เมื่อพูดถึงรถหรูน่าจะเป็นรถอีกกลุ่มหนึ่งที่ใครหลายคนฝันอยากครอบครองเป็นเจ้าของ ซึ่งในงาน Motor Show 2017 ปีนี้ ค่ายรถแบรนด์พรีเมียมในไทยต่างก็จัดเต็มเช่นกัน โดยมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่แทบจะทุกค่ายตั้งแต่ระดับเริ่มต้นหรือที่เรียกกันเก๋ ๆ ว่า Entry Level ราคาไม่แพงอย่างที่คิดเพียง 2 ล้านบาทต้น ๆ (แพงกว่ารถจากฝั่งญี่ปุ่นขนาดกลางไม่มากจนลูกค้าบางส่วนเริ่มลังเล) ไปจนถึงประเภท Super Car, Ultra Luxury Car ที่หรู แรง ราคาแพงพิเศษก็มีมาให้เลือกครบ และนี่คือ 10 รถใหม่ แบรนด์พรีเมียมน่าสนใจสำหรับงานครั้งนี้เรียงตามลำดับราคา อยากโดนคันไหนแค่ถามใจกับตัวเลขในบัญชีแล้วเดินปรี่เข้าไปชี้นิ้วเลือกได้เลย
Audi Q2 2017 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ หัวฉีดตรง TFSI ขนาด 1.4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที และแรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ S Tronic 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ภายใน 8.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 212 กม./ชม. (โดยประมาณ)
ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีขาว กลาเซียร์ ไวท์ เมทัลลิก, สีเงิน ฟลอเรท ซิลเวอร์ เมทัลลิก, สีดำ มายทอส แบล็ก เมทัลลิก, สีเทา นาโน เกรย์ เมทัลลิก, สีแดง แทงโก เรด เมทัลลิก, สีเหลือง เวกัส เยลโล่ โซลิด และสีส้ม คอรัล ออเรนจ์ เมทัลลิก โดย Audi Q2 2017 ใหม่ นั้นตั้งราคาช่วงแนะนำไว้ (ทำสัญญาซื้อขายภายใน 9 เมษายน 2560) ที่ 2,299,000 บาท พร้อมรับประกันนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. ชมคันจริงได้ที่งาน Motor Show 2017
2. BMW 5 Series 2017 ราคาเริ่ม 3,899,000 บาท
- BMW 520d Luxury (ดีเซล) ราคา 3,899,000 บาท
- BMW 530i M Sport (เบนซิน) ราคา 4,399,000 บาท
โดย BMW 520d Luxury จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ TwinPower Turbo ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 กม./ลิตร และปล่อย CO2 เฉลี่ย 132 กรัม/กม.
ส่วน BMW 530i M Sport จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า ที่ 5,200-6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,450-4,800 รอบ/นาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.5 กม./ลิตร และปล่อย CO2 เฉลี่ย 129 กรัม/กม. (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและระดับการปล่อย CO2 ทั้ง 2 รุ่น อ้างอิงผลจาก ECO Sticker)
3. Lamborghini Huracán Performante V10 2017 ราคา 27,100,000 บาท
แต่อันที่จริงภายนอกของ Lamborghini Huracán Performante ถ้ามองด้วยตาก็ไม่ได้ต่างจาก Lamborghini Huracán รุ่นปกตินัก เพียงแต่เฟี้ยวฟ้าว เบาและแหวกผ่านกระแสลมได้เหนือกว่าด้วยสปอยเลอร์หน้า-หลังเพื่อช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ อีกทั้งยังมีความพิเศษตรงที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่เกิดจากกระบวนการผลิต Forged Composites® ซึ่งเปลี่ยนจากการทอเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ ด้วยการตัดเป็นเส้นสั้น ๆ ผสมกับเรซินแล้วนำเข้าแม่พิมพ์แรงดันสูงโดยจะลดระยะเวลาการผลิตลงได้เยอะมาก (แต่ความแข็งแรงจะลดลงจากกระบวนการปกตินิดหน่อย)
