กระจกมองหลังตัดแสง คืออะไร ดียังไง ช่วยให้ขับรถง่ายขึ้นจริงหรือ ?

กระจกมองหลังตัดแสง คืออะไร ช่วยให้การขับรถง่ายขึ้นจริงหรือ แล้วแตกต่างจากกระจกมองหลังแบบธรรมดาอย่างไร ไปหาคำตอบกัน

เชื่อว่าหลายคนที่ขับรถยนต์ ก่อนจะออกเดินทางต้องตรวจสอบความเรียบร้อย อยู่แล้ว เช่น ระดับน้ำมัน, ลมยาง, ระบบไฟ และกระจกมองข้าง แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ควรเช็กทุกครั้งด้วยนั่นก็คือ กระจกมองหลัง อุปกรณ์ภายในรถยนต์ที่ช่วยให้เรามองเห็นทัศนวิสัยด้านหลังของรถ ทำหน้าที่เหมือนเป็นตาดวงที่สาม ช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 

ทั้งนี้ ขณะขับขี่รถเราควรจะมองกระจกหลังเป็นระยะ ๆ เพราะรถคันที่ตามหลังมาอาจกำลังขอทางหรือมีรถฉุกเฉิน รถพยายบาลกำลังขับมา แต่ที่สำคัญควรมองกระจกมองหลังทุกครั้งก่อนจะทำการเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวเข้าซอย พร้อมกับการให้สัญญาณไฟแจ้งเตือนรถคันหลัง เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมทางและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระจกมองหลังไม่ได้เป็นเพียงแค่กระจกธรรมดา ๆ ที่ทำหน้าที่สะท้อนช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ จากทางด้านหลังเท่านั้น แต่กระจกมองหลังในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ยังมีฟังก์ชัน "การตัดแสงรบกวน" เพิ่มเข้ามาให้ ทั้งแบบปรับด้วยมือและอัตโนมัติ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกหากต้องมองกระจกในที่มีสภาวะแสงรบกวนจากทางด้านหลัง ว่าแต่กระจกมองหลังตัดแสงดียังไง และแตกต่างจากกระจกมองหลังธรรมดาตรงไหน มาดูกันเลย

หลายคนน่าจะเคยได้ยินและเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว เพราะส่วนใหญ่ในรถรุ่นใหม่มักจะติดตั้งกระจกมองหลังตัดแสงมาให้จากโรงงาน ตัวกระจกจะทำหน้าที่เหมือนกับกระจกมองหลังแบบปกติ แต่จะแตกต่างตรงที่ กระจกมองหลังตัดแสง จะสามารถปรับลดหรือหักเหแสงที่สว่างมากเกินไปจากทางด้านหลังลงได้ เช่น แสงจากไฟหน้ารถ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะเวลากลางคืน ส่วนกระจกมองหลังแบบธรรมดานั้นจะไม่สามารถปรับหรือลดแสงรบกวนต่าง ๆ ได้ ทำให้ผู้ขับขี่อาจแสบตาหรือถูกรบกวนจากแสงไฟหน้ารถได้มากกว่า

กระจกมองหลังตัดแสงในปัจจุบันจะมี 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ กระจองมองหลังตัดแสงแบบปรับด้วยมือ และกระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ

• กระจองมองหลังตัดแสงแบบปรับด้วยมือ กระจกชนิดนี้จะมีสลักติดตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของกระจก หากต้องการให้กระจกตัดแสงเพียงแค่ดันหรือผลักสลักขึ้นกระจกจะปรับเปลี่ยนมุมหักเหของแสงที่รบกวนการขับขี่ได้

• กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ กระจกชนิดนี้เริ่มพบเห็นได้มากขึ้นในรถรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งจะให้ความสะดวกสบายมากกว่าแบบปรับด้วยมือ ที่ตัวกระจกจะติดตั้งเซ็นเซอร์วัดแสงที่ด้านหน้าและด้านหลัง ภายในประกอบด้วยกระจกที่ซ้อนกันอยู่และจะมีชั้นนำไฟฟ้า ส่วนการทำงานตัวเซ็นเซอร์จะทำการตรวจจับแสงรบกวน หากพบว่ามีแสงรบกวนทางด้านไหนมากกว่ากัน ตัวกระจกจะปรับเพิ่มหรือลดความโปร่งแสงของตัวกระจก เพื่อให้แสงอยู่ในสภาวะปกติที่มองเห็นได้เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ

กระจกมองหลังตัดแสง ช่วยลดแสงรบกวนจากไฟรถด้านหลังหรือแสงรบกวนอื่น ๆ ที่อาจมากระทบตาของผู้ขับขี่ได้ดีกว่ากระจกมองหลังแบบธรรมดา ทำให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิ ลดการเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้

สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีกระจกมองหลังตัดแสงติดตั้งมาให้ ถ้าถามว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือติดเพิ่มไหม คงต้องถามตัวผู้ขับขี่เองว่าเวลาขับรถมีปัญหากับแสงรบกวนต่าง ๆ หรือไฟหน้ารถคันหลังบ้างหรือไม่ ถ้ามีก็ควรเปลี่ยนมาใช้กระจกมองหลังแบบตัด แต่ถ้าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับแสงรบกวนการใช้กระจกมองหลังแบบธรรมดาเหมือนเดิมก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กำลังมองหาหรือต้องการเปลี่ยนมาใช้กระจกมองหลังแบบตัดแสง ควรเลือกยี่ห้อที่ได้คุณภาพ และที่สำคัญควรให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการติดตั้ง หากเลือกใช้กระจกตัดแสงแบบอัตโนมัติ เพราะจะต้องมีการเดินสายไฟในการเชื่อมต่อเข้ากับตัวรถ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญในการงัดแงะเก็บสายไฟเพื่อความเรียบร้อย หากไม่ชำนาญอาจเกิดความไม่เรียบร้อยหรืออุปกรณ์บางอย่างอาจชำรุดได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : seat.com, philkotse.com