Mazda CX-60 2022 ใหม่ รถเอสยูวีขุมพลังเบนซินปลั๊กอินไฮบริด e-Skyactiv PHEV 2.5 ลิตร ให้กำลังแรง 327 แรงม้า วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกล 63 กม. มาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 66.6 กิโลเมตร/ลิตร เปิดราคาจำหน่ายในยุโรปเริ่ม 47,390 ยูโร หรือราว 1.7 ล้านบาท
Mazda เปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด All New Mazda CX-60 ซึ่งเป็นรถในตระกูล CX ที่ถูกเผยโฉมต่อจาก Mazda CX-50 รถเอสยูวีดีไซน์สปอร์ตออฟโรดที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Mazda CX-60 จะเป็นเอสยูวีขนาดกลาง 5 ที่นั่ง ที่ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่หน้าจรดท้าย มาพร้อมขุมพลังเบนซินปลั๊กอินไฮบริดเวอร์ชั่นใหม่ ที่ให้กำลังมากถึง 327 แรงม้า วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ระยะทางประมาณ 63 กม. เปิดราคาจำหน่ายเริ่มที่ 47,390-52,890 ยูโร หรือราว 1.7-1.9 ล้านบาท ในตลาดยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงประเทศอื่น ๆ
Mazda CX-60 ดีไซน์ภายนอก
Mazda CX-60 ใหม่ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม Skyactiv Multi-Solution Scalable Architecture มาพร้อมขนาดตัวถังความยาว 4,745 มม., กว้าง 1,890 มม., สูง 1,670 มม., ระยะฐานล้อที่ 2,870 มม. และมีระยะต่ำสุดถึงพื้น หรือ Ground Clearance ที่ 175 มม.
มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่รอบกรอบด้วยโครเมียม ด้านในดีไซน์ให้แบบแนวตั้งด้วยวัสดุสีดำ ไฟหน้า LED แบบเรียงซ้อนกันในโคมเดียว ส่วนชุดไฟ DRL ออกแบบให้เป็นรูปตัว L และมีหางยาวแยกออกมาติดกับในส่วนกระจังหน้า ชุดไฟท้าย LED ดีไซน์ให้ดูเรียวยาว ฝาครอบกระจกมองข้างและมือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ กันชนท้ายดีไซน์สปอร์ตมาพร้อมดิฟฟิวเซอร์สีดำ ชุดท่อไอเสียปลายเป็นแบบคู่แยกออกแบบซ้าย-ขวา ส่วนล้ออัลลอยสีทูโทนมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 18 นิ้ว และ 20 นิ้ว
Mazda CX-60 ดีไซน์ภายใน
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้ดูพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเย็บแบบผูกผ้าบริเวณแผงหน้าปัด รวมถึงตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยลายไม้เมเปิ้ลที่แผงประตูข้างและคอนโซลกลาง และหุ้มด้วยหนัง Nappa ตามส่วนต่าง ๆ
เบาะที่นั่งเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง โดยชุดอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ภายใน Mazda CX-60 จะประกอบไปด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น แผงหน้าปัดดิจิตอลแบบ TFT-LCD เต็มรูปแบบ จอแสดงผลอินโฟเทนเมนต์ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay มาพร้อมหน้าจอ Head-Up Display ที่มีขนาดใหญ่กว่า CX-30 ถึง 3 เท่า ไฟ Ambient Lights รอบห้องโดยสาร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone ช่องชาร์จไฟบ้าน AC ขนาด 1,500W เพื่อจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ภายนอก ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE Premium Sound ลำโพง 12 ตำแหน่ง
ด้านท้ายมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่มากถึง 570 ลิตร และสามารถขยายความจุเพิ่มเป็น 1,726 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ปิดท้ายด้วยหลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าที่มีขนาด 1,060 x 995 มม.
