รีวิว BYD 4 รุ่นใหม่ หลังทดลองขับ พร้อมสเปกก่อนเปิดตัวในไทย

ทดลองขับ BYD Atto 3 2024 กรุงเทพฯ - พัทยา และสัมผัสสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า BYD 4 รุ่นใหม่ ก่อนเปิดตัวในไทย พร้อมสเปกเบื้องต้นกับทริป BYD Rever Social Club

byd

ลองขับ BYD Atto 3 2024 กรุงเทพฯ - พัทยา กับทริป BYD Rever Social Club พร้อมสัมผัสสมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก BYD อีก 4 รุ่น ทั้ง BYD Sealion 7 สปอร์ต SUV ไฟฟ้าทรงคูเป้ BYD Seagull ซิตี้คาร์ไฟฟ้าราคาประหยัด BYD Denza 9 รถ MPV พรีเมียม 7 ที่นั่ง และรถครอบครัวแบบ MPV 6 ที่นั่ง บนสนามพีระเซอร์กิต ก่อนทำตลาดจริงในไทย 

นับเป็นครั้งที่เราได้มีโอกาสสัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD อย่างจริงจังและไกลสุด แม้จะเป็นทริปสั้น ๆ ของ BYD Rever Social Club ร่วมกับสื่อมวลชนสายไลฟ์สไตล์และ IT จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่สนามพีระเซอร์กิต ด้วย BYD Atto 3 2024 และ BYD Dolphin เพื่อสัมผัสสมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่เตรียมทำตลาดในไทย 4 รุ่น ทั้ง BYD Seagull, BYD M6, BYD Sealion 7 และ BYD Denza 9 พร้อมสเปกคร่าว ๆ ว่ารถเหล่านี้น่าสนใจแค่ไหน ซึ่งเราจะมาเล่าให้ฟัง

เริ่มทริปด้วย BYD Atto 3 2024

หลังจากเก็บสัมภาระรวมกับผู้ร่วมทดสอบอีก 3 ท่านที่จะเดินทางเรียบร้อย ท้ายรถ BYD Atto 3 2024 ก็เต็มแน่นพอดี และทันทีที่ฝาท้ายไฟฟ้าค่อย ๆ ปิดสนิท เราก็เริ่มพาเจ้า BYD Atto 3 2024 เดินทางจากจุดเริ่มต้นแถวบางนาขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ด้วยปริมาณแบตเตอรี่ที่ทาง BYD ชาร์จเตรียมไว้แล้วที่ 95% จึงไม่ต้องกังวลอะไรมากมายและใช้ความเร็วเหมือนการขับรถยนต์ทั่วไป โดยทีมงาน BYD ตั้งโหมด Regeneration ไปที่ Standard ตั้งแต่แรก

สิ่งแรกที่สัมผัสจากรถยนต์ไฟฟ้าได้ทันทีเลยคือความเงียบของห้องโดยสาร ตลอดการเดินทางจะได้ยินแค่เสียงแอร์ ยางบดไปตามสภาพพื้นถนน และลมปะทะ สลับกับเสียงสนทนาของผู้ร่วมทริปเป็นระยะ ๆ เท่านั้น แน่นอนว่ามันไม่มีเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์ ที่สำคัญคือมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดแบบ Instant Torque ใน BYD Atto 3 2024 นั้นเป็นไปอย่างสุภาพราบรื่น…แต่เร็ว !

BYD Atto 3 2024

ถ้าจะว่าไปแล้ว BYD Atto 3 2024 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่เน้นขับง่ายมากกว่าความสปอร์ต สิ่งที่เราพบคือพวงมาลัยถูกเซตไว้ขับแบบสบาย ๆ เนื่องจากมันไม่ได้คมกริบหรือแม่นยำทุกกระเบียดนิ้ว

เพราะเมื่อไหร่ที่อยากจะมุดซ้าย มุดขวา การตอบสนองแชสซีส์ของ BYD Atto 3 2024 ไม่ได้คล่องแคล่วจ๋าตามพวงมาลัยขนาดนั้น แม้จะมีแบตเตอรี่วางใต้พื้นรถที่ทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ซึ่งทำให้เรารู้สึกได้ถึงน้ำหนักมากกว่า กับช่วงล่างที่นุ่มโยน รวมถึงขณะแล่นผ่านรอยต่อของถนน แทนที่จะเป็นแบบหนักแน่นและกระชับ

