เครื่องดูดฝุ่นในรถ อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำความสะอาดรถยนต์ มีวิธีเลือกยังไง แนะนำวิธีเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ ต้องดูอะไรบ้าง ควรใช้แบบใด และมียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง
ทุกวันนี้การบำรุงหรือดูแลรักษารถยนต์ที่เรารักนอกจากการนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะการใช้งาน และการล้าง เคลือบสีต่าง ๆ ภายนอกตัวรถแล้ว ภายในห้องโดยสารก็เป็นส่วนหนึ่งที่คนรักรถควรจะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้น เครื่องดูดฝุ่นในรถจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนหามาใช้งานกันมากขึ้น มันทั้งช่วยทำให้รถสะอาดปราศจากสิ่งสกปรก และป้องกันการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเชื้อราต่าง ๆ ได้อีกด้วย แต่ใครที่ยังไม่รู้ว่าควรใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไหนดี วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการเลือกซื้อว่าควรใช้รุ่นใด แบบไหนดี และราคาเท่าไร พร้อมทั้งแนะนำ 10 เครื่องดูดฝุ่นในรถที่น่าสนใจมาให้ลองพิจารณากัน
วิธีการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถ
การจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถสักเครื่องหนึ่งนั้น หลายคนที่ไม่เคยใช้มาก่อนอาจสงสัยหรือกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าควรดูที่อะไรก่อนดีเพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด เรามาดูสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถกัน
- ความแรง
พละกำลังของเครื่องดูดฝุ่นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะเครื่องดูดฝุ่นที่มีพละกำลังมากย่อมจะดูดหรือทำความสะอาดได้ดีกว่ารุ่นที่มีพละกำลังน้อย โดยดูจากค่า วัตต์ (W) หรือ แอมแปร์ (A) ยิ่งตัวเลขมากก็หมายถึงกำลังที่มากเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเครื่องดูดฝุ่นในรถที่มีกำลังสูง ๆ มักจะเป็นแบบเสียบปลั๊ก ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับการพกพาไปในที่ต่าง ๆ เท่าไรนัก ถ้าต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่พกพาได้ก็อาจต้องยอมรับในส่วนของพละกำลังที่ลดลงนั่นเอง
- ขนาดเครื่องดูดฝุ่น
อย่างที่กล่าวไปว่าความแรงของเครื่องดูดฝุ่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวเครื่องดูดฝุ่นด้วยเช่นกัน แต่ขนาดที่ใหญ่ก็อาจไม่เหมาะกับการใช้งานในรถยนต์ที่มีซอก มุม เข้าถึงยาก เครื่องดูดฝุ่นในรถที่มีขนาดเล็กจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเครื่องดูฝุ่นขนาดใหญ่ เว้นแต่ว่าคุณต้องการใช้เครื่องดูดฝุ่นนั้นทำความสะอาดในที่อื่น ๆ ด้วย
- แหล่งพลังงานของเครื่องดูดฝุ่น
เครื่องดูดฝุ่นในรถมีให้เลือกทั้งแบบเสียบปลั๊กและมีแบตเตอรี่ในตัว ซึ่งทั้ง 2 แบบมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน แบบเสียบปลั๊กอาจจะเหมาะกับการใช้งานที่บ้าน หรือสถานที่ที่มีปลั๊กไฟเท่านั้น ส่วนแบบที่มีแบตเตอรี่ในตัวส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก พกพาง่าย แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะกำลังในการดูดอาจจะเริ่มลดลง ซึ่งถ้าหากต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเราควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถรุ่นพกพาที่มีสายเสียบที่จุดบุหรี่ภายในรถมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- ความจุและรูปแบบถังเก็บฝุ่น
อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องดูก่อนเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นก็คือถังเก็บเศษฝุ่นผงต่าง ๆ ซึ่งจะมีขนาดความจุที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ หากใช้งานน้อยขนาดเล็กก็เพียงพอแล้ว ส่วนถุงเก็บฝุ่นผงนั้นก็มีให้เลือกทั้งแบบถุงกระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง, ถุงเก็บฝุ่นแบบใช้ซ้ำ และแบบถังเก็บ ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องดูดฝุ่นหรือความต้องการใช้งาน
- ราคา
อาจจะเป็นข้อสำคัญที่สุดของคนที่กำลังจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง หรือแบรนด์น้องใหม่ที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นหู โดยมีราคาตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ซึ่งแน่นอนคุณภาพการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับราคาที่เราเลือกด้วย วันนี้เลยจะมาแนะนำเครื่องดูดฝุ่นในรถว่ามีรุ่นไหนน่าใช้ มียี่ห้อไหนให้เลือกบ้าง
เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี
1. Bosch BHN20L Rechargeable vacuum cleaner
เครื่องดูดฝุ่นในรถ Bosch Rechargeable vacuum cleaner Move Lithium 20Vmax (BHN20L) ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบไซโคลน และมีระบบการไหลเวียนของอากาศสูง ช่วยกรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยไส้กรอง 3 ชั้น สามารถถอดล้างได้ จับได้อย่างถนัดมือ และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กิโลกรัม ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 45 นาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีคุณภาพสูงและใช้เวลาชาร์จไฟที่สั้น