รวมถึงระบบ Active Aerodynamics หรือ Aerodinamica Lamborghini Attiva (ALA) ที่ช่วยปรับเปลี่ยนสร้างแรงกดตัวถัง เช่น ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง รวมถึงลดแรงต้านหรือแรงเสียดทานอากาศ ซึ่งเป็นลิ้นคู่ที่สปอยเลอร์หน้า และฐานสปอยเลอร์ท้ายแบบปรับได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอันนี้เจ๋งมาก ส่งผลให้ Lamborghini Huracán Performante มีอัตราเร่งไปยังความเร็วสูงสุดได้ไวกว่า Lamborghini Huracán รุ่นปกติ รวมถึงแม้จะใช้เครื่องยนต์ V10 ขนาดความจุ 5.2 ลิตร บล็อกเดียวกัน แต่ Lamborghini Huracán Performante ก็มีพละกำลังสูงสุดมากกว่าที่ 640 แรงม้า (รุ่นปกติ 610 แรงม้า) ที่ 8,000 รอบ/นาที และแรงบิด 600 นิวตันเมตร (รุ่นปกติ 560 นิวตันเมตร) ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่วนล้ออัลลอยน้ำหนักเบาสีทองก็เป็นลายใหม่รัดด้วยยางสมรรถนะสูงสุด Pirelli P Zero Corsa
ที่เด็ดสุดคือ Lamborghini Huracán Performante สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้แทบไม่ต่างจากไฮเปอร์คาร์ด้วยเวลา 2.9 วินาที (รุ่นปกติ 3.2 วินาที) ขณะที่ความเร็วสูงสุดยังเท่ากันที่ 325 กม./ชม. แต่รับรองว่าว่องไวกว่าแน่นอนซึ่งคาดว่าน่าจะมีการบังคับควบคุมเหนือกว่าด้วย ขณะที่ราคาก็อัปขึ้นไปพอสมควรโดย Lamborghini Huracán Performante ตั้งไว้ที่ 27,100,000 บาท แพงกว่า Lamborghini Huracán Coupé อยู่ 2.8 ล้านบาท
4. Maserati Levante 2017 ราคาเริ่มต้น 7,890,000 บาท
ส่วนขุมพลังของ Maserati Levante 2017 ใหม่ ช่วงแรกนี้จะมีเครื่องยนต์ดีเซล V6 สูบ ขนาดความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 275 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,600 รอบ/นาที เพียงระดับเดียว (ในต่างประเทศมีรุ่นที่แรงม้าน้อยกว่านี้ให้เลือกอีก 1 รุ่น แต่ใช้เครื่องยนต์ ขนาดเดียวกัน) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-wheel drive โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 7.2 ลิตร/100 กม. ปล่อย CO2 ที่ 189 กรัม/กม.
5. McLaren 720S 2017 ราคา 29,500,000 บาท
ขณะที่ขุมพลังของ McLaren 720S ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 สูบ ขนาดความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 720 แรงม้า ตามชื่อรุ่น พร้อมแรงบิดมหาศาล 770 นิวตันเมตร ทำให้มีอัตราส่วนกำลังเครื่องต่อน้ำหนัก 561 แรงม้า/ตัน สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาที เท่ากับ Lamborghini Huracán Performante แต่ความเร็วสูงสุดทะลุไปถึง 341 กม./ชม. โดยทาง นิช คาร์ พร้อมส่งมอบรถยนต์งวดแรกให้ถึงมือได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หากรับได้กับสนนราคา 29,500,000 บาท
สำหรับทางด้านขุมพลัง Mercedes-Benz E 300 Coupe AMG Dynamic 2017 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC 9 สปีด ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม.ชม. ได้ภายใน 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
7. MINI Countryman 2017 ราคาเริ่มต้น 2,339,000 บาท
- MINI Cooper Countryman ราคา 2,339,000 บาท
- MINI Cooper S Countryman ราคา 2,699,000 บาท
- MINI Cooper S Hightrim Countryman ราคา 2,999,000 บาท
