10 ซูเปอร์คาร์ ที่ไม่เปรี้ยงจนโลกลืมเลือน

supercar

           10 ซูเปอร์คาร์ที่โลกลืมและชื่อเสียงค่อย ๆ ห่างหายไปจากวงการซูเปอร์คาร์จนหลายคนอาจไม่คิดว่ารถเหล่านี้เคยถูกสร้างขึ้นแม้บางรุ่นยังคงอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน
 
           ซูเปอร์คาร์ สุดยอดรถที่ถูกสร้างเพื่อแสดงถึงความสุดยอดทางเทคโนโลยีของผู้ผลิต ที่นอกจากจะต้องเร็วแล้วยังมีราคาแพงจนกลายเป็นรถในฝันของใครหลาย ๆ คนแทบทุกยุค แม้ในความเป็นจริงบนโลกใบนี้จะมีซูเปอร์คาร์เกิดขึ้นมากมายหลายยี่ห้อ แต่ปัจจุบันถ้าให้เอ่ยชื่ออันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้น Ferrari Lamborghini หรือ McLaren มาก่อนอย่างแน่นอน ซึ่ง cheatsheet.com เลยได้ทำการรวบรวมซูเปอร์คาร์ที่ถูกลืมไปจากวงการเพื่อเตือนความจำอีกครั้งว่ารถเหล่านี้ก็เคยขึ้นทำเนียบซูเปอร์คาร์มาแล้วเช่นกันแม้ในวันนี้จะมีน้อยคนนักที่จะนึกถึงมันอีก (ในฐานะซูเปอร์คาร์ยอดนิยม) ส่วนจะเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นไหน จากผู้ผลิตรายใดลองมาทบทวนกันว่าคุณลืมรถพวกนี้ไปจริงหรือไม่เคยรู้จักเลย
 
1. อะคูรา เอ็นเอสเอ็กซ์ (Acura NSX)

supercar

supercar
ภาพจาก Acura

           Acura NSX หนึ่งในตำนานซูเปอร์คาร์โลกตะลึงจากญี่ปุ่น เปิดตัวในปี 1990 เป็นผลงานชิ้นโบแดงและสร้างชื่อเสียงโด่งดังให้กับ Honda จน Acura หรือ Honda NSX ถูกขนานนามว่า Ferrari ญี่ปุ่นด้วยสไตลิ่งที่ใกล้เคียงกัน ดีไซน์เร้าใจ วางเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร VTEC ไว้กลางลำขับเคลื่อนล้อหลัง ตัวถังอะลูมิเนียม ล้วนเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากสำหรับรถสปอร์ตจากแดนปลาดิบในยุคนั้น และทำตลาดอย่างยาวนานถึง 15 ปี ก่อนจะอำลาวงการในปี 2005 ช่วงที่รถสปอร์ตจากญี่ปุ่นซบเซาหนัก

Honda NSX 2017
Acura/Honda NSX 2017

           ถึงแม้เราจะไม่เห็นด้วยนักว่า Acura หรือ Honda NSX ควรถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มซูเปอร์คาร์ที่ถูกลืม แต่ก็ต้องยอมรับว่าการกลับมาของ Acura/Honda NSX 2017 ใหม่ นั้นไม่ได้โดดเด่นต่างจากซูเปอร์คาร์ราคาแพงคันอื่นที่ภาพลักษณ์แข็งแกร่งกว่าจนต้องอ้าปากค้างเหมือนดังเช่นอดีตที่ผ่านมา
 
2. แอสตัน มาร์ติน วัน-77 (Aston Martin One-77)

supercar

supercar

           อาจเป็นเพราะรูปทรงตัวถังแบบ Grand Tourer (GT) เรียบ ๆ กับราคา 1.4 ล้านดอลลาร์ (ราว 50 ล้านบาท) ทำให้รถซูเปอร์คาร์สายเลือดรถแข่งแบรนด์อังกฤษอย่าง Aston Martin ราคามหาโหดซึ่งผลิตขึ้นมาเพียง 77 คันตามชื่อรุ่นนี้ดูไม่ค่อยอวดตัวเป็นที่สะดุดตาจนพอให้จดจำนัก เลยถูกจัดให้กลายเป็นหนึ่งในซูเปอร์คาร์ที่คนหลงลืมไปโดยปริยาย แม้ว่า Aston Martin One-77 จะใช้ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียมอันทันสมัย รวมถึงซ่อนเครื่องยนต์ V12 ขนาด 7.3 ลิตร 750 แรงม้า ไว้ใต้ฝากระโปรงหน้าแล้วก็ตาม

