The City Turbo ยนตรกรรมที่จะเปลี่ยนทุกภาพจำคำนิยามเดิม ๆ ของรถซิตี้คาร์ที่คุณเคยรู้จัก ยกระดับมาตรฐานใหม่ด้วยสมรรถนะเหนือชั้นของเครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ “เปิด” ทุกความเป็นไปได้ เปลี่ยนวิถีของการใช้ชีวิตของคนในเมืองที่เป็นอยู่ให้ดีกว่าที่เคย
สำหรับคนเมืองในยุคนี้การมีรถยนต์ที่สามารถขับขี่ไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัว คงจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตไม่น้อย วันนี้เราจะมาพูดถึงรถในกลุ่มซิตี้คาร์ ซึ่งถือเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่กำลังได้รับความนิยมมาก ตอบโจทย์ในเรื่องของความประหยัด อเนกประสงค์ และเพียงพอต่อการใช้งาน
แน่นอน… เมื่อพูดถึง “ซิตี้คาร์” สิ่งที่หลายคนน่าจะนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ เลยคือ เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่เน้นใช้งานในเมือง มีความคล่องตัว ประหยัดน้ำมัน และที่สำคัญราคาไม่แพง ! นั่นหมายความว่า ภาพของซิตี้คาร์ในแบบเดิม ๆ คือรถที่อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องสมรรถนะและการใช้งานอยู่บ้าง ทั้งเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ อัตราเร่งที่ทำได้แค่ในระดับหนึ่ง มีขนาดของตัวรถและห้องโดยสารที่ไม่ได้กว้างขวางมากนัก เมื่อต้องการบรรทุกสัมภาระที่มีน้ำหนักมาก รถก็อาจมีอาการเครื่องอืด เร่งไม่ขึ้น หรือเมื่อต้องเดินทางไกลเป็นเวลานาน ๆ ขับยาว ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดการเมื่อยล้าหากที่นั่งและห้องโดยสารนั่งไม่สบาย
และแล้วก็ได้เวลาลบทุกภาพจำของซิตี้คาร์แบบเดิม ๆ พร้อม “เปิด” ทุกความเป็นไปได้ กับการมาของ “The City Turbo” รถยนต์ที่จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับกลุ่มรถยนต์ใช้ในเมือง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสมรรถนะเท่านั้น แต่ The City Turbo ยังมาพร้อมความหรูหรา สปอร์ต เร้าใจ สัมผัสความรู้สึกสะดวกสบายในการขับขี่ได้อย่างที่ไม่เคยมีในรถยนต์ซิตี้คาร์มาก่อน (ไม่ธรรมดาใช่ไหมล่ะ)
สำหรับ All New Honda City โฉมใหม่ หรือ The City Turbo เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2562 โดยต่อยอดความสำเร็จจากโฉมก่อนหน้านี้ ด้วยการนำเสนอสิ่งใหม่ ทำให้เปลี่ยนความคิดที่เคยมีต่อรถซิตี้คาร์ได้อย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบใหม่ 1.0 ลิตร ให้ความแรงและสมรรถนะเหนือกว่าที่รถยนต์ซิตี้คาร์ทั่วไปทำได้ รูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว เพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ มีความกว้างขวางหรูหราของห้องโดยสาร สัมผัสได้ถึงความสะดวกสบาย และนี่คือ 5 สิ่งที่ The City Turbo ได้ทำให้นิยามและภาพของซิตี้คาร์แบบเดิม ๆ ที่เคยรู้จักเปลี่ยนไป
1. เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ความแรงเหนือกว่าที่เคย
The City Turbo ติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ 1.0 ลิตร VTEC TURBO ในทุกรุ่น มาพร้อม Turbocharger ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 7-SPEED ให้กำลังสูงสุดถึง 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์แรงที่สุดเมื่อเทียบกับรถที่ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันในกลุ่มนี้ และแรงกว่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบเดิม
ขณะเดียวกัน ความแรงของ The City Turbo ยังมาพร้อมกับอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร* อีกด้วย ซึ่งนี่คือประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์ของชีวิตคนเมืองทั้งเรื่องของขีดความสามารถและความคุ้มค่า
* ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ (อัตราการประหยัดน้ำมันขึ้นอยู่กับสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)
