x close

ติดฟิล์มรถยนต์ต้องดูอะไรบ้าง ฟิล์มรถยนต์ 2021 ยี่ห้อไหนดี

          ติดฟิล์มรถยนต์ กันแดด กันร้อน ควรเลือกใช้แบบไหน ยี่ห้อไหนดี ฟิล์มรถยนต์ 2021 แบรนด์ไหนน่าใช้บ้าง จะเลือกฟิล์มติดรถยนต์ ฟิล์มกระจกรถ ฟิล์มกรองแสง ฟิล์มกันร้อน ต้องดูยังไง มีราคาเท่าไหร่บ้าง

ฟิล์มรถยนต์

          ฟิล์มรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญและมีส่วนช่วยในการดูแลรักษา รถยนต์ โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร เพราะสภาพอากาศในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว ในเมืองหรือต่างจังหวัด ต่างก็มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือแสงแดดที่ร้อนแรง ซึ่งเป็นตัวเพิ่มอุณหภูมิภายในรถยนต์ และยังมีส่วนทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพเร็วด้วย

ฟิล์มติดรถยนต์มีกี่แบบ

          ในปัจจุบันนี้ ฟิล์มรถยนต์ ที่จำหน่ายตามท้องตลาดนั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับราคาที่มีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพงมาก ก่อนจะติดฟิล์มรถยนต์เรามาดูประเภทของฟิล์มกันก่อนว่า ฟิล์มรถยนต์ มีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1. ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบปกติ (Dyed Window Tints)

          คือ ฟิล์มติดรถยนต์แบบธรรมดาทั่วไป ป้องกันรังสียูวี หรือรังสีอัลตราไวโอเลต ได้ดีในระดับหนึ่งเท่านั้น ตัวฟิล์มกรองแสงเป็นเพียงแผ่นฟิล์มที่ทำการย้อมสีให้มีความเข้มเพื่อกรองแสงเท่านั้น ฟิล์มชนิดนี้จะสะท้อนแสงจากภายนอกและลดปริมาณความร้อนสะสมได้เพียงเล็กน้อย แต่มีราคาที่ไม่สูงมากนัก จึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

          แต่ฟิล์มชนิดนี้ก็มีข้อเสียอยู่ที่เมื่อใช้งานไปสักระยะเวลาหนึ่งสีของฟิล์มจะเริ่มซีดลง และมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วน หรือสร้างความเสียหายให้กับกระจกรถของเราได้ เพราะแผ่นฟิล์มเป็นเพียงพลาสติก

2. ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบปรอท (Metallized Window Tints)

          ฟิล์มกรองแสงที่มีลักษณะแวววาว ให้การป้องกันรังสียูวี และสะท้อนความร้อนได้ดี ตัวฟิล์มกรองแสงย้อมด้วยสีที่มีส่วนผสมของโลหะ โดยจะมีอนุภาคขนาดเล็กที่เป็นโลหะฝังอยู่ภายในชั้นของฟิล์ม เพื่อช่วยในการสะท้อนรังสียูวีได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอนุภาคที่ฝังอยู่ในฟิล์มนั้นยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับหน้าต่างรถของคุณ และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าฟิล์มกรองแสงแบบธรรมดา

          แม้จะสะท้อนแสงแดดและลดความร้อนภายในห้องโดยสารได้ดี แต่ข้อเสียของฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบปรอทที่มีส่วนผสมของโลหะก็คือ จะทำให้อุปกรณ์สื่อสาร เช่น GPS หรือ Easy Pass ใช้งานได้ไม่สะดวกมากนัก

3. ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบไฮบริด (Hybrid Window Tints)

          ฟิล์มติดรถยนต์ลูกผสมระหว่างฟิล์มย้อมสีและฟิล์มสีเมทัลไลซ์ที่มีส่วนผสมของโลหะอยู่ในชั้นฟิล์ม ทำให้ฟิล์มชนิดนี้จะมีคุณสมบัติในการกรองแสงได้ดี สีไม่ซีด และยังสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้อีกด้วย แต่ข้อจำกัดที่ทำให้ไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนักคือราคาที่ค่อนข้างสูง

4. ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบคาร์บอน (Carbon Window Tints)