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 3,590-4,290 บาท
2. Mi Vacuum Cleaner Light
เครื่องดูดฝุ่นในรถจากแบรนด์ที่มีสินค้าไอทีสุดหลากหลายอย่าง Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Light เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายที่มีการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งในบ้านหรือในรถยนต์ เพียงแค่เปลี่ยนหัวดูดก็สามารถช่วยให้การทำความสะอาดสบายมากยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 45 นาที น้ำหนักเบา 1.2 กิโลกรัม ระบบการกรองแบบ 3 ชั้น ให้กำลังการดูด 50 AW
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 3,500-3,900 บาท
3. SHIMONO 1020C
เครื่องดูดฝุ่นแบบพกพาในรถยนต์ Shimono รุ่น 1020C ที่ทางแบรนด์เคลมว่าดูดได้แรงด้วยแรงดูด 4000 PA ใช้วัสดุทนทาน มีเทคโนโลยีไซโคลนเพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นกรองอุดตันก่อนเวลาอันควร ไส้กรองแบบสเตนเลส พร้อมสายท่อต่อชนิดงอ ยืดหด ปรับได้ ขนาดเครื่องเล็กกะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานทั้งในบ้านและในรถยนต์
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,490-1,990 บาท
4. Autobot Vac Pro mini 2
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดพกพาที่เหมาะสำหรับการใช้งานในรถยนต์อีกรุ่นหนึ่ง Autobot Vac Pro mini 2 ให้กำลังแรงดูดสูงถึง 4,200 PA ใช้ไส้กรอง HEPA ที่กรองฝุ่นขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 25 นาที
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 2,590 บาท
5. Shimono M7 2-in1
เครื่องดูดฝุ่นในรถที่สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งบนบ้านหรือในที่ต่าง ๆ มาพร้อมไส้กรอง HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก 0.3PM ได้ ทำความสะอาดได้อย่างมั่นใจด้วยเครื่องกำเนิด Ozone ที่สามารถฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และกำจัดกลิ่นอับในอากาศได้ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,290-1,990 บาท
6. ALTEC Vacuum Cleaner V2 mini
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดพกพา มาพร้อมหัวดูด 2 แบบ เพื่อการใช้งานที่หลากหลายในแต่ละพื้นผิวโดยเฉพาะในรถยนต์ สามารถทำความสะอาดได้ทั้งฝุ่นละออง, เศษอาหาร, ขนสัตว์ และคราบน้ำมันบนโซฟา มีกำลังแรงดูด 5,000 PA ใช้ตัวกรอง HEPA ที่มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันมลพิษได้ถึง 2 ชั้น และชุดตัวกรองนี้สามารถถอดมาล้างทำความสะอาดได้
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 890-1,990 บาท
7. ELECTROLUX Rapido ZB6307DB
เครื่องดูดฝุ่นชนิดมือจับรุ่น Rapido กำลังไฟ 7.2 โวลต์ ขนาดเล็กพกพาสะดวก หัวดูดที่ซอกซอน สามารถเข้าถึงจุดต่าง ๆ เพื่อทำความสะอาดได้อย่างสะดวกง่ายดาย พร้อมล้อจิ๋ว Soft Steer เคลื่อนย้ายได้สะดวก ดักจับฝุ่นในอากาศและกำจัดฝุ่นผงได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบกรองฝุ่น 2 ชั้น ปรับแรงดูดได้ 2 ระดับ ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ TurboPower ชาร์จไฟเต็มภายใน 4 ชั่วโมง
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 2,090-2,290 บาท
8. HAFELE Cordless Vacuum Cleaner
เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ HAFELE รุ่นนี้เป็นแบบไร้สาย มีแรงดูด 5,000 PA แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 12 นาที ใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มประมาณ 1-2 ชั่วโมง ระดับเสียงรบกวนขณะใช้งานน้อยกว่า 75 เดซิเบล มาพร้อมกับหัวแปรงสำหรับดูดหรือปัดตามซอก หัวชาร์จที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ และปลั๊กสำหรับชาร์จไฟบ้าน ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา ถอดประกอบง่าย
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,590-2,590 บาท
9. Black & Decker PD1200AV dustbuster Flexi Car Vacuum
เครื่องดูดฝุ่นในรถแบบมือจับจากแบรนด์ Black & Decker ใช้กำลังไฟ 12V ตัวเครื่องขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก เสียบไฟกับที่จุดบุหรี่ภายในรถได้ สายไฟยาว 5 เมตร หัวดูดสามารถดูดจุดที่เข้าถึงยากได้ดี
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,690-1,890 บาท
10. CoClean Cleanfly Car Vacuum Cleaner
เครื่องดูดฝุ่นพกพาจากแบรนด์ลูกของ Xiaomi ใช้ได้ทั้งในบ้านและในรถ ขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บไว้ในรถได้ เป็นเครื่องดูดฝุ่รแบบไร้สาย พร้อมระบบชาร์จเร็ว ชาร์จเต็มใน 1.5 ชั่วโมง สามารถใช้งานได้นาน 13 นาที มีแรงดูด 5,800 PA และตัวกรอง HEPA แบบสองชั้นที่สามารถกรองเศษฝุ่นได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน มีหัวดูดแบบแบนและหัวแปรงให้เลือกเปลี่ยนได้
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 1,290-1,490 บาท