ใครที่ชอบฟังเพลงขณะขับรถ ชอบแต่งรถ หรือชอบเครื่องเสียงรถยนต์ที่ดังกระหึ่มห้ามพลาด วันนี้เรามี 10 เครื่องเสียงรถยนต์ ที่คุ้มค่าคุ้มราคามาแนะนำ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและรักการตกแต่งรถยนต์ ตลอดจนผู้ที่หลงใหลในเสียงเพลง การเลือกเครื่องเสียงดี ๆ ไว้ติดรถยนต์สักชุดหนึ่งจึงจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลให้รอบคอบ เพราะปัจจุบันมีให้เลือกมากมายจากหลากหลายแบรนด์ จนบางทีก็ทำเอาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกัน ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 10 เครื่องเสียงติดรถยนต์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา ฟังก์ชันครบ ที่จะให้คุณ เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ตลอดการเดินทางไปพร้อม ๆ กัน
เครื่องเสียงรถยนต์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง
เมื่อซื้อรถใหม่จะมีเครื่องเสียงติดรถยนต์มาให้อยู่แล้ว เรียกว่าเครื่องเสียงแบบ Built In จะเป็นแบบ All in One ที่จะไม่มีความวุ่นวายเพียงแค่ต่อตรงเข้ากับลำโพงก็มีเสียงออกมา ส่วนถ้าใครต้องการที่จะเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงใหม่ ก็จะมีให้เลือกมากมายหลายเกรด แต่ก่อนที่เราจะไปเลือกซื้อเครื่องเสียงรถยนต์ เรามาทำความรู้จักกับองค์ประกอบต่าง ๆ ในเครื่องเสียงรถยนต์กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง โดยหลัก ๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 5 ส่วนดังนี้
-
เครื่องเล่นวิทยุ หรือที่เรียกกันว่า Front (ฟรอนท์) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไปยังระบบเครื่องเสียงต่าง ๆ โดยตัวเครื่องจะมีความสามารถเล่นแผ่นจาก CD เชื่อมต่อ USB บลูทูธ รวมถึงใช้เป็นหน้าจอแสดงภาพในส่วนต่าง ๆ จากระบบของตัวรถ
-
ปรีแอมป์ เป็นตัวขยายสัญญาณจากเครื่องเล่นส่งต่อไปยังเพาเวอร์แอมป์ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่ปรับแต่งเสียง
-
ครอสโอเวอร์ เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่เพื่อควบคุม, จัดการ และแยกย่านความถี่เสียงให้แบ่งออกเป็นเสียงกลาง เสียงต่ำ และเสียงสูง เพื่อจ่ายไปให้ลำโพงแต่ละประเภท และยังทำหน้าที่ตัดความถี่เสียงที่ไม่ต้องการออกไปอีกด้วย
-
เพาเวอร์แอมป์ เป็นตัวเครื่องขยายสัญญาณเสียง ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนหรือเพิ่มความกว้างของคลื่นเสียง หรือความดังของสัญญาณให้เพิ่มมากขึ้น
-
ลำโพง ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นเสียง ตัวลำโพงหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ลำโพงคู่ด้านหน้า, ลำโพงข้าง และลำโพงหลัง
เครื่องเสียงรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี
หากคุณกำลังมองหาเครื่องเสียงติดรถยนต์ที่มาแบบฟังก์ชันครบ ๆ คุ้มค่ากับราคาที่จะต้องจ่ายไป วันนี้เราคัดมาแบบเน้น ๆ ให้ลองดูกัน
1. เครื่องเสียงรถยนต์ Pioneer รุ่น AVH-A245BT
เครื่องเสียงรถยนต์ Pioneer รุ่น AVH-A245BT เป็นเครื่องเล่น AV Multimedia DVD Receiver ขนาด 2 DIN หรือแบบสองช่อง จอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 6.2 นิ้ว ความคมชัดสูงระดับ WVGA รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, Android Auto, WebLink พร้อม Bluetooth ในตัว และสามารถเล่นไฟล์วิดีโอระดับ Full HD รวมถึงไฟล์ H.264, WMV, DIVX, XVID, MKV, FLV และไฟล์เสียง MP3, WAVE, FLAC, ACC, WMA จาก USB ไดรฟ์ ได้ มาพร้อมฟังก์ชันปรับแต่งเสียงด้วยอีควอไลเซอร์ (EQ) 13 แบนด์ และมีภาคขยายเสียงขนาด 50 วัตต์ x 4 แชนแนล มีวอลล์เปเปอร์พื้นหลังให้เลือก 3 แบบ พร้อมรองรับกล้องมองหลัง และมีรีโมทไร้สายมาไว้ให้ด้วย
- ราคาจำหน่ายประมาณ 7,000-7,500 บาท
2. เครื่องเสียงรถยนต์ Boss Audio รุ่น BV9386NV