          ฟิล์มกรองแสงแบบคาร์บอนเป็นฟิล์มที่มีพื้นผิวด้านเป็นเอกลักษณ์ ภายในเนื้อฟิล์มจะมีส่วนผสมของอนุภาคคาร์บอนสะท้อนแสงพิเศษที่ทนทานแม้จะใช้งานมาอย่างยาวนาน และด้วยอนุภาคคาร์บอนที่ฝังอยู่นั้นนอกจากจะทำหน้าที่สะท้อนความร้อนได้ดีแล้ว ยังสามารถกักเก็บความร้อนได้ดีเช่นกัน ซึ่งฟิล์มชนิดนี้จะเหมาะกับรถที่ใช้งานในแถบประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น ประเทศไทยอาจไม่เหมาะเท่าไรนัก

5. ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบเซรามิก (Ceramic Window Tints)

          ฟิล์มติดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงแดด รังสีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และลดความร้อนได้สูงถึง 99% สีที่ใช้ในการย้อมตัวฟิล์มนั้นเป็นสีเซรามิกที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ทำให้ไม่มีผลกับการใช้เครื่องมือที่ใช้สัญญาณวิทยุอีกด้วย

6. ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบคริสตัล (Crystalline Window Tints)

          ฟิล์มกรองแสงชนิดนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเท่าไรนัก เพราะสีของฟิล์มจะมีลักษณะที่ค่อนข้างใส แต่สามารถป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี ตัวฟิล์มประกอบด้วยสีหลายชั้นที่เคลือบอยู่

เลือกฟิล์มติดรถยนต์ต้องดูอะไรบ้าง

          สำหรับการเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์นั้น แน่นอนว่าหลายคนคงจะดูจากคุณสมบัติในการป้องกันความร้อน รองลงมาคงหนีไม่พ้นเรื่องของราคา และความสวยงาม ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตามยังมีรายละเอียดอีกเล็กน้อยที่เราควรทราบก่อนจะติดฟิล์มรถยนต์ของคุณ

          - ประเภทและชนิดของฟิล์ม รวมถึงสีที่เลือกใช้ ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการของเรา เพื่อให้ได้ฟิล์มรถยนต์ที่ตรงใจเรามากที่สุด เพราะฟิล์มกรองแสงเหล่านี้มีราคาที่ค่อนข้างสูง และมีระยะเวลาใช้งานที่ยาวนาน

          - ค่าความเข้มข้นของสีฟิล์ม ควรเลือกใช้งานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มืดจนเกินไป และไม่ส่งผลต่อการขับขี่ของเรา เพราะฟิล์มบางชนิดติดแล้วสภาพแวดล้อมการมองเห็นจะมืดลงกว่าปกติ

          - ควรพิจารณาเลือกร้านหรือผู้ให้บริการติดตั้งฟิล์มรถที่มีความชำนาญ และราคาอยู่ในเรตที่เหมาะสม รวมไปถึงบริการหลังการขาย การรับประกันต่าง ๆ ด้วย
 
แนะนำฟิล์มรถยนต์ 2021 มีแบรนด์ไหนน่าสนใจบ้าง ?

1. 3M

          แบรนด์ที่ผลิตอุปกรณ์ดูแลรถยนต์มากมายหลายชนิด 3M เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาและบุกเบิกผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสงรายแรกของโลก พร้อมผ่านการรับรองมาตรฐานจากสถาบันด้านฟิล์มกรองแสงและสถาบันมะเร็งผิวหนัง ปัจจุบัน 3M มีฟิล์มกรองแสงหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความต้องการ ได้แก่

          Crystalline Series : ฟิล์มกรองแสงรถยนต์รุ่น คริสตัลไลน์ หรือฟิล์มกรองแสงแบบใส แต่ให้คุณสมบัติการสะท้อนแสง ป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก 3mautofilmclub.com

          Privacy+ Series : ฟิล์มกรองแสงรถยนต์รุ่น ไพรเวซี่ พลัส ฟิล์มดำเข้มสวย ไร้เงาสะท้อน ภายนอกดูเข้มแต่ภายในสว่าง มองเห็นชัดเจน

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก 3mautofilmclub.com

          Smart Series : ฟิล์มกรองแสงรถยนต์รุ่น สมาร์ท ฟิล์มรุ่นยอดนิยม มอบทางเลือกที่หลากหลาย

