะน่าตื่นเต้น แต่เสี่ยงอันตราย เช่น Targa Florio, Mille Miglia, Le Mans รวมถึง Tourist Trophy ทำให้หลายรายการต้องโดนแบนหรือยกเลิกไปในที่สุด เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง

bridgestone

ขณะเดียวกันจึงเกิดสนามปิด รวมถึงสนามสร้างสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ เช่น Daytona Beach ที่วิ่งบนชายหาดก่อนจะมาเป็นเซอร์กิตวิ่งวนในวงรี หรือสนามที่โด่งดังมากอย่างนูร์เบอร์กริง ซึ่งพัฒนาต่อยอดไปสู่การแข่งขัน Grand Prix โดยไทยเคยจัด Bangkok Grand Prix ในปี 1939 ด้วยเช่นกัน แต่ตรงกับช่วงเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่มีการแข่งขันจริงเกิดขึ้น จนปัจจุบัน Grand Prix ได้เปลี่ยนมาเป็นรายการ Formular 1 หรือ F1 ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม มอเตอร์สปอร์ตรายการต่าง ๆ ล้วนก่อให้เกิดการพัฒนาของรถยนต์อย่างรวดเร็วในทุกส่วน เพื่อให้มีสมรรถนะสูงขึ้นทั้งในแง่ความเร็วและความทนทาน ตามรูปแบบการแข่ง เช่น Rally, Endurance รวมถึงทางเรียบระยะสั้นในสนามปิด ที่มีทั้งรถสูตร 1 หรือ F1 (รถแข่งล้อเปิด) รถสปอร์ตโปรโตไทป์ (รถแข่งล้อปิด) รวมถึงรถกลุ่มต่าง ๆ จนในที่สุดเทคโนโลยีเหล่านั้นถูกนำมาใช้กับรถยนต์ทั่วไป เช่น ระบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด ระบบอัดอากาศ วัสดุน้ำหนักเบา การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ แน่นอนว่ารวมถึงส่วนสำคัญอย่างยางรถยนต์

bridgestone

BRIDGESTONE กับวงการมอเตอร์สปอร์ต

BRIDGESTONE ในฐานะผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1931 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย มร.โชจิโร อิชิบาชิ ซึ่ง อิชิบาชิ ในภาษาญี่ปุ่นแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Stone Bridge จึงกลายเป็นที่มาของแบรนด์ BRIDGESTONE จากการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นในขณะนั้นทำให้ BRIDGESTONE กลายเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่สุดในประเทศ

การเข้าร่วมมอเตอร์สปอร์ตของ BRIDGESTONE ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1963 ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กับการแข่งขันรถสปอร์ต Japanese Grand Prix ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นมอเตอร์สปอร์ตในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ด้วยยางรถยนต์สำหรับสนามแข่ง 2 รุ่น คือ RAC และ RAD

bridgestone

นับตั้งแต่นั้นมา BRIDGESTONE ได้พัฒนายางรถแข่งสำหรับการแข่งขันรายการต่าง ๆ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็น Le-Mans 24 Hour ที่เน้นความทนทาน เพราะต้องวิ่งยาวต่อเนื่อง จนถึงยุค F1 ในปี 1976 ที่แข่งด้านสมรรถนะบนความเร็วสูง หลังจากนั้น ปี 1979 BRIDGESTONE ได้เปิดตัวยางรถยนต์รุ่นใหม่ โดยใช้ชื่อเป็นภาษาอิตาเลียนว่า Potenza เพื่อสื่อถึงความทนทานและประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ต่อมาปี 1988 BRIDGESTONE ได้ก้าวเข้าสู่สังเวียนมอเตอร์สปอร์ตโลกอีกหลายรายการมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขัน BRIDGESTONE World Solar Challenge เพื่อความยั่งยืนด้านพลังงาน

bridgestone

เทคโนโลยีและนวัตกรรมของยางรถยนต์ BRIDGESTONE

นอกเหนือจากประสิทธิภาพในการขับขี่ BRIDGESTONE ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของพลังงาน ด้วยเทคโนโลยี Enliten (เอ็นไลท์เทน) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ช่วยให้ยางรถยนต์มีน้ำหนักเบาและต้านการหมุนต่ำเป็นพิเศษ ลดการสึกหรอ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง อีกทั้งยังลดการใช้ทรัพยากร วัตถุดิบ และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ทั้งนี้ เทคโนโลยี Enliten ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลัก จะถูกนำไปใช้กับยางรถยนต์ตระกูลต่าง ๆ เช่น POTENZA, TURANZA, ECOPIA และ ALENZA ของ BRIDGESTONE ที่ให้ความคล่องตัวในการขับขี่ กินกำลังเครื่องยนต์น้อย นำไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยยังคงความเพลิดเพลินในการขับขี่รวมอยู่ด้วย

BRIDGESTONE POTENZA ยางรถยนต์เทคโนโลยีสนามแข่ง

BRIDGESTONE ถ่ายทอด DNA จากยางมอเตอร์สปอร์ตมาสู่ยางรถยนต์สำหรับการใช้งานจริงอย่างตระกูล POTENZA นับตั้งแต่ BRIDGESTONE POTENZA RE47 เปิดตัวในปี 1979 และพัฒนาต่อเนื่องมาสู่ BRIDGESTONE POTENZA Adrenalin RE004 รุ่นล่าสุด ที่ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติด้านการยึดเกาะถนน และตอบสนองต่อการควบคุมของพวงมาลัยได้แม่นยำ เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าบนถนนเปียกหรือแห้ง โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 15 ไปจนถึง 20 นิ้ว

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : bridgestone.co.th

bridgestone

นอกจากนี้ BRIDGESTONE POTENZA ยังมียางสำหรับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง BRIDGESTONE POTENZA SPORT ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ตโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถถ่ายทอดกำลังทั้งหมดให้ลงสู่พื้นได้อย่างเต็มที่ ให้การยึดเกาะสูงบนทางตรงและทางโค้ง รวมถึงการหยุดรถบนถนนแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จนได้รับเลือกให้เป็นยางติดรถสำหรับซูเปอร์คาร์หลายยี่ห้อ เช่น Lamborghini, Ferrari, Aston Martin และ Maserati เป็นต้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : bridgestone.co.th

bridgestone

นอกจากความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่หลายคนชื่นชอบแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวงการมอเตอร์สปอร์ตเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีจากสนามแข่งของ BRIDGESTONE ได้ถูกนำมาปรับใช้กับยางรถยนต์ที่จำหน่ายสำหรับรถยนต์ที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน และไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอย่างที่คิด

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : bridgestone.co.th และ ms.bridgestone.co.jp

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดเรื่องราว BRIDGESTONE กับวงการมอเตอร์สปอร์ตที่คุณอาจไม่เคยรู้ อัปเดตล่าสุด 16 กรกฎาคม 2567 เวลา 17:39:26 13,608 อ่าน
TOP