3. บีเอ็มดับเบิลยู 850 ซีเอสไอ (BMW 850 CSi)

supercar

supercar

           เป็นรถสปอร์ตอีกหนึ่งรุ่นที่เราไม่ค่อยเห็นด้วยนักหากจะจัดให้ BMW 850 CSi เป็นซูเปอร์คาร์ที่ถูกลืม ถึงมันจะถูกลืมจริง ๆ ก็ตาม เพียงแต่ BMW 850 CSi มันดูเป็นรถ GT พลังแรงรุ่นย่อยสูงสุดของ 8 Series มากกว่าซูเปอร์คาร์ที่ M Performance ปรับแต่งขยายความจุเครื่องยนต์ V12 ให้มีขนาด 5.6 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 380 แรงม้า เท่านั้น อีกทั้งก่อนหน้านั้น BMW ยังมี BMW M1 สปอร์ตคาร์เครื่องยนต์วางกลางด้านหลังที่ออกแบบโดยระดับปรมาจารย์อย่าง Giorgetto Giugiaro ที่เปิดตัวช่วงปี 1978-1981 อยู่อีกตั้ง 457 คัน ซึ่งผลิตจำหน่ายเพื่อให้ได้ตามข้อกำหนดสำหรับลงแข่ง World Sportscar Championship กรุ๊ป 4 แต่คงไม่ปฏิเสธถ้าจะบอกว่าซูเปอร์คาร์ของ BMW เป็นหนึ่งในรถที่ถูกลืม ว่าแต่มีใครนับ BMW i8 ไปด้วยแล้วหรือยัง ?

 

 

 
4. ซิซิตาเลีย 202 (Cisitalia 202)

supercar

supercar
ภาพจาก coachbuild.com

           Cisitalia แบรนด์ของผู้ผลิตรถสปอร์ตขนาดเล็กจากอิตาลียุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่ง Cisita ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 โดยชื่อเต็มนั้นมาจากภาษาอิตาเลียนว่า Compagnia Industriale Sportiva Italia และโด่งดังเพราะได้ ดร.เฟอร์ดินานด์  ปอร์เช่ มาช่วยสร้างรถ Cisitalia 360 ด้วยเทคโนโลยีของ Auto Union (Audi ก็เป็นหนึ่งในกลุ่ม Auto Union) รวมถึงโลกควรต้องจดจำ Cisitalia ในฐานะผู้ริเริ่มการสร้างรูปทรงรถให้ต่อเนื่องด้านข้างเรียบเป็นชิ้นเดียวกันเป็นรายแรกในโลกอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน โดยไม่ได้แยกส่วนตัวถัง บังโคลน ห้องเก็บของหลังรถแล้วมาต่อกันแบบรถยุคก่อนนั้น ซึ่ง Cisitalia ได้ว่าจ้างให้สำนักออกแบบตัวถัง Pininfarina เป็นผู้ออกแบบ Cisitalia 202 ให้จนใคร ๆ ก็ต้องเลียนแบบ และส่งผลให้ Pininfarina โด่งดังกลายเป็นดาวค้างฟ้ามาอย่างยาวนาน ส่วน Cisitalia กลับกลายเป็นแบรนด์รถสปอร์ตที่โลกลืมไปซะอย่างนั้น
 
5. เซียซตา-โมโรเดอร์ วี16ที (Cizeta-Moroder V16T)

supercar

supercar
ภาพจาก Cizeta
 
           ซูเปอร์คาร์สัญชาติอเมริกันที่มาพร้อมกับผลงานดีไซน์ขั้นเทพของนักออกแบบอย่าง Marcello Gandini ที่เป็นผู้ออกแบบ Lamborghini Countach และเตรียมไว้สำหรับ Lamborghini Diablo รุ่นถัดมา แต่ดันเกิดมาขัดแย้งภายในเพราะ Chrysler ที่เข้ามาควบคุมกิจการเนื่องจาก Lamborghini ประสบปัญหาล้มละลาย ได้สั่งปรับดีไซน์ดั้งเดิม Lamborghini Diablo (ที่มาปรากฏเป็น Cizeta V16T) ทำให้ Gandini หัวร้อนขอแตกหักกับ Lamborghini หนีไปอยู่ Cizeta-Moroder ที่ปล่อยของได้อย่างอิสระและติดตั้งเครื่องยนต์ 16 สูบ ซึ่งเป็นการนำเอาเครื่องยนต์ V8 สองเครื่องจาก Lamborghini Urraco มาต่อกันแล้ววางกลางลำ โดย Cizeta-Moroder V16T สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 300 กม./ชม. และทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที
 