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก 3mautofilmclub.com

          Scotchtint™ Series : ฟิล์มกรองแสงรถยนต์รุ่น สก๊อตซ์ทินต์ ฟิล์มกรองแสงชนิดพิเศษ

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก 3mautofilmclub.com

          Scotchshield™ : ฟิล์มกรองแสงรถยนต์รุ่น สก๊อตซ์ชิลด์ ฟิล์มกรองแสงนิรภัยติดรถยนต์ ที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กระจกรถ

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก 3mautofilmclub.com

          Ceramic Ultra Clear Series : ฟิล์มกรองแสงรถยนต์รุ่น เซรามิก อัลตร้า เคลียร์ อนุภาคนาโน ฟิล์มเซรามิกขนานแท้

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก 3mautofilmclub.com

ราคาติดตั้งฟิล์มรอบคันโดยประมาณ

          - รถยนต์ เริ่มต้นที่ 10,000-16,000 บาท

          - รถกระบะ เริ่มต้นที่ 9,000-14,000 บาท

          - รถ SUV, MPV และรถตู้ เริ่มต้นที่ 6,500-17,000 บาท


2. Hi-Kool


          ฟิล์มกรองแสงที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี Hi-Kool มีฟิล์มกรองแสงรถยนต์มากมายหลายรุ่น และหลากหลายราคาด้วยกัน ทั้งฟิล์มกรองแสงแบบธรรมดา, ฟิล์มกรองแสงเซรามิก และฟิล์มกรองแสงเซรามิกแบบพรีเมียม

          Hi-Kool Ceramic Black Night : ฟิล์มเซรามิกดำ ผสมกับไทเทเนียม (Titanium) ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพความแข็งแรง ทนทาน ให้กับเนื้อฟิล์ม พร้อมทั้งป้องกันรังสียูวีได้สูง ทำให้ขับขี่สบายตาทั้งกลางวันและกลางคืน และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลต่าง ๆ

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก hikoolfilm.com

          Hi-Kool UV Care : ฟิล์มกรองแสงเซรามิกเกรดพรีเมียม ที่ป้องกันรังสี UV400 & แสงสีฟ้า Blue Light ตัวฟิล์มผลิตด้วยการหลอมรวมชั้นฟิล์มหลายชั้นเข้าด้วยกัน โดยปราศจากชั้นกาว

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก hikoolfilm.com

          Hi-Kool R Series : ฟิล์มกันร้อนที่ผลิตด้วยนวัตกรรม Sputter Metallized Coating ทำให้ตัวฟิล์มมีความทนทาน และป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา, สีเขียว และสีฟ้า

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก hikoolfilm.com

          Hi-Kool Modern Series : ฟิล์มกรองแสงสีเข้ม สะท้อนแสงต่ำ ที่ดูสปอร์ตแต่ยังให้ประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูง พร้อมปกป้องอันตรายจากรังสียูวีได้อย่างดีเยี่ยม มีเฉดสีเข้มให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก hikoolfilm.com

          Hi-Kool Black Carbon Serie : ฟิล์มกรองแสงคาร์บอนสีดำสนิท ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ช่วยให้รถของคุณดำสนิทจากภายนอก และใสเคลียร์จากภายใน ป้องกันรังสี UVA, UVB และสามารถกันรังสีความร้อน (Infrared) สูงสุดมากถึง 80%

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก hikoolfilm.com

ราคาติดตั้งฟิล์มรอบคันโดยประมาณ

          - รถยนต์ เริ่มต้นที่ 6,000-12,000 บาท

          - รถกระบะ เริ่มต้นที่ 6,500-10,000 บาท

          - รถ SUV, MPV และรถตู้ เริ่มต้นที่ 8,000-16,000 บาท

3. Lamina

          อีกหนึ่งแบรนด์ฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย Lamina มีฟิล์มติดรถยนต์ให้เลือกอยู่หลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นธรรมดาไปจนถึงรุ่นพรีเมียม และมีเรตราคาให้เลือกในระดับที่ไม่สูงมากนัก