Mazda CX-60 เครื่องยนต์และสมรรถนะ
ในส่วนขุมพลังขับเคลื่อนของ Mazda CX-60 จะมีเครื่องยนต์ถึง 3 รูปแบบ ในตลาดยุโรป โดยในช่วงแรกนี้จะเป็นขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SkyActiv-G ขนาด 2.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 189 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิด 261 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 100 kW หรือประมาณ 134 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันจะให้กำลังรวม 323 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดที่มากถึง 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อ i-ACTIV AWD Full-Time ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ในเวลา 5.8 วินาที ส่วนความเร็วถูกจำกัดไว้ที่ 200 กม./ชม. ส่งผลทำให้ Mazda CX-60 PHEV รุ่นใหม่คันนี้ เป็นรถยนต์ที่ใช้งานบนถนนจริงที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่มาสด้าเคยผลิตมา
ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบลิเธียมไอออนขนาด 17.8 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้าเพียว ๆ ได้ระยะทาง 63 กม. และสามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มได้ภายใน 4 ชั่วโมง ผ่านการชาร์จไฟ AC แบบปกติ ในด้านอัตราเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงทางมาสด้าเคลมไว้อยู่ที่ 1.5 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือประมาณ 66.6 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับในรุ่นล้อขนาด 18 นิ้ว ส่วนล้อขนาด 20 นิ้วจะมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 1.6 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือราว 62.5 กิโลเมตร/ลิตร
ด้านโหมดการขับขี่เป็นแบบ MI-DRIVE มีให้เลือกถึง 5 โหมด ได้แก่ Normal Mode โหมดปกติ, Sport Mode โหมดสปอร์ต, Off-Road Mode โหมดออฟโรด, Towing Mode โหมดลากจูง และ EV Mode ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน นอกจากขุมพลังเบนซิน Plug-in Hybrid แล้วยังจะมีขุมพลังเบนซิน 3.0 e-SKYACTIV และดีเซล 3.3 e-SKYACTIV D ให้เลือกโดยจะตามออกมาภายหลัง
Mazda CX-60 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
ในด้านระบบเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยของ Mazda CX-60 จะมาพร้อมกับ ระบบกล้อง 360 องศารุ่นใหม่, ระบบเตือนการออกจากรถ, ระบบการจดจำป้ายจราจร, ระบบช่วยเบรกอัจฉริยะขั้นสูงพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนและคนปั่นจักรยาน, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินด้านหลังพร้อมการตรวจจับคนเดินถนน,ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน พร้อมพวงมาลัยดึงกลับ, ระบบตรวจจับอาการง่วงนอนของผู้ขับขี่, ระบบการแจ้งเตือนการจราจรทางด้านหลัง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบ Driver Personalization System เพื่อตรวจจับตำแหน่งการขับขี่อัตโนมัติโดยใช้ตำแหน่งดวงตาของผู้ขับขี่ เพื่อป้อนข้อมูลความสูงในการช่วยปรับเบาะนั่ง พวงมาลัย และ กระจกมองข้างอัตโนมัติ
Mazda CX-60 มีกี่สี
Mazda CX-60 ที่เปิดวางจำหน่ายอยู่ขณะนี้จะมีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 8 สี ได้แก่ สีดำ Jet Black, สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue, สีเงิน Sonic Silver, สีครีม Platinum Quartz, สีขาว Arctic White, สีขาวโรเดียม Rhodium White, สีเทา Machine Grey และสีแดง Soul Red Crystal
Mazda CX-60 ราคาจำหน่าย
Mazda CX-60 จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 47,390-52,890 ยูโร หรือประมาณ 1.7-1.9 ล้านบาท ในยุโรป และมีกำหนดส่งมอบคันแรกในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 ส่วนจะเข้ามาบ้านเราหรือไม่ต้องติดตามกันอีกครั้ง แต่ด้วยขุมพลัง PHEV ปลั๊กอินไฮบริด ที่เป็นรถพลังงานทางเลือกใหม่และอยู่ในกระแสขณะนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น Mazda CX-60 รุ่นนี้ในบ้านเรา
เปรียบเทียบ Mazda CX-60 กับรถรุ่นอื่น ๆ
Mazda CX-60 เป็นรถอเนกประสงค์ในรูปแบบเอสยูวี 5 ที่นั่ง ที่อยู่ในพิกัด C-SUV และมาพร้อมขุมพลังทางเลือกใหม่ PHEV ปลั๊กอินไฮบริด เสียบปลั๊กชาร์จไฟ โดยรถกลุ่มนี้ในบ้านเราถือได้รับความนิยมสูง ซึ่งปัจจุบันก็มีวางจำหน่ายอยู่หลายรุ่นด้วยกัน อาทิ MG HS PHEV ที่เป็นรถแบบปลั๊กอินไฮบริดเหมือนกัน โดยมากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า นอกจากนี้ ก็ยังมี Mitsubishi Outlander PHEV รถอเนกประสงค์ปลั๊กอินไฮบริด เบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่เคลมอัตราประหยัดน้ำมันที่ 52.6 กิโลเมตร/ลิตร และวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียว ๆ ได้ไกล 55 กม. และ Volvo XC40 Recharge Plug-in Hybrid T5 ที่มากับเครื่องยนต์ 3 สูบ เทอร์โบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมทั้งระบบ 262 แรงม้า ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ระยะทาง 52 กม. นอกจากนั้น ในปีนี้ยังมีข่าวว่าจะมีน้องใหม่อย่าง Haval H6 Plug-In Hybrid กำลังจะเปิดตัวในบ้านเรา ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮบริดที่วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ ไกลถึง 201 กม. เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ในยุคน้ำมันแพงแบบนี้ รถยนต์ใหม่ที่มากับขุมพลัง PHEV ปลั๊กอินไฮบริด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัวที่สูงหน่อย แต่ถ้าเทียบกับราคาน้ำมันที่ขึ้นแบบวันเว้นวัน ก็น่าจะคุ้มอยู่ว่าไหม ?
ขอบคุณภาพจาก : uk.mazda-press.com
ขอบคุณข้อมูลจาก : uk.mazda-press.com, mazda.co.uk, carscoops.com