x close

Ferrari SF90 Stradale คงถึงเวลาที่ม้าต้องแหกคอกอีกครั้ง

Ferrari SF90 Stradale ถึงเวลาที่ม้าต้องกลายพันธุ์ เพื่อแลกกับ 1,000 แรงม้า สู้คู่แข่งที่ Ferrari เคยเชิดใส่ และในวันนี้ Ferrari ต้องยอมละทิ้งแนวคิดดั้งเดิมไว้บนหิ้งอีกครั้ง ด้วย Ferrari SF90 Stradale

เครื่องยนต์ V12 สูบ, วางกลางลำด้านหน้า, ตัวถังสไตล์ GT คือสิ่งที่ Enzo Ferrari ยึดถือและใช้แสดงความเป็น Ferrari รุ่นสูงสุดมาตลอด แต่บัดนี้ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน แนวคิดของ Enzo Ferrari อาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้ารุ่นใหม่ต้องการและถ้าไม่ปรับตัวให้ไวคงแพ้ซูเปอร์คาร์หัวก้าวหน้าอย่าง Lamborghini รถสปอร์ตร่วมชาติที่ Enzo Ferrari มองว่าต่ำต้อยกว่าตนมาตลอด

และนี่คือ Ferrari SF90 Stradale ซูเปอร์คาร์ตัวท็อปใหม่ล่าสุด จากค่ายม้าลำพอง ชื่อเดียวกับรถแข่ง F1 ของ Ferrari พ่วงด้วยคำว่า Stradale เพื่อบ่งบอกว่าเป็นรถถนน (Stradale แปลว่าถนน) ซึ่งวางตำแหน่งไว้เหนือ Ferrari 812 Superfast รถสปอร์ตทรง GT และเป็นรุ่นสูงสุดในปัจจุบัน ตามคำให้สัมภาษณ์ของ Michael Leiters ประธานฝ่ายเทคโนโลยี (ส่วน LaFerrari จัดอยู่ในกลุ่มรถพิเศษจำกัดจำนวน) ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นราว 16 ล้านบาท (ในต่างประเทศ)

เป็นไปได้ว่า Ferrari SF90 Stradale ถูกเข็นออกมารอสู้กับซูเปอร์คาร์ตัวท็อปของ Lamborghini ในอนาคต ซึ่งใช้เครื่องยนต์วางกลางลำด้านท้ายมาก่อนสำหรับ Production Car ดิบ ถึงใจกว่ารถสปอร์ตทรง GT ตัวท็อปของ Ferrari ตามแนวคิด Enzo Ferrari เพราะสงวน Layout วางกลางลำด้านหลังไว้ให้เฉพาะรถแข่งของตน

จริง ๆ Enzo มีเหตุผล เนื่องจากเครื่องวางกลางหลังขับยาก อันตรายมากในยุคนั้น อีกทั้ง Enzo ยังค่อนข้างเลือกลูกค้า ไม่ใช่จะไปเดินเอาเงินชี้หรือบอกว่าอยากซื้อรุ่นไหนมาขับได้ตามใจ แต่ภายหลังก็ต้านกระแสไม่ไหว เอามาใช้ใน Ferrari รุ่นเล็กก่อน แต่แนวคิดนี้ก็ถูกถ่ายทอดมาถึงปัจจุบัน รถ Ferrari บางรุ่น ก็ไม่เปิดให้ลูกค้าทั่วไปซื้อได้ แต่ต้องเคยมี Ferrari รุ่น นี้ นี้ นี้ มาก่อน เช่น LaFerrari หรือรุ่นพิเศษอื่นที่ฮาร์ดคอร์มาก ๆ

โดย  Ferrari SF90 Stradale สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.5 วินาที และ 6.7 วินาที สำหรับ 0-200 กม./ชม. ด้วยขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ แบบ V8 สูบ ขนาด 3,990 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 780 แรงม้า และแรงบิด 800 นิวตันเมตร เสริมด้วยมอเตอร์ 162 ที่ให้กำลัง 220 แรงม้า (162 กิโลวัตต์) จับคู่กับเกียร์ DCT 8 สปีด ซึ่งม้า 1 ตัว จะแบกน้ำหนักแค่ 1.57 กิโลกรัม เท่านั้น

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Ferrari รุ่นสูงสุดยอมแหกคอกใช้เครื่องวางกลางลำด้านท้าย เพราะก่อนหน้าก็พยายามแหกมาแล้วด้วย Ferrari BB512 ตามด้วย Ferrari Testarossza เพื่อสู้กับ Lamborghini ก่อนจะกลับเข้าคอกตามเดิมในรุ่นต่อมาจนถึงตอนนี้

ส่วนเหตุผลที่ Ferrari เลือกจะไม่ V12 และแถมเป็น PHEV ก็คงเพราะมาตรการด้านมลพิษส่วนหนึ่ง แต่คงไม่ใช่เพราะความประหยัดเพราะลูกค้ากลุ่มตลาดบนนี้ไม่เคยสน

ภาพจาก Ferrari
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Ferrari SF90 Stradale คงถึงเวลาที่ม้าต้องแหกคอกอีกครั้ง อัปเดตล่าสุด 1 สิงหาคม 2562 เวลา 22:48:48 16,188 อ่าน
TOP