Mercedes-Benz GLC 2023 โฉมใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV ขนาดคอมแพกต์ 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน ปลั๊กอินไฮบริด 313 แรงม้า วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกล 120 กิโลเมตร ราคา 4,180,000 บาท
Mercedes-Benz GLC 2023 (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี 2023) รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียมแบบ SUV ขนาดคอมแพกต์ 5 ที่นั่ง โฉมใหม่ ที่ให้อรรถประโยชน์ในการจัดเก็บสัมภาระ พร้อมความสบายในการเดินทางสำหรับใช้งานในเมืองหรือเดินทางไกล ด้วยช่วงล่างหลังแบบสปริงลม ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กระจกลดเสียงรบกวน รวมถึงติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง สามารถวิ่งไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลสูงสุด 120 กิโลเมตร โดยเบื้องต้นมีให้เลือกรุ่นเดียว คือ Mercedes-Benz GLC 350e 4MATIC AMG Dynamic ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 6 สี
Mercedes-Benz GLC 2023 ดีไซน์ภายนอก
Mercedes-Benz GLC 2023 โฉมใหม่ ดูเป็นรถ SUV ที่มีสไตลิ่งคล้ายรถยนต์นั่ง โดยสัดส่วนดูแบนเตี้ยมากขึ้นภายใต้ทิศทางการออกแบบเดิมของ Mercedes-Benz เพิ่มความโค้งมนมากขึ้นบนตัวถังที่มีความยาว 4,721 มม. กว้าง 1,918 มม. สูง 1,631 มม. ระยะฐานล้อ 2,888 มม. ใหญ่กว่ารุ่นเดิมอยู่เล็กน้อยในทุกมิติ
ส่วนชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่เป็น Digital Light ปรับไฟสูงอัตโนมัติ ไฟท้ายแนวนอนทรงแคบลง เสริมด้วยชุดแต่งสปอร์ต AMG Body Styling กับล้ออัลลอย AMG ลาย 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว ระบบกันสะเทือนเป็นแบบ Comfort และใช้สปริงลมด้านหลัง รวมถึงใช้กระจกบังลมหน้า กระจกหน้าต่างคู่หน้า ลดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มความสบายในการเดินทางจากแรงสั่นสะเทือนรวมถึงเสียงรบกวน พร้อมระบบรักษาระดับความสูงอัตโนมัติ (Self-levelling) ส่วนหลังคาซันรูฟแบบ Panoramic เลื่อนเปิด-ปิดไฟฟ้า ฝาท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Mercedes-Benz GLC 2023 ดีไซน์ภายใน
ภายในของ Mercedes-Benz GLC 2023 เข้าสู่การออกแบบยุคใหม่เต็มตัว ซึ่งให้บรรยากาศพรีเมียม คลาสสิก และล้ำสมัย ทั้งจากการใช้ชุดแผงคอนโซลโค้งลาดต่อเนื่องลงมายังคอนโซลกลางที่ซ้อนเป็น 2 เลเยอร์ ตกแต่งด้วยสีดำเงา High-gloss Black พร้อมจอมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่แบบลอยตัวขนาด 11.9 นิ้ว ส่วนมาตรวัดดิจิทัลสำหรับคนขับขนาด 12.3 นิ้ว มีระบบ MBUX รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน พวงมาลัยทรงสามก้านคู่หุ้มหนัง Nappa
ขณะที่เบาะนั่งหุ้มหนังจะมีให้เลือก 2 คู่สี คือ สีดำ Black และสีแดง Power Red สลับดำ Black ขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอกที่เลือก แต่ทั้งหมดจะตกแต่งด้วยแถบประดับโลหะลาย Metal structure ส่วนระบบเสียงใช้ของ Burmester 3D surround sound system เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าและมีระบบอุ่นเบาะ แอร์เป็นแบบ Thermatic ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ พร้อมระบบฟอกอากาศตรวจจับฝุ่น PM2.5 ได้ มีที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย เบาะหลังแยกพับได้ 3 ส่วน (40:20:40) เมื่อพับเบาะลงทั้งหมดจะมีปริมาตรความจุสำหรับใส่สัมภาระได้สูงสุด 1,530 ลิตร
Mercedes-Benz GLC 2023 เครื่องยนต์และสมรรถนะ
ช่วงแรกของการเปิดตัว Mercedes-Benz GLC 2023 มีเฉพาะรุ่น Mercedes-Benz 350 e 4MATIC AMG Dynamic แบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิด 440 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC) ขับเคลื่อน 4 ล้อ เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 218 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Mercedes-Benz GLC 2023 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
Mercedes-Benz GLC 2023 มาพร้อมระบบความปลอดภัย เช่น ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง, เบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ, กล้องมองภาพรอบคันที่มีระบบ Transparent bonnet สามารถเห็นสภาพพื้นผิวเส้นทางด้านล่างหน้าผ่านกล้องสำหรับการขับแบบออฟโรด, ระบบเตือนแรงดันลมยาง รวมถึงระบบช่วยขับขี่ เช่น ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็ว พร้อมระบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ, ระบบรักษาช่องทางจราจร เป็นต้น
Mercedes-Benz GLC 2023 มีกี่สี
Mercedes-Benz GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่
-
สีขาว Polar White
-
สีดำ Obsidian Black
-
สีเทา Graphite Grey
-
สีเงิน Mojave Silver
-
สีเงิน High-tech Silver
-
สีน้ำเงิน Nautic Blue
Mercedes-Benz GLC 2023 ราคาจำหน่าย
เบื้องต้น Mercedes-Benz GLC 2023 โฉมใหม่ จะมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว คือ Mercedes-Benz 350 e 4MATIC AMG Dynamic ราคา 4,180,000 บาท
Mercedes-Benz GLC 2023 ตารางผ่อน-ดาวน์
ข้อมูลคำนวณค่างวดโดยประมาณไม่รวมดอกเบี้ย โปรดสอบถามรายละเอียดเงื่อนไขแคมเปญและอัตราดอกเบี้ยจากผู้จำหน่ายอีกครั้ง
เปรียบเทียบ Mercedes-Benz GLC 2023 กับรถรุ่นอื่น ๆ
สำหรับตัวเลือกในระดับเดียวกับ Mercedes-Benz GLC 2023 ซึ่งช่วงแรกมีเฉพาะ Mercedes-Benz 350 e 4MATIC AMG Dynamic ก็จะมี BMW X3 xDrive30e M Sport ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ปลั๊กอินไฮบริด กำลัง 292 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 3,859,000 บาท รวมถึง Audi Q5 55 TFSI e quattro S line Black Edition ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ปลั๊กอินไฮบริด เช่นกัน ให้กำลังสูงสุด 367 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 3,950,000 บาท