           อย่างไรก็ตามถึงชื่อเสียง Cizeta-Moroder V16T จะหายไปจากแวดวงซูเปอร์คาร์ปัจจุบัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าของมันจะลบเลือนไปตามกาลเวลา ที่สำคัญยังพิเศษกว่า Lamborghini Diablo ที่ไม่ต่างจากงานก๊อปเกรด A หากจะวัดกันที่ความเป็นแก่นแท้ของดีไซน์
 
6. เดอโทมาโซ แพนทีรา (DeTomaso Pantera)

supercar

supercar
ภาพจาก Andrew Trahan, road&track

           สำหรับ DeTomaso นี่จะเรียกว่าลืมไปทั้งแบรนด์เลยก็ยังได้ไม่ใช่แค่เฉพาะซูเปอร์คาร์เท่านั้น เพราะคงมีแต่พวกคลั่งรถคลาสสิกที่อาจจะยังเก็บ DeTomaso แบรนด์รถจากอิตาลีนี้ไว้ในดวงใจเสมอมา โดยเฉพาะ DeTomaso Pantera (ส่วน DeTomaso Mangusta นั้นเลอค่ามากอยู่แล้ว) รถสปอร์ตที่เคยได้รับความนิยมมากในยุค 70 และขายลากยาวมาจนถึงต้นยุค 90 โดยดีไซน์หลักยังคงเดิม ส่วนเครื่องยนต์ปีแรกเริ่ม (1971) เป็นของ Ford แบบ V8 ขนาด 5.8 ลิตร วางไว้ในตำแหน่งกลางลำด้านท้าย ให้กำลังสูงสุด 335 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.5 วินาที
 
7. จากัวร์ เอ็กซ์เจ220 (Jaguar XJ220)

supercar

supercar
ภาพจาก gtspirit

           Jaguar XJ220 ไฮเปอร์คาร์ยุคแรกจากอังกฤษที่เปิดตัว Concept Car อย่างอลังการในปี 1988 ทำให้ลูกค้าระดับเศรษฐีพากันแห่จองมากมายเพราะนอกจากจะสวยหยดย้อยมากแล้วรถคันต้นแบบนั้นยังใช้เครื่องยนต์ V12 ถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ Ferrari F40 และ Porsche 959 เลยทีเดียว แต่ปรากฏว่าพอจะผลิตจริง Jaguar XJ220 ดันปรับสเปคเป็นเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ซะอย่างนั้น ลูกค้าเลยรับไม่ได้ เหมือนโดนแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจแล้วกระชากออกมาแทงซ้ำอีกรอบเพราะจะยกเลิกใบจองก็ไม่ได้ (สัญญาเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ผลิต) แถมจะโดนฟ้องกลับด้วยถ้าไม่รับรถ ทำให้อาการสาหัสไปอีกจนเกิดการขายใบจองกันระนาว
 
           อันที่จริงเรื่องราวดี ๆ สำหรับ Jaguar XJ220 นั้นมีมากมายเพียงแต่ประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ V12 ค่อนข้างอื้อฉาว (ความจริงเครื่อง V6 นี้นับว่าร้ายกาจมากแต่ยุคที่ Down Sizing ไม่ใช่กระแสนิยมย่อมไม่มีใครปลื้มหรอก) ทำให้อนาคตหลังจากนั้นของ XJ220 ดูไม่ค่อยดีนัก แต่สถานการณ์ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปและ XJ220 ถูกเลื่อนขึ้นทำเนียบไฮเปอร์คาร์ระดับตำนานไปเรียบร้อยรวมถึงราคาค่าตัวก็พุ่งขึ้นเช่นกัน ซึ่งถ้าใครเห็นคันจริงวิ่งในไทย (ซึ่งมีและสภาพยังปิ๊งวิ่งได้ดีเหมือนใหม่เสียด้วย) ก็กราบงาม ๆ ได้เลย

8. เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอล 73 เอเอ็มจี (Mercedes-Benz SL 73 AMG)

 
supercar

supercar
ภาพจาก autoevolution.com

           ถ้าจะวัดกันที่พละกำลัง 525 แรงม้า ของรถสปอร์ตเปิดประทุนอย่าง Mercedes-Benz SL 73 AMG จะบอกว่าเป็นซูเปอร์คาร์ก็คงพอได้ ถึง Mercedes-Benz SL รหัสตัวถัง R129 คันนี้ จะมีเวอร์ชั่นธรรมดาเป็นรถสปอร์ตทั่วไปที่ไม่ได้ติดตรา AMG ก็ตาม และอาจเพราะเหตุนี้ทำให้ Mercedes-Benz SL 73 AMG ถูกจัดให้เป็นซูเปอร์คาร์ที่ถูกลืม ถึงจะมีเครื่องยนต์ V12 ขนาด 7.3 ลิตร ที่ปรับแต่งโดย AMG สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.8 วินาที ก็ไม่ช่วยอะไร เครื่องยนต์ตัวนี้เลยขอไปเกิดใหม่ในร่างไฮเปอร์คาร์แท้ ๆ อย่าง Pagani Zonda ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเสียดีกว่าก่อนที่จะถูกลืมไปพร้อม ๆ กับ Mercedes-Benz SL 73 AMG
 
