Triumph เผยโฉมมอเตอร์ไซค์คลาสสิก 5 รุ่นใหม่ จากตระกูล Bonneville

Triumph Bonneville 2021 มอเตอร์ไซค์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิก เผยโฉม 5 โมเดลใหม่ Triumph Bonneville T120, T120 Black, T100, Street Twin และ Street Twin Gold Line Limited Edition ที่อัปเกรดสมรรถนะและปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่

Triumph motorcycles เปิดตัวรถ มอเตอร์ไซค์ ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิก 5 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาครั้งใหญ่ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ เครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงใหม่ตอบสนองได้เร็วขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลงตามมาตรฐาน EURO 5 ได้แก่ รุ่น 1,200 ซี.ซี. Triumph Bonneville T120 และ Triumph Bonneville T120 Black รุ่น 900 ซี.ซี. Triumph Bonneville T100, Triumph Street Twin และ Triumph Street Twin Gold Line Limited Edition

Triumph Bonneville T120 และ T120 Black ใช้เครื่องยนต์สูบคู่ 1,200 ซี.ซี. ที่มีน้ำหนักเบาลงจากการใช้เพลาข้อเหวี่ยงแบบเบาผสานเข้ากับคลัตช์ เพลาบาลานเซอร์ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ เครื่องยนต์ตอบสนองดีขึ้น แรงบิดสูงสุดถึง 105 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 3,500 รอบต่อนาที และกำลังสูงสุด 80 แรงม้า ที่ 6,550 รอบต่อนาที

Triumph Bonneville T120 และ T120 Black มีรูปลักษณ์และสไตล์การตกแต่งที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ตัวถังเป็นทรงพิเศษตามแบบฉบับ Bonneville พร้อมแผ่นรองเข่า และตราสัญลักษณ์ 3 ขีดที่ทำจากโลหะชุบโครเมียมแบบใหม่ เรือนไมล์ทรงนาฬิกาคู่ มาพร้อมหน้าปัด 3D จอแสดงผลดิจิทัลมัลติฟังก์ชันแสดงข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดที่สามารถควบคุมได้ผ่านปุ่มบนแฮนด์

Triumph Bonneville T120 และ T120 Black มาพร้อมเบรก Brembo พร้อมจานเบรกคู่ และคาลิเปอร์เบรกคู่ แบบ 2 สูบ รุ่นใหม่ เสริมด้วยระบบ ABS ล้อหน้าขนาด 18 X 2.75 นิ้ว และล้อหลังขนาด 17 X 4.25 นิ้ว ขับขี่ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อย่างระบบควบคุมความเร็วคงที่ ซึ่งถูกติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยจะทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Road และ Rain นอกจากนี้ยังมีระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรง และระบบป้องกันการโจรกรรม

Triumph Bonneville T120 จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Jet Black, สี Cordovan RedSilver Ice และสี Cobalt Blue / Silver Ice ซึ่งจะมาพร้อมเส้นตัดขอบสีทองที่วาดด้วยมือ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 557,000 บาท

ส่วน Triumph Bonneville T120 Black จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สี Jet Black และสี Matt Jet Black / Matt Graphite ที่ให้ความเข้ม ดุดัน และล้ำสมัย พร้อมเส้นขอบตัดสีเงินวาดด้วยมือ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 557,000 บาท

Triumph Bonneville T00 มาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่ 900 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 65 แรงม้า ที่ 7,400 รอบต่อนาที ให้กำลังสูงขึ้นจากรุ่นก่อน 10 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร ที่ 3,750 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ไวขึ้น และมีรอบเครื่องยนต์สูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 500 รอบต่อนาที 

ด้านการขับขี่และควบคุมรถทำได้ดีขึ้นด้วยน้ำหนักที่เบาลงถึง 4 กิโลกรัม ระบบเบรก ABS พร้อมคาลิเปอร์เบรกหน้า Brembo แบบ 2 สูบ โช้คอัพหน้าแบบใหม่ ล้อซี่ลวดสไตล์คลาสสิก และยังมีระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้รุ่นล่าสุด ระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรงเพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ เบาะนั่งให้ความสะดวกสบายทั้งกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

