มือใหม่หัดขับ กับข้อควรรู้และปฏิบัติตาม ในการใช้รถใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น เพื่อความปลอดภัยและถูกกฏจราจร
มือใหม่หัดขับ ถือว่าเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูง และมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะยังขาดประสบการณ์ และความชำนาญ ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมสิ่งที่นักขับหน้าใหม่ควรรู้ก่อนที่จะเริ่มลงสู่ท้องถนนจริง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุแก่ตนเองหรือกับเพื่อนร่วมทาง มาแนะนำดังนี้
ศึกษาและรู้จักระบบต่าง ๆ ของตัวรถ
ก่อนที่จะเริ่มออกรถ เราควรทำความรู้จักส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานให้ดี เช่น ตำแหน่งปรับเปลี่ยนเกียร์อยู่ที่จุดไหน ตำแหน่งปัดน้ำฝน รวมถึงสวิทซ์ไฟอยู่ฝั่งไหน ตำแหน่งล็อกรถ ตำแหน่งของที่ปรับกระจกมองข้าง รวมถึงปุ่มสตาร์ทรถ และต้องรู้ด้วยว่ารถที่ขับอยู่นั้นเติมน้ำมันฝั่งใด และเปิดฝาน้ำมันอย่างไรเมื่อไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม เพราะแต่จุดของรถแต่ละรุ่นนั้น จะมีความแตกต่างกัน และการวางตำแหน่งที่ไม่เหมือนกัน
ปรับระยะที่นั่งของตัวเบาะ และจัดตำแหน่งของพวงมาลัย
ก่อนที่จะสตาร์ตรถ ควรปรับระยะการนั่ง ปรับตำแหน่งพวงมาลัยรถยนต์ ให้เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งตามมาตรฐานการปรับตำแหน่งที่นั่ง ไม่ควรชิดหรือห่างจากพวงมาลัยมากเกินไป ตำแหน่งที่เหมาะสม ควรนั่งหลังชิดเบาะแล้วยืนแขนสองข้างไปด้านหน้า แล้ววางแขนทั้ง 2 ข้างไปบนพวงมาลัย ให้ตำแหน่งของพวงมาลัยอยู่ที่ข้อมือ จะเป็นตำแหน่งที่สามารถควบคุมพวงมาลัยได้ดีที่สุด รวมถึงการเช็กตำแหน่งเข่าที่ไม่ให้ยืดจนเกินไป เพื่อให้สามารถควบคุมคันเร่ง เบรก และคลัตช์ได้อย่างง่ายดาย
ปรับตำแหน่งกระจกมองหลัง และกระจกมองข้าง
ควรปรับให้มองเห็นภาพด้านหลังในมุมที่กว้าง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นด้านข้างและด้านหลังครอบคลุม ส่วนกระจกมองข้างฝั่งซ้ายหรือฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า ต้องปรับเช่นเดียวกับกระจกฝั่งคนขับ ซึ่งการปรับกระจกมองข้างทั้งสองด้านนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้เห็นตัวรถมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดจุดบอดในการมองเห็น ซึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ ที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นด้วยสายตา เพราะมีสิ่งบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นรอบรถ
ข้อแนะนำเพิ่มเติมที่ควรรู้
ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ต้องปฏิบัติตามกฎจราจร อาทิ ไม่ขับแช่เลนขวา ที่กำหนดความเร็วในการขับขี่ไม่ต่ำกว่า 100-120 กม./ชม. และไม่ควรขับชิดกับคันหน้ามากเกินไป เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจากการเบรกกะทันหันได้ และไม่เหยียบคันเร่งเมื่อสัญญาณไฟกำลังเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดง
อย่าลืมใช้สัญญาณไฟเลี้ยว สัญญาณไฟเลี้ยวเป็นสิ่งจำเป็น ห้ามลืมใช้เป็นอันขาดเพราะจะเป็นการบอกเพื่อนร่วมทางให้ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ควรเปิดไฟสัญญาณก่อนที่จะเลี้ยวเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 30 เมตร และให้ผู้ขับขี่รถคันอื่น เห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร นอกจากนั้นไม่เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตรงทางแยก เพราะรถคันอื่นไม่ทราบว่าคุณต้องการเลี้ยวหรือจะขับตรงไป
อย่าใช้ความเร็วมากเกินกำหนด ควรขับขี่ตามความเหมาะสม ด้วยความเร็วกฎหมายกำหนด เพราะยังไม่มีความชำนาญ อาจทำให้สูญเสียการควบคุมรถได้ โดยความเร็วตามกฎหมายกำหนดนั้น ถ้าเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และเขตเทศบาลทุกจังหวัด จะให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ส่วนในทางหลวงชนบท (ทางหลวงระหว่างจังหวัด) ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. ส่วนเส้นทางมอเตอร์เวย์ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.
ฝึกใช้สัญญาณเตือนให้เป็น อาทิ การบีบแตร หรือกระพริบไฟสูง เพื่อเป็นการสื่อสารให้ผู้ขับร่วมทางเดียวกันได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขอเส้นทาง หรือการเตือนโดยใช้สัญญาณไฟสูงกระพริบ แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
เว้นระยะรักษาความห่างกับรถคันอื่น ไม่ควรขับจี้รถคันหน้ามากเกินไป ควรเว้นระยะะรักษาความห่าง อย่างเหมาะสม เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันได้ ควรต้องเว้นระยะห่างไว้อยู่ที่ประมาณ 5 เมตรเป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าในสภาพภูมิอากาศที่แย่ หรือมองเห็นไม่ชัด ควรเพิ่มระยะห่างให้มากขึ้นเป็น 2- 3 เท่า หรืออย่างน้อย 15 - 20 เมตร
สมาธิในการขับรถต้องมีตลอดเวลา ทั้งมือเก่า หรือมือใหม่หัดขับ สิ่งที่สำคัญสำหรับการขับขี่คือ สมาธิ ไม่ควรใช้มือถือในขณะขับรถ รวมถึงการเปิดเพลงเสียงดังมาก ๆ เพราะอาจทำให้ไม่มีมีสมาธิในการขับขี่
สติกเกอร์มือใหม่ ควรต้องมี สติกเกอร์มือใหม่ควรต้องมีติดไว้หลังรถ เพราะจะเป็นสัญลักษณ์บอกผู้ร่วมทางที่ใช้ถนนอยู่ว่า รถคันนี้เป็นมือใหม่หัดขับ เพื่อเตือนรถคันอื่นรอบข้างให้มีความระมัดระวัง
สำหรับมือใหม่หัดขับ นอกจากเคล็ดลับที่บอกไปเบื้องต้นนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดของการขับรถ นั้นควรมีสติอยู่ตลอดเวลา ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาททุกครั้งเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย พร้อมกับปฏิบัติตามกฎจราจร และเมาไม่ขับ ถ้าปฎิบัติตามนี้แล้วก็จะสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยในทุกเส้นทาง