เครื่องเสียงรถยนต์ Boss Audio รุ่น BV9386NV เครื่องเล่น AV Multimedia DVD Receiver ขนาด 2 DIN จอภาพขนาด 6.2 นิ้ว ระบบสัมผัส ภาคขยายเสียง 80 วัตต์x4 แชนแนล รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน, GPS, Bluetooth มีเครื่องอ่านแผ่น DVD และ CD+/-R/RW ได้ทั้งภาพ/เสียง มาพร้อมช่องต่อ AUX ให้เลือกใช้ฟังเพลงกับหูฟัง รองรับการเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงขนาด 24 bit มาพร้อมกับ ระบบปรับแต่งเสียงอีควอไลเซอร์ (EQ) ในตัว และมีช่องต่อกล้องมองหลัง และรีโมทแบบไร้สาย
- ราคาจำหน่ายประมาณ 10,000-11,000 บาท
3. เครื่องเสียงรถยนต์ Alpine รุ่น ILX-W650E
เครื่องเสียงรถยนต์ Alpine รุ่น ILX-W650E เครื่องเล่น AV Multimedia DVD Receiver ขนาด 2 DIN จอภาพ Capacitive ขนาด 7 นิ้ว แบบสัมผัส ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงระบบเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ตัวเครื่องดีไซน์แบบบางติดตั้งง่าย สามารถเล่นไฟล์เสียง MP3, WMA, AAC, FLAC, WAV จากอุปกรณ์ USB มีช่องเชื่อมต่อกล้องมองภาพทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมกับ แอมพลิไฟเออร์ในตัว 4 Channel KTA-450 Power pack ที่มีกำลังวัตต์สูงถึง 100 วัตต์
- ราคาจำหน่ายประมาณ 9700-11,100 บาท
4. เครื่องเสียงรถยนต์ SONY รุ่น XAV-AX8000
เครื่องเสียงรถยนต์ SONY รุ่น XAV-AX8000 เป็นเครื่องเสียงแบบ 1 Din รุ่น Top ของทาง SONY ตัวเครื่องติดตั้งหน้าจอแบบ Anti-glare ที่ช่วยลดแสงสะท้อนขนาด 8.95 นิ้ว ที่ปรับระดับได้ 3 ทิศทาง มาพร้อมระบบขยายเสียงคุณภาพสูง ด้วยการประมวลผลสัญญาณจาก Dynamic Reality Amp 2 ขนาด 4 x 55 วัตต์ ช่วยลดเสียงรบกวน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี EXTRA BASS ที่ช่วยเพิ่มเสียงเบสให้หนักแน่น และมาพร้อมกับระบบปรับแต่งเสียงอีควอไลเซอร์ (EQ) 10 แบนด์ ที่จะช่วยปรับแต่งเสียง นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ WebLink รวมไปถึงเทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth และรองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri และ Assistant
- ราคาจำหน่ายประมาณ 14,000-15,000 บาท
5. เครื่องเสียงรถยนต์ Kenwood รุ่น DMX5020S
เครื่องเสียงรถยนต์ Kenwood รุ่น DMX5020S เป็นเครื่องเสียงติดรถยนต์ระบบ Android หน้าจอ WVGA ขนาด 6.8 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับระบบ MIRRORLINK ให้กำลังขับขนาด 45 วัตต์x4 แชนแนล สามารถเล่นไฟล์วีดีโอ H.264, WMV, DIVX, MPEG 4, MKV และไฟล์เสียง MP3, WAVE, FLAC, ACC, WMA มีฟังก์ชันปรับแต่งเสียงด้วยอีควอไลเซอร์ (EQ) 13 แบนด์ ที่จะช่วยปรับแต่งเสียง เป็นเครื่องเสียงติดรถยนต์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบเรื่องการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ยังมีช่อง USB สามารถชาร์จสมาร์ตโฟนได้ รองรับกำลังไฟสูงสุด 1.5A
- ราคาจำหน่ายประมาณ 7,900-8,500 บาท
6. เครื่องเสียงรถยนต์ Worldtech WT-DDN10.1AND
เครื่องเสียงรถยนต์ Worldtech WT-DDN10.1AND เป็นเครื่องเสียงติดรถยนต์ระบบ Android มากับหน้าจอแบบสัมผัสแบบ Capacitve 2.5D ขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว รองรับระบบ MIRRORLINK เชื่อมต่อทั้ง Bluetooth, GPS, WI-FI, USB, FM และ MHL อีกทั้งยังรองรับภาษาไทยและอังกฤษ สามารถลงแอปพลิเคชั่นได้ เครื่องเสียงรถยนต์รุ่นนี้ใช้หน่วยประมวลผล T3L (2GB DDR+16G) บนบอร์ด Dingwei ช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด
- ราคาจำหน่ายประมาณ 3,000- 4,000 บาท
7. เครื่องเสียงรถยนต์ Roadstart DC-7700MLL