แต่หากขับในทางตรงด้วยความเร็วเดินทางปกติ BYD Atto 3 2024 นับว่าเป็นรถที่นิ่ง นั่งได้สบาย ด้วยช่วงล่างนุ่มนวล ไม่เหน็ดเหนื่อย มากกว่าที่จะเป็นรถ SUV ไฟฟ้าแนวขับสปอร์ต และหลังจากที่เรากำลังเพลิดเพลินกับการเร่งความเร็วด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่เรียกปุ๊บมาปั๊บแบบเงียบ ๆ บนความเร็วเฉลี่ย 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็มาถึงจุดพักรับประทานอาหารกลางวันและสลับรถตรงตลาดหัวกุญแจ อำเภอบ้านบึง

ตรงนี้ BYD Atto 3 2024 ป้ายแดงของเราเหลือแบตเตอรี่อยู่ 65% หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จต้องย้ายไป BYD Dolphin โดยสลับให้สื่อท่านอื่นเป็นผู้ขับ และเปลี่ยนเป็นผู้โดยสารในเบาะหลังแทน ซึ่งกว้างขวางในระดับพอ ๆ กับรถขนาดคอมแพกต์

แต่ปัญหาอยู่ตรงส่วนสัมภาระที่พอดีใน BYD Atto 3 2024 กลับไม่พอดีและล้นสำหรับเจ้า BYD Dolphin จนแผงบังสัมภาระปิดไม่ลง เลยต้องปล่อยให้บังกระจกหลังไปอย่างนั้น จริง ๆ ไม่ได้เป็นความผิดของรถขนาดค่อนข้างเล็กและจะต้องยัดของลงไปเยอะแบบไม่มีทางเลือก แต่จากจุดนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงสนามพีระเซอร์กิตเพื่อลองสมรรถนะ 4 รถใหม่ของ BYD แล้วเสียที

ทดลองขับ BYD Denza 9 ห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่

หลังจากทีมงานบรีฟข้อมูลรถรุ่นใหม่ของ BYD ครบทั้ง 4 รุ่น รวมถึงฟังคำแนะนำจาก Instructor ของ BYD เราเป็นกลุ่มแรกที่ได้ลงไปสัมผัสคันจริงกันบนสนามพีระเซอร์กิต ซึ่ง BYD Denza 9 คือรถรุ่นแรกที่เราได้มีโอกาสทดลองขับก่อน โดยยังเป็นแบบพวงมาลัยซ้าย และตำแหน่งคนขับอาจไม่ใช่ที่ที่ดีที่สุดในรถคันนี้ก็ตาม แต่ความพรีเมียมนั้นทั่วถึง ในขณะที่กำลังดูรายละเอียดการตกแต่งได้เพียงอึดใจเดียว Instructor ก็ส่งเสียงบอกให้เข้าเกียร์ D หรือหมายถึงรีบออกรถไปได้แล้วด้วยเวลาอันจำกัด

BYD Denza 9

เพียงอึดใจ BYD Denza 9 ก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและสุภาพในแบบรถใหญ่ เรียกว่าเหลือเฟือจนอยากจะกดคันเร่งไปเรื่อย ๆ เกาะไปตามโค้งของสนามพีระเซอร์กิต แล้วเราก็ลองทำอย่างนั้น ซึ่งแน่นอนว่า BYD Denza 9 ออกอาการนุ่ม ยวบ และ Understeer ตลอดเวลาสำหรับการขับที่ไม่ปกติ หรือเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมากเกินไป 

BYD Denza 9

เข้าใจว่าเพราะ BYD Denza 9 รถ MPV พรีเมียมขนาดใหญ่ ไม่ได้เป็นรถถูกออกแบบมาเพื่อขับอย่างรุนแรงในสนาม แต่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบควบคุมต่าง ๆ ในรถยุคใหม่ ไม่ยากที่จะทำให้คนขับรู้สึกเก่ง มั่นใจว่าทุกอย่างควบคุมได้ เรารู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน เพียงแต่ระบบช่วยเหลือในรถช่วยไว้ บนแทร็กที่กว้าง ไม่ใช่ฝีมือ สรุปคือ ในการทดสอบรอบนี้ไม่มีใครได้นั่งสบาย แม้แต่ผู้ร่วมทดสอบบนเบาะแถว 2 แบบ Excutive Lounge ก็ตาม

สำหรับสเปกของ BYD Denza 9 นั้น ติดตั้งมอเตอร์คู่บนเพลาหน้า-หลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 368 แรงม้า และแรงบิด 470 นิวตันเมตร เร่งจาก (สเปกจากผู้ผลิต) 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 6.9 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC)  