2. รูปลักษณ์สปอร์ต เพิ่มความเร้าใจ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างจากรถยนต์ซิตี้คาร์ทั่วไปได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นคือ การออกแบบภายนอกของ The City Turbo ที่มาด้วยรูปลักษณ์แบบสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในรุ่นพิเศษ RS ซึ่งเพิ่มความเท่ร้อนแรงด้วยสีแดงใหม่ Ignite Red Metallic บวกกับดีไซน์ของชุดแต่งรอบคันที่ทำออกมาได้อย่างล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าและสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว เสริมสร้างความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ สัมผัสได้ถึงความเร้าใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
3. ภายในห้องโดยสารหรูหรา กว้างขวางสบายยิ่งขึ้น
การดีไซน์ภายในห้องโดยสารก็นับเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ The City Turbo ทำออกมาได้ดี เพราะมีการออกแบบเบาะนั่งและการวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้โปร่งโล่งมากขึ้น เพิ่มพื้นที่ทั้งส่วน head room และ leg room สอดรับกับสรีระและท่านั่งที่สบาย ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด สามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถได้ชิล ๆ รู้สึกผ่อนคลายในการขับขี่และการโดยสารระยะทางไกลต่อเนื่อง
นอกจากนี้ The City Turbo ยังมีการตกแต่งภายในที่ช่วยเพิ่มเสริมความรู้สึกของความหรูหรา สร้างความมั่นใจในระหว่างการเดินทางได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับรุ่นพิเศษ RS ภายในเป็นเบาะหนังกลับ และตกแต่งด้วยด้ายแดง เพิ่มความสปอร์ตไปอีกขั้น ในขณะที่ รุ่น SV ภายในตกแต่งแบบทูโทนด้วยสีไอวอรี่/ดำ วัสดุหุ้มเบาะใช้หนังแท้และหนังสังเคราะห์ วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ Piano Black ไล่ไปจนถึงมือจับประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ให้ความรู้สึกหรูหราเหนือกว่าในระดับของรถยนต์ซิตี้คาร์ทั่วไป
4. สะดวกสบายตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงและการเชื่อมต่อ
The City Turbo จัดเต็มความบันเทิงและสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง โดยในรุ่นพิเศษ RS และรุ่น SV ติดตั้งระบบวิทยุหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อด้วย Apple CarPlay พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับรุ่น RS มาพร้อมกับลำโพง 8 ตำแหน่ง เรียกได้ว่าเพลิดเพลินสุด ๆ แม้ต้องเดินทางคนเดียว และได้สนุกแบบเต็มสตรีมยามไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว หรือร่วมทริปเฮฮากับกลุ่มเพื่อน นอกจากนี้ The City Turbo ยังรองรับ Honda CONNECT ที่จะช่วยให้เชื่อมต่อสื่อสารและดูข้อมูลการทำงานของรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนได้ตลอดเวลาอีกด้วย
5 เปลี่ยนไลฟ์สไตล์แบบเก่า สู่การใช้ชีวิตเกินความคาดหมาย
ด้วยสมรรถนะและฟังก์ชันเทคโนโลยีของ The City Turbo รูปแบบการใช้งานในทุก ๆ วันจึงเปลี่ยนไปได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยความแรงของพลังเทอร์โบ ที่ทำให้สามารถเร่งทะยานทำความเร็วตอบสนองได้ดั่งใจไม่มีอาการเครื่องอืด แม้ต้องเดินทางพร้อมกับเพื่อนหลาย ๆ คน หรือต้องบรรทุกสัมภาระขนของหนัก ๆ
ขณะที่ความกว้างขวางโอ่อ่าภายในห้องโดยสารของ The City Turbo จะมอบความสบาย ผ่อนคลาย ไม่มีอาการเมื่อยล้า แม้จะต้องขับขี่หรือโดยสารต่อเนื่องนาน ๆ ทั้งจากสภาพจราจรติดขัดในเมือง หรือการเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมทั้งภายนอกและภายใน ยังช่วยเสริมบุคลิกภาพของผู้ขับขี่ให้ดูมีความทันสมัย มั่นใจ พร้อมเผชิญกับความท้าทาย ปลดปล่อยพลังความมุ่งมั่นในทุกการเดินทาง
หยุดทุกข้อจำกัดของซิตี้คาร์ REIMAGINE YOUR NEW POSSIBILITIES “เปิด” ทุกความเป็นไปได้ The City Turbo รถยนต์ที่เกิดมาเพื่อเปลี่ยนทุกมาตรฐานของรถซิตี้คาร์แบบเดิม ๆ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ยกระดับการใช้งานรถยนต์ซิตี้คาร์ให้ดีเกินความคาดหมาย กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมหรือยังที่จะไปสัมผัส และเปิดประสบการณ์ใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ความเป็นคุณ ?
สัมผัสและทดลองขับได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ honda.co.th