          Lamina POP Series : เนื้อฟิล์มมีส่วนผสมของอนุภาคเมทัลลิกอัลลอยบริสุทธิ์  100% แบบ Magnetron Sputtering Vacuum Coating ซ้อนกันถึง 6 ชั้น ช่วยให้ชั้นเนื้อฟิล์มเหนียวแน่น ทนทาน ลดความร้อนจากแสงแดดได้สูง กันรอยขีดข่วน และลดอันตรายกรณีกระจกแตกได้

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก laminafilms.com

          Lamina Genius Series : ฟิล์มกรองแสงที่กันความร้อนและรังสียูวีได้สูงเกือบ 100% มีให้เลือกหลายรุ่นด้วยกัน ทั้งฟิล์มกันร้อนแบบใส, แบบสีเข้มปานกลาง และแบบสีเข้ม

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก laminafilms.com

          Lamina Mystery Series : ฟิล์มกรองแสงซูเปอร์เอ็กซ์คลูซีฟที่กันความร้อนสูง และยังช่วยถนอมดวงตา High Block & Soft Vision ตัวฟิล์มผ่านกระบวนการผลิตแบบ Digital Xtremer จนได้เป็นฟิล์มเนื้อสวยพิเศษที่ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล กันความร้อนสูงกว่าฟิล์มทั่วไป ปกป้องสุขภาพดวงตาจากแสงแดด แสงจ้า และรังสี UVA และ UVB ได้ดีเยี่ยม 

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก laminafilms.com

          Lamina Special Series : ฟิล์มกรองแสงเซรามิกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Ceramatrix ที่คุณภาพสูง สีสันสวยงาม ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลทุกชนิด มองเห็นสภาพแวดล้อมได้อย่างสบายตาด้วยโทนสี Soft Charcoal ดำนอก สว่างใน ลดความร้อนจากแสงแดด (TSER) สูง ปกป้องผิว ถนอมสายตา และยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถได้อย่างดีเยี่ยม

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก laminafilms.com

ราคาติดตั้งฟิล์มรอบคันโดยประมาณ

          - รถยนต์ เริ่มต้นที่ 8,000-16,000 บาท

          - รถกระบะ เริ่มต้นที่ 7,000-14,000 บาท

          - รถ SUV, MPV และรถตู้ เริ่มต้นที่ 8,000-18,000 บาท


4. Xtra-Cole

          ฟิล์มติดรถยนต์ ฟิล์มกันร้อน อีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถในบ้านเราพอสมควร ตัวฟิล์มช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้มากถึง 78% และลดรังสียูวีได้มากเกือบ 100%

          Xtra-Cole Ceramic X : ฟิล์มเซรามิกเกรดนาโนระบายความร้อนอัตโนมัติ สีภายนอกดูเข้ม ดุดัน แต่ภายในทัศนวิสัยชัดเจน ไม่รบกวนทุกสัญญาณดิจิทัล มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก xtracolefilms.com

          Xtra-Cole Ceramic Air : ฟิล์มเซรามิกที่เนื้อฟิล์มอัดแน่นด้วยอณู Nano - Air Ceramic เนื้อฟิล์มระบายอากาศอัตโนมัติ ไม่อมความร้อน ให้รถเย็นเร็วขึ้น แม้จอดตากแดดเป็นเวลานาน สว่างเคลียร์ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก xtracolefilms.com

          Xtra-Cole Original : ฟิล์มกรองแสงรถยนต์รุ่นมาตรฐาน ที่ลดความร้อนจากแสงแดดและรังสียูวีได้สูงกว่า 99% เนื้อฟิล์มทำจาก Metallic Ultimate Sputtering ช่วยให้เนื้อฟิล์มมีเงาสะท้อนน้อย

ราคาติดตั้งฟิล์มรอบคันโดยประมาณ


          - รถยนต์ เริ่มต้นที่ 7,000-16,000 บาท

          - รถกระบะ เริ่มต้นที่ 11,000-17,000 บาท

          - รถ SUV, MPV และรถตู้ เริ่มต้นที่ 12,000-18,000 บาท

5. Pro Shield

          ฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงที่ผลิตโดยโรงงานที่ใช้วัตถุดิบและเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีการผลิตคุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา ฟิล์มกรองแสง Pro shield มีให้เลือกหลายรุ่น ได้แก่

