เมื่อขับรถไปยังพื้นผิวถนนที่เป็นดินโคลน จนทำให้ล้อเกิดจมลึกลงไป หรือเรียกง่าย ๆ ว่า รถติดหล่ม จนไม่สามารถขับต่อไปได้ จะแก้ไขอย่างไรดี วันนี้เรามีคำตอบ

หากคุณกำลังขับรถบนถนนที่ไม่ใช่ถนนลาดยางหรือปูนซีเมนต์ แต่เป็นถนนกรวด ดิน ทราย หรือหิมะ ต้องพึงสังวรไว้เสมอว่าอาจจะต้องเจอกับสถานการณ์ “รถติดหล่ม” ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เนื่องจากถนนดังกล่าวจะไม่ได้เกาะตัวเป็นเนื้อแข็งผืนเดียวกัน โอกาสที่จะเกิดหลุมเกิดบ่อก็มีมากขึ้น และหากล้อรถของเราเผลอตกลงไป บอกได้คำเดียวเลยว่างานงอก ! คือถ้าขึ้นมาได้ก็ดีไป แต่ถ้าดอกยางมีเศษดินเศษทรายเข้าไปอุดทำให้การยึดเกาะผิวถนนน้อยลงจนเกิดอาการ “ล้อฟรี” จนไม่สามารถปีนขึ้นจากหลุมได้ นั่นล่ะคือปัญหา
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อรถติดหล่ม
สิ่งที่ผู้ใช้รถหลายคนแก้ปัญหาเมื่อรถติดหล่มมากที่สุดคือ การพยายามเร่งเครื่อง แต่รู้หรือไม่ว่ายิ่งเร่งเครื่องให้ล้อหมุนเร็วเท่าไหร่ การเกาะพื้นผิวก็จะต่ำลงมากขึ้น เนื่องจากล้อไปขัดพื้นหลุมให้ลึกขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งการเร่งเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่องของรถที่ติดอยู่ อาจสร้างความเสียหายให้กับยาง เพลา ระบบเกียร์ และระบบขับเคลื่อน
นอกจากนี้สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อรถติดหล่มคือ การเอาของออกจากรถ เพื่อทำให้ตัวรถเบาลง ซึ่งไม่ได้ผล รวมถึงการที่ผู้ใช้รถหรือผู้โดยสารทำการขย่มรถเพื่อสร้างแรงเสียดทาน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะจะทำให้เสียพลังงานและเสียเวลาโดยใช่เหตุ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการเพิ่มผิวสัมผัสของล้อกับพื้นผิวถนนให้มากที่สุด
รถติดหล่ม แก้ไขด้วยตัวเองอย่างไร
เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดบนท้องถนน การมีข้อมูลและวิธีแก้ไขด้วยตัวเองไว้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ดังนี้
- ใช้วิธีเดินหน้า-ถอยหลัง เมื่อรถเราติดหล่มให้ลงมาจากรถแล้วดูว่าล้อข้างไหนจม หากเป็นล้อที่ไม่ใช้ขับเคลื่อนก็ถือว่าโชคดี วิธีการแก้ไขคือ ให้เดินหน้ารถช้า ๆ สลับกับการถอยหลังช้า ๆ ทำซ้ำไปมาเพื่อให้รถเกิดแรงเหวี่ยง จากนั้นพอรถได้จังหวะให้เร่งเครื่องส่งไปข้างหน้าทันที ในการเร่งเครื่องนั้นให้ใช้เกียร์ต่ำสุด แล้วค่อย ๆ กดคันเร่ง สำหรับเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 2 หรือเกียร์ 3
- หาไม้หรือวัสดุแข็งมาเป็นคานงัด ในกรณีล้อจมลึกลงไปในหล่ม ควรหาวัสดุที่ใกล้ตัวทำหน้าที่งัดล้อขึ้นจากพื้น เช่น กิ่งไม้ขนาดใหญ่หรือแผ่นไม้ โดยนำไปหนุนตรงหน้าล้อที่จม เพื่อทำหน้าที่เป็นคานสำหรับช่วยให้รถปีนขึ้นมา
- ปล่อยลมยาง การปล่อยลมยางออกเพื่อให้มีหน้าสัมผัสกับผิวถนนมากที่สุด จะช่วยให้รถของคุณมีแรงฉุดลาก และมีการยึดเกาะกับพื้นผิวถนนที่มากกว่าปกติ แต่ถ้าหากลองใช้วิธีนี้คุณต้องมีเครื่องเติมลมยาง เพราะถ้ารถของคุณหลุดขึ้นมาจากหล่มได้ จะได้เติมลมและไปต่อได้นั่นเอง
- ใช้ชุดอุปกรณ์รอก โดยตัวรอกที่ใช้จะต้องมีความแข็งแรง โดยการนำรอกมาผูกติดไว้กับหน้ารถหรือจุดยึดของตัวรถ และอีกฝั่งให้ผูกติดไว้กับเสา หรือต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้รอกทำหน้าที่ค่อย ๆ ดึงรถขึ้นมา
- เรียกคนมาช่วย เมื่อแก้ไขด้วยตัวเองแล้วยังไม่สามารถนำรถออกจากหล่มได้ ควรเรียกคนมาช่วยเข็น ซึ่งเป็นวิธีสามัญแต่ได้ผล ในการเข็นรถนั้นควรต้องอาศัยแรงคนจำนวนมาก เพราะตัวรถจะมีความหนืดและหนักมากขึ้นขณะที่ล้อถูกดินหรือทรายดูดเอาไว้
- ใช้รถลากดึง การใช้รถลากดึงนั้นควรเป็นรถที่มีเครื่องยนต์กำลังสูง และต้องผูกในตำแหน่งที่ตัวรถออกแบบไว้เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหาย

ภาพจาก : shutterstock.com / Reiza Fauzy
อุปกรณ์ช่วยรถติดหล่ม
หากเราต้องเดินทางในเส้นทางที่ยากต่อการเข้าถึง อย่างการเข้าป่าเพื่อชมธรรมชาติ หรือคาดว่าอาจจะเจอกับอุปสรรคดังกล่าว ก็ควรต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถช่วยแก้ปัญหารถติดหล่มได้ ไม่ว่าจะเป็นเชือกหรือสายสลิงที่มีความแข็งแรงสูง, ชุดอุปกรณ์รอก, แผ่นกระดานกันลื่น รวมถึงอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยรถที่ติดหล่มโดยเฉพาะ
รู้อย่างนี้แล้วการเดินทางครั้งหน้าคงจะทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์รถติดหล่มคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่สำคัญควรศึกษาข้อมูลเส้นทางให้ดี เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวตั้งแต่เนิ่น ๆ