9. โนเบิล เอ็ม600 (Noble M600)

supercar

supercar
ภาพจาก Noble

           Noble M600 ซูเปอร์คาร์ทำมือสัญชาติอังกฤษ ซึ่งยังคงรับออร์เดอร์ผลิตจำหน่ายในปัจจุบันด้วยราคาที่น่าจะต้องจ่ายมากกว่า 200,000 ปอนด์ หรือราว 9 ล้านบาท เพื่อแลกกับประสบการณ์การขับขี่ในระดับใกล้เคียงกับไฮเปอร์คาร์อย่าง Ferrari F40 หรือ McLaren F1 ด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตร ของยามาฮ่า !! ที่ให้กำลังประมาณ 560 แรงม้า และแรงบิด 820 นิวตันเมตร ซึ่งหลายคนคงไม่แปลกใจเพราะ Yamaha คลุกคลีอยู่ในวงการ F1 มานาน และ Volvo เองก็ใช้เครื่องยนต์นี้ใน Volvo S80 และ XC90 (รุ่นย่อยที่ใช้เครื่องยนต์ 4.4 ลิตร แต่ให้กำลังน้อยกว่า) ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ Noble M600 วิ่งในสนามได้เร็วพอ ๆ กับไฮเปอร์คาร์อีกหลายคัน แต่อาจเพราะชื่อเสียงและรูปร่างหน้าตาไม่โดนใจนัก หลายคนจึงมองข้าม Noble M600 ไปอย่างน่าเสียดาย
 
10. เวกเตอร์ ดับบลิว8 (Vector W8)

supercar

supercar
ภาพจาก road&track

           ซูเปอร์คาร์ระดับไฮเอนด์ของอเมริกันช่วงต้นยุค 90 ที่มีงานดีไซน์เหมือนหลุดจากภาพยนตร์แนวไซไฟเทคโนโลยีอากาศยานและ Vector W8 ถือเป็นรถ Production Car รุ่นแรกที่นำคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้เป็นส่วนของตัวถังหลักเปิดตัวพร้อมกับดีไซน์ทรงลิ่มและแบนเตี้ยมากเหมือนยานอวกาศ ซึ่งใช้เครื่องยนต์ V8 ความจุ 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบของเครือ GM ให้กำลังสูงสุด 650 แรงม้า และแรงบิด 880 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาประมาณ 4 วินาที (เมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้ว) สามารถทำแซงหน้า Ferrari และ Lamborghini ด้วยความเร็วสูงสุดที่มากกว่า 350 กม.ชม. ซึ่งยุคนั้นทั้งสองรายที่กล่าวมายังวิ่งป้วนเปี้ยนได้อยู่แถว ๆ 320 กม./ชม. เท่านั้น

           ทั้งนี้ซูเปอร์คาร์อย่าง Vector ถือว่ามาเร็วไปเร็วมากอีกหนึ่งรุ่น แม้ปัจจุบัน Vector Motors จะยังคงอยู่และมีโปรเจคท์สร้าง Vector WX8 ไฮเปอร์คาร์ พละกำลังมากกว่า 2000 แรงม้า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเราจะมีโอกาสได้เห็นมันเกิดขึ้นอีกหรือไม่
 
           อย่างไรก็ตามไม่ว่ารถสปอร์ตหรือซูเปอร์คาร์เหล่านี้อาจถูกลืมไปบ้างเมื่อเทียบกับกระแสความนิยมในปัจจุบัน แต่ไม่ได้หมายความว่ารถเหล่านี้จะไม่มีคุณค่าต่อวงการยานยนต์อีกต่อไปเพราะเกือบทั้งหมดก็ถูกจัดขึ้นทำเนียบแรร์ไอเทมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 ซูเปอร์คาร์ ที่ไม่เปรี้ยงจนโลกลืมเลือน อัปเดตล่าสุด 22 มิถุนายน 2564 เวลา 10:39:39 29,886 อ่าน
TOP
x close