          Pro Shield Black Carbon : ฟิล์มติดรถยนต์ที่เคลือบผง Nano Carbon บนชั้นฟิล์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน ช่วยกรองแสง ป้องกันรังสี UV 99% สวยเข้มจากภายนอก เพิ่มความเป็นส่วนตัว เนื้อฟิล์มยังเคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วน มีความทนทานสูง สีไม่ซีดจาง และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลทุกชนิด

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก .proshieldfilm.com

          Pro Shield Ceramic Plus : ฟิล์มกรองแสงที่ใช้เทคโนโลยีการเคลือบ Nano Ceramic บนชั้นฟิล์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน ช่วยกรองแสง ป้องกันรังสี UV 99% ป้องกันความร้อนสูง ภายนอกดูเข้ม ภายในใส มองได้อย่างชัดเจน

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก .proshieldfilm.com

ราคาติดตั้งฟิล์มรอบคันโดยประมาณ

          - รถยนต์ เริ่มต้นที่ 8,000-16,000 บาท

          - รถกระบะ เริ่มต้นที่ 10,000-16,000 บาท

          - รถ SUV, MPV และรถตู้ เริ่มต้นที่ 12,000-20,000 บาท

6. V-Kool

          ฟิล์มติดรถยนต์แบรนด์สุดท้ายที่อยากจะแนะนำ ได้แก่ V-Kool ฟิล์มกรองแสงคุณภาพเยี่ยมที่ถูกค่ายรถในยุโรปเลือกให้เป็นฟิล์มมาตรฐานที่ติดให้กับรถลูกค้าก่อนส่งมอบ ฟิล์ม V-Kool มีให้เลือกตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับพรีเมียม

          V-Kool Royal Privacy Package VK10 : ฟิล์มกรองแสงรุ่นล่าสุดจาก V-Kool ฟิล์มกรองแสงที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง สีของฟิล์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างความโดดเด่นให้กับรถยนต์ และสะท้อนความร้อนสูงด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์เท่านั้น ให้ค่าการป้องกันรังสีอินฟราเรดสูงถึง 98% และค่าการป้องกันความร้อนรวมสูงถึง 74%

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก v-koolgroup.com

          V-Kool Solitaire Series : ฟิล์มติดรถยนต์ระดับพรีเมียมแบบใส ที่ให้คุณสมบัติในการกันความร้อนที่ดีเยี่ยม ตัวฟิล์มมีการเคลือบชั้นโลหะ เช่น ทองคำ และเงิน ลงบนแผ่นฟิล์มใส แสงสว่างสามารถส่องผ่านได้ 36-73% สามารถป้องกันรังสีอินฟราเรด 94-98% และค่ากันความร้อนรวมสูงสุด 55-70%

ฟิล์มรถยนต์
ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก v-koolgroup.com

          V-Kool Stature Series : ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์คุณภาพสูงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ฟิล์มเป็นโทนสีดำที่ให้คุณสมบัติดำนอก สว่างใน เนื้อฟิล์มใสเคลียร์ ไม่ลดทัศนวิสัยในการมองออกไปภายนอก และให้ประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนที่ดีมากกว่าฟิล์มเซรามิกเกรดพรีเมียมทั่ว ๆ ไป 

ฟิล์มรถยนต์
ภาพจาก v-koolgroup.com

ราคาติดตั้งฟิล์มรอบคันโดยประมาณ

          - รถยนต์ เริ่มต้นที่ 20,000-30,000 บาท

          - รถ SUV, MPV และรถตู้ เริ่มต้นที่ 30,000-36,000 บาท

          อย่างไรก็ตาม ฟิล์มรถยนต์ ถือเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์ที่มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นก่อนที่จะเลือกติดฟิล์มกรองแสง ควรศึกษาหาข้อมูล เปรียบเทียบรุ่นและราคาก่อน รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับบริการหลังการขาย การรับประกันต่าง ๆ จากร้านที่จัดจำหน่าย เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับฟิล์มได้หลังการติดตั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก decibelcar.com, groovydriving.com, scorpionwindowfilm.com









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ติดฟิล์มรถยนต์ต้องดูอะไรบ้าง ฟิล์มรถยนต์ 2021 ยี่ห้อไหนดี อัปเดตล่าสุด 28 เมษายน 2564 เวลา 17:27:28 739,897 อ่าน
TOP