เรื่องควรรู้สำหรับใครที่ทำสีรถ เปลี่ยนสีรถยนต์ใหม่ ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถที่ขนส่งภายในกี่วัน เอกสารหลักฐานที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง ถ้าหากไม่ไปแจ้งจะมีความผิดหรือไม่ เรามีข้อมูลมาฝาก
รถยนต์เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะเวลาหนึ่งสีของรถอาจเริ่มซีด หมอง ไม่เงางามเหมือนเก่า หลายคนมักจะเลือกใช้วิธีเคลมซ่อมสีรถเก็บริ้วรอยรอบคัน หรือการ wrap รถ ซึ่งบางคนก็ถือโอกาสเปลี่ยนสีรถยนต์ใหม่ซะเลยเนื่องจากเบื่อกับรถสีเดิมแล้ว หรือเปลี่ยนสีให้ถูกโฉลกตามความเชื่อของแต่ละคน
ซึ่งการทำสีรถ เปลี่ยนสีรถยนต์ใหม่นั้น ไม่ใช่แค่การขับรถไปร้านซ่อมสี ทำสี เปลี่ยนสี หรือร้าน wrap รถ เมื่อเสร็จแล้วก็นำรถมาใช้งานตามปกติ แต่ยังมีอีกขั้นตอนที่เจ้าของรถจะต้องดำเนินการนั่นก็คือ การแจ้งเปลี่ยนสีรถ โดยแจ้งต่อนายทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบก หากไม่แจ้งแล้วถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร หรือใช้เอกสารอะไรบ้าง เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
เปลี่ยนสีรถยนต์ ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน
การทำสี เปลี่ยนสีรถยนต์ หรือการ wrap รถ ที่มีการทำให้สีผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้ในตอนแรก โดยพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ระบุไว้ว่า รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากมีการเปลี่ยนสีรถ เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน นับแต่วันที่เปลี่ยนสีนั้น หากเกินกำหนด เจ้าของรถจะมีความผิดตามมาตรา 60 ระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
นอกจากการเปลี่ยนสีรถยนต์ใหม่แล้ว การต่อเติมแก้ไขดัดแปลงรถหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ เจ้าของรถจะต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ และแก้ไขรายละเอียดในเอกสารคู่มือจดทะเบียนรถก่อนนำรถไปใช้งานด้วยเช่นกัน ได้แก่ การติดตั้งโครงหลังคาหรือโครงเหล็กด้านข้างรถ การเปลี่ยนเครื่องยนต์ การเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง การแก้ไขดัดแปลงตัวถังรถ ระบบรองรับน้ำหนัก เสริมแหนบ ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว หรือระบบขับเคลื่อน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางชนิดก็ได้รับการยกเว้นไม่ต้องแจ้งต่อนายทะเบียน เช่น แร็คหลังคา โรลบาร์ สปอยเลอร์ แม็กไลเนอร์ กันชน อุปกรณ์ขนจักรยาน (Bicycle Rack) เป็นต้น เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลให้สภาพรถเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่ถือเป็นการแก้ไขดัดแปลงสภาพรถที่ต้องขออนุญาตกับกรมการขนส่งทางบก
หลักฐานที่ใช้ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
2. ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
3. หลักฐานการเปลี่ยนสีรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าจ้างทำสี
ขั้นตอนการดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
1. ยื่นคำขอพร้อมหลักฐาน เพื่อขอนำรถเข้ารับการตรวจสอบ
2. ยื่นตรวจสอบคำขอพร้อมหลักฐานและผลผ่านการตรวจสอบรถ
3. ชำระค่าธรรมเนียม
4. รอรับเอกสารคืน
ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
1. ค่าธรรมเนียมการแจ้งเปลี่ยนสีรถ 50 บาท
2. ค่าดำเนินการตรวจสภาพรถโดยกรมการขนส่งทางบก 50 บาท
3. ค่าคำขอ 5 บาท
ทั้งนี้ ใครที่นำรถยนต์ไปทำสี เปลี่ยนสี หรือ wrap สีรถมาใหม่ แล้วยังไม่ได้ทำการแจ้งต่อนายทะเบียน สามารถดำเนินการได้ที่กรมการขนส่งทางบกทุกแห่งทั่วประเทศ จะได้ไม่ผิดกฎหมายและไม่เสียค่าปรับหากถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก