เปิดเงื่อนไข ดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 รถมือสอง และมอเตอร์ไซค์ สัญญาเช่าซื้อแบบลดต้นลดดอก ปิดบัญชีก่อนกำหนดได้รับส่วนลด !
หลังจากที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ประกาศเรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา โดยกำหนดให้คิด ดอกเบี้ยรถใหม่ ปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อเป็นแบบลดต้นลดดอก และได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นมา วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับดอกเบี้ยซื้อรถใหม่ รถมือสอง และมอเตอร์ไซค์ ว่าอัตราดอกเบี้ยใหม่อยู่ที่เท่าใด การผ่อนแบบลดต้นลดดอก หรือปิดบัญชีก่อน จะมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
ดอกเบี้ยรถใหม่ 2566
การปรับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ใหม่ หรือรถมือสอง เป็นการคิดดอกเบี้ยในอัตราที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) ซึ่งหมายความว่า อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อในลักษณะของการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด
และในกรณีที่ยังไม่มีกฎหมายใดกำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ไว้เป็นการเฉพาะ ให้กำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ตามกลไกตลาด สำหรับอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 นั้นจะครอบคลุมสัญญาการเช่าซื้อรถ 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ รถยนต์ใหม่ รถมือสองหรือรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว และมอเตอร์ไซค์ โดยได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยใหม่ ดังนี้
-
รถยนต์ใหม่ อัตราดอกเบี้ยต้องไม่เกิน 10% ต่อปี
-
รถยนต์มือสองหรือรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว อัตราดอกเบี้ยต้องไม่เกิน 15% ต่อปี
-
มอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยต้องไม่เกิน 23% ต่อปี
ปิดบัญชีก่อนมีส่วนลด
เดิมทีสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ก็จะมีส่วนลดพิเศษให้สำหรับผู้ที่ต้องการปิดสัญญาเช่าซื้อนั้นก่อนกำหนด โดยผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าซื้อ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้
-
กรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่เกิน 1 ใน 3 ของค่างวดในสัญญา ให้ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 60% ของดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
-
กรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ให้ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 70% ของดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
-
กรณีชำระมาแล้วเกิน 2 ใน 3 ให้ได้รับส่วนลดทั้งหมดของดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
กรณีถูกยกเลิกสัญญา
หากผู้เช่าซื้อถูกยกเลิกสัญญาไม่ว่าจากกรณีใดก็ตาม และผู้ให้เช่าซื้อได้นำรถคันนั้นออกขายทอดตลาด โดยปกติแล้วผู้เช่าซื้อยังจะต้องรับผิดชอบค่างวดที่ยังคงค้างอยู่ประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ย แต่การปรับปรุงสัญญาในครั้งนี้ ผู้เช่าซื้อจะรับผิดชอบแค่เงินต้นเท่านั้น
การคิดคำนวณเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระ
เมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่างวด หรือมีการชำระล่าช้า ผู้ให้เช่าซื้อสามารถคิดเบี้ยปรับจากผู้เช่าซื้อได้ในอัตราไม่เกิน 5% ต่อปี โดยคำนวณจากยอดเงินที่ผิดนัดชำระ
ทั้งนี้ การปรับปรุงสัญญาธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นกับทุกฝ่าย และเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของทางภาครัฐ สำหรับอัตราดอกเบี้ยรถใหม่จะบังคับใช้กับเฉพาะสัญญาเช่าซื้อที่ทำตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ส่วนสัญญาเช่าซื้อที่ทำก่อนวันที่ 10 มกราคม 2566 ยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา
ขอบคุณข้อมูลจาก : thaigov.go.th, (2), ratchakitcha.soc.go.th