Triumph Bonneville T00 มีสไตล์การตกแต่งและการเก็บรายละเอียดที่ดียิ่งขึ้น หน้าจอเรือนไมล์ทรงนาฬิกาแบบใหม่ พร้อมโลโก้ Bonneville และตัวอักษรแบบดั้งเดิม จอแสดงผลมัลติฟังก์ชันที่สามารถควบคุมได้สะดวกผ่านปุ่มเลื่อนที่ติดตั้งไว้บนแฮนด์ ไฟท้าย Full LED ขนาดกะทัดรัดและหรูหรา นอกจากนี้ยังมีชุดแต่งเสริมเพิ่มเติมอีกกว่า 117 รายการให้เลือก

Triumph Bonneville T00 จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคลาสสิก ได้แก่ สี Lucerne Blue / Fusion White พร้อมเส้นตัดขอบสีเงินวาดด้วยมือ, สี Jet Black และสีทูโทน Carnival Red / Fusion White พร้อมเส้นตัดขอบสีเงินวาดด้วยมือ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 457,000 บาท

Triumph Street Twin ติดตั้งเครื่องยนต์สูบคู่ 900 ซี.ซี. รุ่นใหม่ล่าสุด ให้พละกำลัง 65 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร ที่ 3,800  รอบต่อนาที ควบคุมกำลังและแรงบิดได้ง่ายด้วยระบบควบคุมคันเร่งไฟฟ้า ทำให้เหมาะสำหรับทั้งนักขี่มือใหม่และนักขี่ผู้มากประสบการณ์

Triumph Street Twin มาพร้อมเทคโนโลยีเช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้ โหมดการขับขี่แบบ Road และ Rain ระบบเบรก ABS พร้อมคาลิเปอร์เบรกหน้า Brembo จานเบรกเดี่ยว และมีระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรงเพื่อลดการใช้แรงในการกำคลัตช์และสะดวกขึ้น

Triumph Street Twin มีการตกแต่งแบบคัสตอมโมเดิร์นของ Street Twin เสริมด้วยอุปกรณ์แบบครบครัน ขายึดไฟหน้าอะลูมิเนียมปัดเงา ไฟหน้าขนาดกะทัดรัด และตราสัญลักษณ์ Triumph บนขั้วหลอดไฟ โดยไฟท้ายเป็น LED ที่ทั้งกะทัดรัดและหรูหรา พร้อมตัวถังสไตล์มินิมอลแบบ stripped-back

หน้าจอเรือนไมล์พร้อมมาตรวัดความเร็วอนาล็อกแบบคลาสสิก และจอแสดงผลเมนูแบบดิจิทัล ใช้งานสะดวกผ่านปุ่มเลื่อนที่ติดอยู่บนแฮนด์ สามารถควบคุมด้วยปลายนิ้วในระหว่างการขับขี่ อีกทั้งยังมีช่องชาร์จไฟ USB ใต้เบาะนั่ง ระบบป้องกันการโจรกรรมทำงานร่วมกับกุญแจฝังชิป และรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมปลอกมือจับปรับอุณหภูมิไฟฟ้า และระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง

Triumph Street Twin จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Cobalt Blue, สี Matt Ironstone และสี Jet Black มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 395,000 บาท 

ส่วนอีกรุ่นหนึ่งคือ Triumph Street Twin Gold Line Limited Edition รุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาจำนวน 1,000 คันเท่านั้น มีการพัฒนาปรับปรุงคุณลักษณะทุกอย่างของ Street Twin ปี 2021 รุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยงานฝีมือสุดประณีตของทีมงานทำสีที่เก็บรายละเอียดทุกอย่างด้วยมือ และยังมาพร้อมใบรับรองที่ระบุหมายเลข VIN เฉพาะของรถมอเตอร์ไซค์แต่ละคัน

ด้านสเปกและฟังก์ชันอื่น ๆ เหมือนกับ Triumph Street Twin ในรุ่นปกติ Triumph Street Twin Gold Line Limited Edition มาพร้อมตัวเลือกสี Matt Sapphire Black และโลโก้ Triumph ที่สืบทอดมาจากรุ่นดั้งเดิมกับเส้นตัดขอบสีทองวาดด้วยมือ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 420,000 บาท

ทั้งนี้ มอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกทั้ง 5 รุ่น พร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย และนอกจากมอเตอร์ไซค์ Triumph ตระกูล Bonneville แล้ว ปัจจุบันก็ยังมีมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกที่น่าสนใจอย่าง Royal Enfield Interceptor และ Yamaha Bolt-R ที่แรงและคลาสสิกไม่แพ้กัน

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : triumphmotorcycles.co.th