ซึ่ง MIN Cooper Countryman จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า และแรงบิด 220 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่วน MINI Cooper S/ Cooper S Hightrim Countryman ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และ MINI Countryman 2017 ทุกรุ่นจะใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเท่ากันที่ 16 กิโลเมตร/ลิตร
8. Porsche Panamera 4S 2017 ราคาเริ่มต้น 13,500,000 บาท
ทั้งนี้ความน่าสะพรึงของ Porsche Panamera 4S 2017 ใหม่ นั้นอยู่ที่อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ซึ่งใช้เวลาเพียง 4.4 วินาที (และ 4.2 วินาที หากเลือกติดตั้ง Sport Chrono Package) ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 289 กม.ชม. ถือว่าเร็วมากสำหรับรถซาลูน 4 ประตู ที่สำคัญต้องจ่ายหนักอยู่ไม่น้อยด้วยราคาเริ่มต้น 13,500,000 บาท แต่นั่นก็อาจไม่ใช่ปัญหาสำหรับใครหลายคนที่พร้อมจ่ายและถ้ามองในแง่ดีก็คือ ถูกกว่า Porsche Panamera Turbo 2017 ตั้งเกือบครึ่ง !!!
9. Rolls-Royce Wraith Black Badge 2017 ราคาเริ่มต้น 34,900,000 บาท
โดยตัวรถคุมโทนสีดำ ตั้งแต่โครเมียม สีตัวถังแบบ Multi-Layer ที่พ่นทับซ้อนกันหลายชั้นอย่างประณีตเพื่อให้ได้สีที่ดำสนิทและมีความลึกของสีในแบบที่รถทั่วไปให้ไม่ได้ แม้แต่ล้ออัลลอยของ Rolls-Royce Wraith Black Badge 2017 ยังอัดขึ้นรูปจากวัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์ 44 เลเยอร์ (22 เลเยอร์พับซ้อนกัน) ร่วมกับอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานให้ความแข็งแรงสูง ภายในตกแต่งในธีมสีดำเป็นหลัก ตกแต่งด้วยแถบประดับอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานและคาร์บอนไฟเบอร์คล้ายกับที่ปรากฏในเครื่องบินสเตลท์ (แต่จริง ๆ ลูกค้าเลือกได้ตามจินตนาการ) และที่ขาดไม่ได้คือ black starlight headliner ซึ่งเปลี่ยนเพดานหลังคาให้กลายเป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาวระยิบระยับ
สำหรับราคาเริ่มต้นของ Rolls-Royce Wraith Black Badge 2017 เริ่มต้นที่ 34,900,000 บาท ทั้งนี้ค่าตัวสามารถโดดไปได้อีกไกลตามจินตนาการของลูกค้าว่าอยากให้เลิศล้ำ วิลิสมาหรา เพียงใด เช่นบอกแค่ว่าอยากให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในห้องนอนของตัวเองก็ยังได้เลย ที่เหลือแค่ปล่อยให้เป็นงานของแผนก Bespoke ซึ่งมีความเชี่ยวชาญจัดการออกแบบทุกอย่าง และลูกค้าก็มีหน้าที่แค่จ่ายเงินเท่านั้น
10. Volvo V90 D4 Inscription 2017 ราคา 4,190,000 บาท
ในส่วนของขุมพลังนั้น Volvo V90 D4 Inscription ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล Drive-E แบบ 4 สูบ ทวินเทอร์โบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบ/นาที และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ช่วงระหว่าง 1,750-2,500 รอบ/นาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 8.2 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลือง 19.6 กม./ลิตร ปล่อย CO2 ที่ 133 กรัม/กม.
ใครอยากหรูระดับไหนลองไปชมและสัมผัสคันจริงของทัพรถหรูแบรนด์พรีเมียมกันได้ (ยกเว้น Lamborghini Huracán Performante) ตามอัธยาศัยให้จุใจพร้อมกันทีเดียว ที่งาน Motor Show 2017 อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 เมษายน 2560 เท่านั้น