BYD Sealion 7 ว่าที่สปอร์ต SUV ตัวตึง 523 แรงม้า

  ถ้าจะให้นิยามคงเป็น BYD Seal ร่างสองที่อเนกประสงค์กว่า ตำแหน่งการขับขี่สูงขึ้น มองเห็นได้ชัดเจน และถึง Sealion จะพ่วงท้ายด้วยเลข 7 แต่ติดตั้งเบาะนั่งมาเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจคือความแรงของ BYD Sealion 7 ที่มีกำลังสูงถึง 523 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร ตามสเปกจาก BYD เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.5 วินาที และเมื่อเหยียบคันเร่งจนสุดจะรู้สึกถึงแรง G ได้จากแผ่นหลังที่ถูกดันติดกับเบาะรถอย่างหนัก สักพักพวงมาลัยจะเริ่มเบามือขึ้นมากจากการถ่ายน้ำหนักไปอยู่ด้านหลังอย่างรุนแรง

แรงจนรู้สึกแวบขึ้นมาว่า BYD Sealion 7 อาจแรงเกินความจำเป็นต่อการใช้งาน ต่างจากความพอดีของ BYD Atto 3 2024 ในแง่ของสมรรถนะแบบไม่มากไปน้อยไป แต่เท่าที่ได้สัมผัสช่วงสั้น ๆ ช่วงล่างของ BYD Sealion 7 ถูกเซตมาให้กระชับกว่า ถึงพวงมาลัยก็ยังคงเน้นสบายไม่ได้แม่นยำหรือรู้สึกตรงไปตรงมาอยู่ดี แต่ถ้า BYD Atto 3 มีขนาดเล็กเกินไป Sealion 7 จะนั่งได้สบายรวมถึงมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุดทำได้ 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC)

BYD Sealion 7

BYD Sealion 7

BYD M6 และ BYD Seagull จ่อคิวทำตลาดในไทย

ด้วยเวลาที่ค่อนข้างจำกัดและจำนวนสื่อที่ร่วมทริป BYD Rever Social Club ทำให้ไม่ได้ทดลองขับรถครอบครัวแบบ MPV ขนาดคอมแพกต์ 6 ที่นั่ง อย่าง BYD M6 แต่รับบทเป็นผู้โดยสารแถว 3 แบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งคนที่สูง 177 เซนติเมตร ยังสามารถนั่งได้สบาย โดยมีที่วางขาเหลือมากพอ แต่อาจอึดอัดเรื่องพื้นที่ส่วนบน เนื่องจากช่องหน้าต่างน้อย ความทึบมากเท่านั้น และเป็นเรื่องปกติของรถ MPV กลุ่มคอมแพกต์

BYD M6

byd M6

ขณะที่ใน BYD Seagull เป็นซิตี้คาร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ความยาวไม่เกิน 4 เมตร มีห้องโดยสารโปร่งโล่ง แม้ในเบาะผู้โดยสารตอนหลังที่ถูกออกแบบไว้สำหรับ 2 คน แต่มีเข็มขัดนิรภัย 3 จุด ไม่มีพนักพิงศีรษะกลาง หากนั่ง 3 คนจะรู้สึกเบียด ยกเว้นเดินทางในระยะสั้น ๆ ไม่น่าจะเป็นปัญหามากนัก เพราะผู้ร่วมทดสอบทั้ง 3 คนบนเบาะหลังตัวไม่น้อย และ BYD Seagull เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้การขับขี่เบา คล่องแคล่ว จากการบอกเล่าของผู้ทดลองขับ

BYD Seagull

BYD Seagull

BYD Seagull

BYD Seagull

สำหรับสเปก BYD M6 จะเป็นรถครอบครัวอเนกประสงค์แบบ MPV ขนาดคอมแพกต์ รองรับผู้โดยสารได้ 6 ที่นั่ง ความยาว 4,710 มม. กว้าง 1,810 มม. สูง 1,690 มม. ความยาวฐานล้อ 2,800 มม. กำลัง 201 แรงม้า และแรงบิด 310 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC) ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ BYD Intelligent Driving System

ส่วน BYD Seagull รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู จะมีความยาว 3,780 มม. กว้าง 1,715 มม. สูง 1,540 มม. ความยาวฐานล้อ 2,500 มม. กำลังสูงสุด 73 แรงม้า และแรงบิด 135 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 13 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC)

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำหนดเวลาเปิดตัวของรถแต่ละรุ่น ทาง BYD ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะทำตลาดในไทยทั้งหมด เพราะ BYD Denza 9 ถูกนำมาโชว์ตัวล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ BYD M6 และ BYD Sealion 7 จะมีราคาต่ำกว่า BYD Seal คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ ส่วน BYD Seagull เบื้องต้นราคาคาดการณ์ประมาณ 500,000 บาท กำหนดเปิดตัวอาจเป็นช่วงปลายปีนี้

บทความที่เกี่ยวข้องกับรถใหม่ 2024

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : reverautomotive.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีวิว BYD 4 รุ่นใหม่ หลังทดลองขับ พร้อมสเปกก่อนเปิดตัวในไทย อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2567 เวลา 15:57:19 18,913 อ่าน
TOP
x close