เครื่องดูดฝุ่นในรถ อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำความสะอาดรถยนต์ มีวิธีเลือกยังไง แนะนำวิธีเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ ต้องดูอะไรบ้าง ควรใช้แบบใด และมียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง
ทุกวันนี้การบำรุงหรือดูแลรักษารถยนต์ที่เรารักนอกจากการนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะการใช้งาน และการล้าง เคลือบสีต่าง ๆ ภายนอกตัวรถแล้ว ภายในห้องโดยสารก็เป็นส่วนหนึ่งที่คนรักรถควรจะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้น เครื่องดูดฝุ่นในรถจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนหามาใช้งานกันมากขึ้น มันทั้งช่วยทำให้รถสะอาดปราศจากสิ่งสกปรก และป้องกันการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเชื้อราต่าง ๆ ได้อีกด้วย แต่ใครที่ยังไม่รู้ว่าควรใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไหนดี วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการเลือกซื้อว่าควรใช้รุ่นใด แบบไหนดี และราคาเท่าไร พร้อมทั้งแนะนำ 10 เครื่องดูดฝุ่นในรถที่น่าสนใจมาให้ลองพิจารณากัน
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/d2a9e20c-f4b2-457c-a1a3-55e0a75032e0.jpg)
วิธีการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถ
การจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถสักเครื่องหนึ่งนั้น หลายคนที่ไม่เคยใช้มาก่อนอาจสงสัยหรือกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าควรดูที่อะไรก่อนดีเพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด เรามาดูสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถกัน
- ความแรง
พละกำลังของเครื่องดูดฝุ่นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะเครื่องดูดฝุ่นที่มีพละกำลังมากย่อมจะดูดหรือทำความสะอาดได้ดีกว่ารุ่นที่มีพละกำลังน้อย โดยดูจากค่า วัตต์ (W) หรือ แอมแปร์ (A) ยิ่งตัวเลขมากก็หมายถึงกำลังที่มากเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเครื่องดูดฝุ่นในรถที่มีกำลังสูง ๆ มักจะเป็นแบบเสียบปลั๊ก ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับการพกพาไปในที่ต่าง ๆ เท่าไรนัก ถ้าต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่พกพาได้ก็อาจต้องยอมรับในส่วนของพละกำลังที่ลดลงนั่นเอง
- ขนาดเครื่องดูดฝุ่น
อย่างที่กล่าวไปว่าความแรงของเครื่องดูดฝุ่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวเครื่องดูดฝุ่นด้วยเช่นกัน แต่ขนาดที่ใหญ่ก็อาจไม่เหมาะกับการใช้งานในรถยนต์ที่มีซอก มุม เข้าถึงยาก เครื่องดูดฝุ่นในรถที่มีขนาดเล็กจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเครื่องดูฝุ่นขนาดใหญ่ เว้นแต่ว่าคุณต้องการใช้เครื่องดูดฝุ่นนั้นทำความสะอาดในที่อื่น ๆ ด้วย
- แหล่งพลังงานของเครื่องดูดฝุ่น
เครื่องดูดฝุ่นในรถมีให้เลือกทั้งแบบเสียบปลั๊กและมีแบตเตอรี่ในตัว ซึ่งทั้ง 2 แบบมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน แบบเสียบปลั๊กอาจจะเหมาะกับการใช้งานที่บ้าน หรือสถานที่ที่มีปลั๊กไฟเท่านั้น ส่วนแบบที่มีแบตเตอรี่ในตัวส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก พกพาง่าย แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะกำลังในการดูดอาจจะเริ่มลดลง ซึ่งถ้าหากต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเราควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถรุ่นพกพาที่มีสายเสียบที่จุดบุหรี่ภายในรถมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- ความจุและรูปแบบถังเก็บฝุ่น
อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องดูก่อนเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นก็คือถังเก็บเศษฝุ่นผงต่าง ๆ ซึ่งจะมีขนาดความจุที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ หากใช้งานน้อยขนาดเล็กก็เพียงพอแล้ว ส่วนถุงเก็บฝุ่นผงนั้นก็มีให้เลือกทั้งแบบถุงกระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง, ถุงเก็บฝุ่นแบบใช้ซ้ำ และแบบถังเก็บ ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องดูดฝุ่นหรือความต้องการใช้งาน
