Mercedes-AMG G 63 ออฟโรดตัวแรง ตัวคลาสสิกตัวตัวถังในรุ่น G-Class แต่เพิ่มความแรงในแบบ Mercedes-AMG G 63 นำเข้าทั้งคันราคา 14.79 ล้านบาท
Mercedes-AMG G 63 เป็นรถยนต์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของรถยนต์ G-Class ในตระกูล Mercedes-AMG ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ และสถานะการเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์หรูแบบออฟโรดเอาไว้อย่างมั่นคง
ดีไซน์ภายนอก Mercedes-AMG G 63 ได้รับการออกแบบให้สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ AMG และมีรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยโครงสร้างตัวถังทรงสี่เหลี่ยมที่ใช้เหล็กกล้าหลากหลายระดับ มีความทนทานและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าโครงสร้างเดิมถึง 55% และ ยังช่วยดูดซับเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่สปอยเลอร์ ฝากระโปรงหน้า และประตูใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุหลัก
รถคันนี้มาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอย AMG ขนาด 21 นิ้ว 5 ก้านคู่ ไฟหน้าทรงกลมที่ใช้ระบบ MULTIBEAM LED เทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด ไฟเลี้ยวแบบเชื่อมเข้ากับตัวถัง
กันชนดุดันเข้ากับแถบสีดำเงา และตราสัญลักษณ์ AMG สีเงิน ที่แขวนยางอะไหล่ด้านหลังพร้อมฝาปิดที่ทำจากสแตนเลสที่มีตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แบบ 3 มิติ ด้านหน้าของตัวรถเป็นกระจังและกันชนหน้าของ AMG ที่มีท่อ รับอากาศด้านข้างและเก็บขอบเป็นสีเงินอิริเดียม
นอกจากนี้ส่วนหลังคาของรถยังเชื่อมต่อกับโครงสร้างตัวถังด้วยกระบวนการเชื่อมโดยใช้แสงเลเซอร์แทนที่การเชื่อมแบบอัด ซึ่งช่วยให้ ส่วนหลังคาเรียบเนียนและแข็งแกร่งกว่าเดิม พร้อมทั้งยังมีการเชื่อมหน้าต่างเข้ากับตัวถังโดยตรงเป็นครั้งแรกเพื่อให้ตัวถังแข็งแกร่งขึ้น ลดการสึกกร่อนของกรอบหน้าต่างด้วย
ดีไซน์ภายใน มีการตกแต่งภายในแบบใหม่ เพื่อให้ห้องโดยสารมีความทันสมัยและใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ยาวกว่าเดิม 101 มิลลิเมตร กว้างกว่าเดิม 121 มิลลิเมตร และสูงกว่าเดิม 40 มิลลิเมตร
แผงหน้าปัด ติดตั้งนาฬิกาแบรนด์ดัง IWC แบบเฉพาะสำหรับ AMG และแผงหน้าปัดทั้งแบบ analog และแบบดิจิทัลที่ใช้หน้าจอ widescreen ขนาด 12.3 นิ้ว 2 หน้าจอที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวภายในกระจกขนาดใหญ่ สามารถแสดงผลได้ 3 แบบคือ Classic, Sporty และ Progressive และแสดงภาพด้วยระบบ COMAND Online บนจอแสดงผล
พวงมาลัย AMG Performance แบบท้ายตัดหุ้มหนัง NAPPA ตัดสลับ DINAMICA Microfibre มีขอบโค้งจับได้กระชับมือและส่วนนูนที่ช่วยบอกตำแหน่งการจับเพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย ช่องลมของเครื่องปรับอากาศออกแบบให้เป็นทรงกลมเพื่อรับกับไฟหน้าและชุดไฟแสดงสถานะของรถบนแผงคอนโซลมือจับบนเพดานเพื่อช่วยในการเข้าออกของผู้โดยสารตอนหน้า
สวิตช์ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบช่วงล่างที่เป็นสีเงินโครเมียม เบาะที่นั่งทั้งหมดหุ้มหนัง nappa ที่มีปีกเบาะเสริมการปกป้องด้านข้างของผู้โดยสาร ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น ระบบจดจำการปรับตั้งค่าเบาะที่นั่ง ระบบอุ่นเบาะสำหรับทุกคนในห้องโดยสาร และพนักพิงศีรษะสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะหลังสามารถพับลงได้ 3 ตอน คือ 40%, 60% และ 100% อีกทั้งยังติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester surround sound system และระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี
สเปคเครื่องยนต์ Mercedes-AMG G 63
รุ่น |
เครื่องยนต์ |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซี.ซี.) |
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที) |
อัตราเร่ง 0-100กม./ชม. (วินาที) |
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.) |
Mercedes-AMG G 63 |
เบนซิน V8 |
3,982 |
585 / 6,000 |
850 / 2,500 – 3,500 |
4.5 |
220 |
นวัตกรรมและเทคโนโลยี มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เน้นการกระจายกำลังไปที่ล้อคู่หลังแบบ 40:60, ระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL เป็นระบบมาตรฐานของรถยนต์รุ่นนี้ สามารถปรับได้ตามสไตล์การขับขี่และสภาพถนน โดยระบบจะอ้างอิงข้อมูลต่าง ๆ เช่นทิศทางและความเร็วของรถ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ 3 โหมด คือ Comfort, Sport, และ Sport+, ระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ, ระบบ Active Braking Assist ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก
Mercedes-AMG G 63 มีอัตราการสิ้นเปลืองที่ 7.6 กม./ลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 299 กรัมต่อกิโลเมตร มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9-speed Sport ที่มีชุดคำสั่งเฉพาะที่ช่วยให้ ระยะทดกำลังเมื่อเปลี่ยนเกียร์สั้นที่สุด ช่วยให้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในโหมด Sport+ และโหมดกำหนดเอง