Mitsubishi Delica Mini รถยนต์ขนาดจิ๋วตกแต่งสไตล์แอดเวนเจอร์และเต็มไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานสำหรับสายกิจกรรม ราคาเริ่มต้นในญี่ปุ่น 467,000 บาท
Mitsubishi Delica Mini (มิตซูบิชิ เดลิกา มินิ)
รถยนต์อเนกประสงค์แบบ MPV ทรงกล่องขนาดจิ๋ว กลุ่มเคคาร์ ตกแต่งสไตล์แอดเวนเจอร์ ที่จัดสรรพื้นที่เล็ก ๆ ให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ชอบผจญภัย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันพักผ่อนโดยไม่จำเป็นต้องมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่านี้ก็ได้
Mitsubishi Delica Mini ดีไซน์ภายนอก
Mitsubishi Delica Mini จะเป็นรถเคคาร์แบบ Tallboy ที่มีลักษณะเป็นกล่อง หลังคาสูง พัฒนาต่อยอดบนพื้นฐานของ Mitsubishi eK Space จนได้ลุคใหม่ แข็งแกร่ง สไตล์แอดเวนเจอร์ตามรุ่นพี่อย่าง Mitsubishi Delica D:5 ซึ่งด้านหน้ายังคงเอกลักษณ์ Dynamic Shield แบบ 3 มิติ แต่ดูเฟรนด์ลี่คล้ายสุนัขพันธุ์บูลด็อก ซึ่งแถบไฟหน้าคาดดำ กันชนคาดแถบกันกระแทกสีเทาทรง L-Shaped ด้านล่างสุดตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำเงา เช่นเดียวกับด้านข้างบริเวณซุ้มล้อแทนคิ้วกันกระแทกพลาสติก ขณะที่ด้านท้ายใช้ไฟทรงตั้งวางในตำแหน่งเสาหลัง ตรงกลางคาดแถบพลาสติกสีเทาดำพิมพ์ตัวอักษร Delica ล้อก็มีทั้งแบบล้อเหล็กพร้อมฝาครอบขนาด 14 นิ้ว กับล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ส่วนมิติตัวถังมีความยาวเพียง 3,395 มม. กว้าง 1,475 มม. สูง 1,830 มม. ระยะฐานล้อ 2,495 มม. น้ำหนักสูงสุดในรุ่นท็อปเพียง 1,060 กิโลกรัม
Mitsubishi Delica Mini ดีไซน์ภายใน
ภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Delica Mini ให้บรรยากาศเรียบง่าย ไม่หวือหวา ตามสไตล์เคคาร์ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ แต่โปร่งโล่งด้วยรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม หลังคาสูง และให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งาน ตั้งแต่ประตูด้านข้างเป็นแบบสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้านพร้อมระบบ hand-free ที่เอาเท้าแหย่ก็สามารถเปิด-ปิดเองได้ เมื่อมือเต็มไปด้วยข้าวของสัมภาระ
นอกจากนี้ เบาะหลังยังสามารถเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ในระยะ 320 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขา หรือส่วนสัมภาระด้านท้าย พนักพิงเบาะหลังปรับเอน หรือพับปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้ ซึ่งพื้นที่เก็บของท้ายรถยังออกแบบให้ทำความสะอาดได้ง่าย เช่นเดียวกับเบาะนั่งก็จะหุ้มผ้ากันน้ำ เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งและมีอุปกรณ์ที่เปียกหรือเลอะโคลน ทั้งหมดภายใต้ขนาดตัวที่กะทัดรัด
Mitsubishi Delica Mini เครื่องยนต์และสมรรถนะ
Mitsubishi Delica Mini ใช้เครื่องยนต์ 2 แบบ คือ 3 สูบ ขนาด 660 ซี.ซี. กำลังสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 60 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที กับรุ่นเทอร์โบ กำลังสูงสุดเพิ่มเป็น 64 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์ทั้งสองแบบจะระบบขับเคลื่อนล้อหน้า กับขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก
Mitsubishi Delica Mini เทคโนโลยีและความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยสำหรับรถจิ๋วหรือเคคาร์อย่าง Mitsubishi Delica Mini นั้น มีหลายฟังก์ชันที่น่าสนใจ เช่น Grip Control ที่ช่วยให้การเคลื่อนที่บนพื้นผิวลื่น เช่น หิมะ หรือดินโคลน เป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยเมื่อล้อด้านใดด้านหนึ่งเกิดอาการหมุนฟรีจะถูกควบคุมด้วยเบรกเพื่อลดแรงบิด เพิ่มแรงยึดเกาะ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
อย่างไรก็ตาม แม้ Mitsubishi Delica Mini จะเป็นเคคาร์ แต่ก็มีระบบช่วยขับขี่ M-PILOT เช่น ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน สามารถรักษระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง, ระบบรักษาช่องทางจราจร, ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการปะทะ พร้อมระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า, ระบบป้องกันกรณีเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงโดยไม่ตั้งใจ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร, ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนตัว รวมถึงระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่หลับในจากพฤติกรรมการขับขี่ของการหมุนพวงมาลัย ระยะเวลาการขับขี่ เป็นต้น
Mitsubishi Delica Mini มีกี่สี
Mitsubishi Delica Mini ในญี่ปุ่นจะมีสีตัวถังให้เลือกทั้งแบบทูโทน 6 สี และโมโนโทน 6 สี ดังนี้
สีเขียว Ash Green Metallic/ หลังคาดำ Black Mica
สีน้ำตาล Ivory Metallic/ หลังคาดำ Black Mica
สีน้ำเงิน Lightning Blue Mica/ หลังคาดำ Black Mica
สีส้ม Sunshine Orange Metallic/ หลังคาดำ Black Mica
สีแดง Red Metallic/ หลังคาดำ Black Mica
สีขาว White Pearl/ หลังคาดำ Black Mica
สีเขียว Ash Green Metallic
สีเทา Titanium Gray Metallic
เปรียบเทียบ Mitsubishi Delica Mini กับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ
ทั้งนี้ Mitsubishi Delica Mini จะเริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่นช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ มีทั้งหมด 4 เกรด เริ่มจากรุ่นพื้นฐานไปจนถึงรุ่นสูงสุด คือ G, G Premium, T และ T Premium ตามลำดับ โดยทุกเกรดจะมีระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาเริ่มต้น 1,804,000 เยน (467,000 บาท) ถึง 2,238,500 เยน (580,000 บาท)
ส่วนเคคาร์สไตล์แอดเวนเจอร์ใกล้เคียงกันในญี่ปุ่น ก็จะมีทั้ง Suzuki Hustler มี 4 เกรด มีระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้อ ขณะที่เครื่องยนต์มีทั้งเบนซิน เทอร์โบ กับเบนซิน ไฮบริด ราคาเริ่มต้น 1,365,100 เยน (352,000 บาท) กับ Daihatsu Taft แบ่งเป็น 4 เกรด เช่นกัน ใช้เครื่องยนต์เบนซิน กับเบนซินเทอร์โบ ระบบขับเคลื่อน 2 แบบ และมีรุ่นตกแต่งพิเศษให้เลือก ราคาเริ่มต้น 1,320,000 เยน (340,000 บาท)
บทความที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ต่างประเทศ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :
mitsubishi-motors.co.jp