- ราคา
อาจจะเป็นข้อสำคัญที่สุดของคนที่กำลังจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง หรือแบรนด์น้องใหม่ที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นหู โดยมีราคาตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ซึ่งแน่นอนคุณภาพการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับราคาที่เราเลือกด้วย วันนี้เลยจะมาแนะนำเครื่องดูดฝุ่นในรถว่ามีรุ่นไหนน่าใช้ มียี่ห้อไหนให้เลือกบ้าง
เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี
1. Bosch BHN20L Rechargeable vacuum cleaner
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/3689a55b-ea73-4f85-8a23-da82ecd89f8a.jpg)
ภาพจาก bosch-home.in.th
เครื่องดูดฝุ่นในรถ Bosch Rechargeable vacuum cleaner Move Lithium 20Vmax (BHN20L) ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบไซโคลน และมีระบบการไหลเวียนของอากาศสูง ช่วยกรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยไส้กรอง 3 ชั้น สามารถถอดล้างได้ จับได้อย่างถนัดมือ และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กิโลกรัม ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 45 นาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีคุณภาพสูงและใช้เวลาชาร์จไฟที่สั้น
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 3,590-4,290 บาท
2. Mi Vacuum Cleaner Light
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/2945a295-c316-4bc8-8b85-8ebb64774268.jpg)
ภาพจาก mi.com
เครื่องดูดฝุ่นในรถจากแบรนด์ที่มีสินค้าไอทีสุดหลากหลายอย่าง Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Light เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายที่มีการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งในบ้านหรือในรถยนต์ เพียงแค่เปลี่ยนหัวดูดก็สามารถช่วยให้การทำความสะอาดสบายมากยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 45 นาที น้ำหนักเบา 1.2 กิโลกรัม ระบบการกรองแบบ 3 ชั้น ให้กำลังการดูด 50 AW
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 3,500-3,900 บาท
3. SHIMONO 1020C
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/600810d9-88ef-4d43-bd3a-09fcde066052.jpg)
ภาพจาก shimono.in.th
เครื่องดูดฝุ่นแบบพกพาในรถยนต์ Shimono รุ่น 1020C ที่ทางแบรนด์เคลมว่าดูดได้แรงด้วยแรงดูด 4000 PA ใช้วัสดุทนทาน มีเทคโนโลยีไซโคลนเพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นกรองอุดตันก่อนเวลาอันควร ไส้กรองแบบสเตนเลส พร้อมสายท่อต่อชนิดงอ ยืดหด ปรับได้ ขนาดเครื่องเล็กกะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานทั้งในบ้านและในรถยนต์
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,490-1,990 บาท
4. Autobot Vac Pro mini 2
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/a24be828-2162-44f2-9c7a-21083e2e2be5.jpg)
ภาพจาก autobotvacuum.com
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดพกพาที่เหมาะสำหรับการใช้งานในรถยนต์อีกรุ่นหนึ่ง Autobot Vac Pro mini 2 ให้กำลังแรงดูดสูงถึง 4,200 PA ใช้ไส้กรอง HEPA ที่กรองฝุ่นขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 25 นาที
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 2,590 บาท
5. Shimono M7 2-in1
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/29eb2e60-e10d-4bdc-a0bd-4cdaa359b3f4.jpg)
ภาพจาก shimono.co.th