เครื่องเสียงรถยนต์ Roadstart DC-7700MLL แบรนด์จากประเทศไทย เป็นแบบ 2 Din ที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมกับระบบ Mirror Link ที่ใช้ได้กับระบบ Andriod เชื่อมต่อระบบเข้ากับสมาร์ตโฟนได้ง่ายและรวดเร็วแบบ Auto Link ภาพชัดระดับ High definition 800X480 pixels รองรับการใช้งาน MP3, MP4, MP5, DIVX, WMA, JPEG, RMVB และAVI มีช่อง USB และ SD Card ตัวเครื่องมากับ Amplifier ที่ให้กำลังขับขนาด 50 วัตต์x4 แชนแนล รองรับการเชื่อมต่อพ่วงไปยังแผงควบคุมที่พวงมาลัยรถ และรองรับภาพที่ต่อเชื่อมกับระบบถอยหลังและระบบช่วยจอดรถ
- ราคาจำหน่ายประมาณ 1,450 บาท-1,500 บาท
8. เครื่องเสียงรถยนต์ Kenwood รุ่น KMM-BT306
เครื่องเสียงรถยนต์ Kenwood รุ่น KMM-BT306 เป็นเครื่องเสียงรถยนต์คุณภาพสูงแบบ 1 Din สามารถจับคู่อุปกรณ์ Bluetooth ได้สูงสุด 5 เครื่องในเวลาเดียวกัน รวมทั้งยังเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนพร้อมกันถึง 2 เครื่องสำหรับการโทร นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเพลงผ่านแอพพลิเคชั่นเพลงออนไลน์ด้วยผ่าน App Kenwood Remote รองรับการเล่นไฟล์เพลงในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการรองรับไฟล์ FLAC และยังมาพร้อมฟังก์ชันปรับแต่งเสียงด้วยอีควอไลเซอร์ (EQ) 13 แบนด์ และยังสามารถปรับเปลี่ยนสีไฟหน้าจอได้สูงสุด 6 สี ไม่ว่าจะเป็น ฟ้า เขียว น้ำเงิน ม่วง แดง และเหลือง ซึ่งทำให้เข้ากับบรรยากาศในตัวรถมากขึ้น
- ราคาจำหน่ายประมาณ 1,900-2,000 บาท
9. เครื่องเสียงรถยนต์ JVC รุ่น KD-X40
เครื่องเสียงรถยนต์ JVC รุ่น KD-X40 เป็นเครื่องเสียงแบบ 1 Din ไม่มีหน้าจอ รองรับการใช้งานวิทยุด้วยความเสถียรสูง นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และ AUX IN ทำให้ผู้สามารถเลือกเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ตัวเครื่องมากับ Amplifier ที่ให้กำลังขับขนาด 50 วัตต์x4 แชนแนล มาพร้อมฟังก์ชันปรับแต่งเสียงด้วย iEQ พาราเมตริก 3 แบนด์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับรีโมทคอนโทรล ที่จะทำให้สามารถควบคุมการคำสั่งได้อย่างง่ายดาย
- ราคาจำหน่ายประมาณ 2,800 บาท-2,900 บาท
10. เครื่องเสียงรถยนต์ Pioneer รุ่น DEH-S5250BT
เครื่องเสียงรถยนต์ Pioneer รุ่น DEH-S5250BT เครื่องเสียแบบ 1 Din รองรับการเล่นไฟล์ MP3, WMA, AAC, WAV, FLAC และการเชื่อมต่อแบบ USB และ AUX มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง Siri Eyes Free ปุ่มปรับเสียงที่เป็นแบบ Rotary Volume Control หรือแบบมือหมุน มีระบบตัดเสียงร้องเพลงแบบคาราโอเกะ ตัวเครื่องมากับ Amplifier ที่ให้กำลังขับขนาด 50 วัตต์x4 แชนแนล และฟังก์ชันปรับแต่งเสียงด้วยอีควอไลเซอร์ (EQ) 13 แบนด์ ช่องต่อ USB อยู่ทีด้านหน้าแบบเรืองแสงสามารถเสียบชาร์จสมาร์ตโฟนได้
- ราคาจำหน่ายประมาณ 3,200-3,300 บาท
และนี่เป็น 10 เครื่องเสียงรถยนต์ที่เรานำมาแนะนำ โดยแต่ละรุ่นจะมีราคาที่แตกต่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับสเปก และออปชั่น ส่วนราคาที่ระบุไว้เป็นเพียงราคาโดยประมาณ ซึ่งบางร้านอาจจะมีการปรับลดเพิ่มเติม ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่แต่ละร้านจะจัดโปรโมชั่นอย่างไร
ทั้งนี้ การขับขี่รถควรมีสติตลอดเวลา อย่าเปิดเพลงที่ดังเกินเพราะอาจทำให้ขาดสมาธิ พลาดพลั้งทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งถ้าขับรถเปิดเพลงเสียงดัง จนสร้างความรำคาญและเดือดร้อนแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ถือเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 370 ผู้ที่ส่งเสียง หรือทำให้เกิดเสียง หรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท รวมถึงผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 อาจจะมีโทษทั้งจำคุกและปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : pioneercarentertainment.com, bossaudio.com, alpine-asia.com, sony.co.th, kenwood.com, worldtech.asia, roadstarthailand.com, kenwood.com, jvc.com, pioneer.com, lifewire.com, crutchfield.com, krisdika.go.th