เครื่องดูดฝุ่นในรถที่สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งบนบ้านหรือในที่ต่าง ๆ มาพร้อมไส้กรอง HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก 0.3PM ได้ ทำความสะอาดได้อย่างมั่นใจด้วยเครื่องกำเนิด Ozone ที่สามารถฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และกำจัดกลิ่นอับในอากาศได้ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,290-1,990 บาท
6. ALTEC Vacuum Cleaner V2 mini
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/ba8c3ca4-30e4-44cd-b5f6-773050743693.jpg)
ภาพจาก altec.asia
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดพกพา มาพร้อมหัวดูด 2 แบบ เพื่อการใช้งานที่หลากหลายในแต่ละพื้นผิวโดยเฉพาะในรถยนต์ สามารถทำความสะอาดได้ทั้งฝุ่นละออง, เศษอาหาร, ขนสัตว์ และคราบน้ำมันบนโซฟา มีกำลังแรงดูด 5,000 PA ใช้ตัวกรอง HEPA ที่มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันมลพิษได้ถึง 2 ชั้น และชุดตัวกรองนี้สามารถถอดมาล้างทำความสะอาดได้
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 890-1,990 บาท
7. ELECTROLUX Rapido ZB6307DB
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/ea6a9e34-6448-40ff-8c88-fd62d34e5bfa.jpg)
ภาพจาก electrolux.co.th
เครื่องดูดฝุ่นชนิดมือจับรุ่น Rapido กำลังไฟ 7.2 โวลต์ ขนาดเล็กพกพาสะดวก หัวดูดที่ซอกซอน สามารถเข้าถึงจุดต่าง ๆ เพื่อทำความสะอาดได้อย่างสะดวกง่ายดาย พร้อมล้อจิ๋ว Soft Steer เคลื่อนย้ายได้สะดวก ดักจับฝุ่นในอากาศและกำจัดฝุ่นผงได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบกรองฝุ่น 2 ชั้น ปรับแรงดูดได้ 2 ระดับ ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ TurboPower ชาร์จไฟเต็มภายใน 4 ชั่วโมง
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 2,090-2,290 บาท
8. HAFELE Cordless Vacuum Cleaner
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/65121b3f-ce68-43aa-9ec3-735ac14119d7.jpg)
ภาพจาก hafelehome.co.th
เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ HAFELE รุ่นนี้เป็นแบบไร้สาย มีแรงดูด 5,000 PA แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 12 นาที ใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มประมาณ 1-2 ชั่วโมง ระดับเสียงรบกวนขณะใช้งานน้อยกว่า 75 เดซิเบล มาพร้อมกับหัวแปรงสำหรับดูดหรือปัดตามซอก หัวชาร์จที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ และปลั๊กสำหรับชาร์จไฟบ้าน ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา ถอดประกอบง่าย
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,590-2,590 บาท
9. Black & Decker PD1200AV dustbuster Flexi Car Vacuum
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/415f9948-7f9e-4532-aca2-1b4b430335e1.jpg)
ภาพจาก blackanddecker.co.uk
เครื่องดูดฝุ่นในรถแบบมือจับจากแบรนด์ Black & Decker ใช้กำลังไฟ 12V ตัวเครื่องขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก เสียบไฟกับที่จุดบุหรี่ภายในรถได้ สายไฟยาว 5 เมตร หัวดูดสามารถดูดจุดที่เข้าถึงยากได้ดี
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,690-1,890 บาท
10. CoClean Cleanfly Car Vacuum Cleaner
![เครื่องดูดฝุ่นในรถ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/17fa8fd5-0491-4c52-ab5d-3a2496b6949b.jpg)
ภาพจาก coclean.com
เครื่องดูดฝุ่นพกพาจากแบรนด์ลูกของ Xiaomi ใช้ได้ทั้งในบ้านและในรถ ขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บไว้ในรถได้ เป็นเครื่องดูดฝุ่รแบบไร้สาย พร้อมระบบชาร์จเร็ว ชาร์จเต็มใน 1.5 ชั่วโมง สามารถใช้งานได้นาน 13 นาที มีแรงดูด 5,800 PA และตัวกรอง HEPA แบบสองชั้นที่สามารถกรองเศษฝุ่นได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน มีหัวดูดแบบแบนและหัวแปรงให้เลือกเปลี่ยนได้
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,290-1,490 บาท